รออวดผลงาน 4 ปี มาร์คขอประยุทธ์โชว์จุดยืนชัดเจน
“บิ๊กตู่” ออกปากเตือนหาเสียงระวัง ป.ป.ช.จ้องอยู่ กระตุกพรรคการเมืองมุ่งเอาชนะคะคานทำลายรากฐาน ย้ำอีกพลังประชารัฐยังไม่ทาบทามมา พูดย้อนแย้งจะให้ยึด-ไม่ยึด รธน. “สุริยะ” ยัน ส.ป.ก.ทองคำไปทางเดียวกับนายกฯ “มาร์ค” ขอ “ประยุทธ์” โชว์จุดยืนชัดๆ เย้ย “ชัชชาติ” ฝันกวาด ส.ส. 375ที่ “นิพิฏฐ์” แท็กทีมหลายพรรคลุยแก๊งตกเขียว “มิตติ” ปฏิเสธ ทษช.ทาบ “ดร.โกร่ง” ขึ้นเบอร์ 1 “ชัชชาติ” วัดใจ ปชต.กับเผด็จการ “สุทิน” ย้อนแสบ “สุริยะ” หลงบารมีสำคัญตัวผิด ทนาย “ปู” ติง “สุภา” เปิดข้อมูลลับ
ทุกฝ่ายยังคงรอประกาศพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง ส.ส. เพื่อทราบถึงทิศทางการเมืองที่ชัดเจน ท่ามกลางเสียงเรียกร้องจากฝ่ายการเมืองให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. แสดงจุดยืนที่ชัดเจน แต่ พล.อ.ประยุทธ์ยังยืนยันว่า ยังไม่ได้รับทาบทามจากพรรคพลังประชารัฐ
“บิ๊กตู่” ชมสมบัติโบราณชาติ
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 22 ม.ค. ที่ทำเนียบ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อนประชุมนายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม นำคณะเข้าพบเพื่อประชาสัมพันธ์นิทรรศการ “การเยี่ยมชมโบราณวัตถุของไทยจากสหรัฐอเมริกากลับคืนสู่มาตุภูมิ” จำนวน 46 รายการ ส่วนใหญ่อยู่ในยุคก่อนประวัติศาสตร์วัฒนธรรมบ้านเชียงสมัยต้น มีอายุราวๆ 3,000-4,300 ปีมาแล้ว โดยนายกฯได้สอบถามว่าเจ้าของเต็มใจส่งมอบคืนให้หรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ ยืนยันว่าทุกคนเต็มใจให้เป็นสมบัติของชาติ จดบันทึกขึ้นทะเบียนไว้ทุกชิ้น ต่อมา พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผวจ.เลย นำกลุ่มผลิตภาชนะจากกาบหมาก กาบกล้วย ใบตอง แห้ง ใบสัก บ้านท่าดีหมี อ.เชียงคาน เข้าพบ เพื่อแสดงนวัตกรรมผลิตภาชนะจากวัสดุธรรมชาติทดแทนการใช้โฟม
...
รออวดผลงาน 4 ปีรัฐบาล คสช.
จากนั้น พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.แรงงาน นำตัวแทนลูกจ้างกลุ่มใหม่ที่ได้รับการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.เงินทดแทน เข้าพบ ซึ่งกฎหมายดังกล่าวช่วยลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาสการเข้าถึงบริการของรัฐ ให้ลูกจ้างได้รับประโยชน์ และนายจ้างได้รับความเป็นธรรม สำหรับวาระการประชุม ครม.จะมีการพิจารณารายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาลปีที่ 4 จำนวน 421 หน้า จัดทำเป็นรูปเล่มก่อนเสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แบ่งเนื้อหาออกเป็น 6 ด้าน อาทิ การสร้างความปรองดองสมานฉันท์ ความมั่นคง สังคม เศรษฐกิจ สาธารณสุข การต่างประเทศ ด้านกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม รวมถึงเรื่องการปฏิรูปที่เป็นวาระแห่งชาติ โดยหน้าปกเป็นรูปนายกฯกับชาวบ้าน
พูดย้อนแย้งให้ยึด-ไม่ยึด รธน.
ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์หลังประชุม ครม.ว่า เมื่อร่างรัฐธรรมนูญมาแบบนี้เราต้องยอมรับ ไม่เคยไปเกี่ยวข้อง เป็นเรื่องคณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญที่นำบทเรียน ปัญหาอุปสรรค มาแก้ไขจนเป็นกติกาใหม่ แต่หลายคนกลับไม่ยอมรับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่านประชามติ ต้องเคารพเสียงประชาชน และปฏิบัติตามกติกาใหม่ให้ได้ จากนั้นค่อยดูว่ามีอะไรที่ดีขึ้นบ้าง แก้ปัญหาเดิมๆได้หรือไม่ ความขัดแย้งลดลงหรือไม่ เรามักให้ความสำคัญกับรัฐธรรมนูญที่สุด แต่กฎหมายลูกทุกคนกลับไม่ค่อยสนใจ ไม่ว่าจะเป็น พ.ร.ฎ., พ.ร.ก., กฎกระทรวง ทุกคนเอาแต่รัฐธรรมนูญมาสู้กัน ทุกคนต้องดูสิ่งที่รัฐบาลทำมายืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้แก้กฎหมายให้เฉพาะผู้ประกอบการรายใหญ่ เราทำให้กับรายเล็กๆจำนวนมาก เพื่อให้เกิดความเป็นสากล
เตือนหาเสียงระวัง ป.ป.ช.จ้องอยู่
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า เรื่องการหาเสียงคงต้องระมัดระวัง โดยเฉพาะการใช้จ่ายงบประมาณ ขอร้องอย่าไปพูดจาอะไรที่ไม่ถูกกฎหมาย ระวังวันข้างหน้าด้วย เพราะคณะกรรมการป้องกันและปราบ ปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ออกระเบียบจำนวนมาก ขอเตือนพรรคการเมืองด้วย อย่าลืมว่า การก่อสร้างบ้านของเราขณะนี้อยู่ระหว่างการตอกเสาเข็มต่อเติมพื้นล่างขึ้นมา แล้วพวกท่านยังจะมาทำลายรากฐาน ทำลายกฎหมายทุกตัว ประเทศจะไปได้หรือ ขอร้องอย่าทำลายสิ่งเหล่านี้เพียงเพื่อเอาชนะทางการเมือง ตรงนี้จะทำให้เสียประโยชน์กับคนทุกฝ่าย ประชาชนทุกกลุ่มจะเสียหาย ทุกคนที่ออกมาพูดเคยอยู่ในการบริหารราชการแผ่นดินมาแล้วทั้งสิ้น
พลังประชารัฐยังไม่ทาบทามมา
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.คงออกมาเร็วๆนี้ ฉะนั้นต้องเข้าใจว่ารัฐบาลนี้ต้องทำงาน และเป็นรัฐบาลที่มาด้วยวิธีพิเศษ แก้ปัญหาที่เป็นวาระแห่งชาติ อย่าไปมองเรื่องได้เปรียบเสียเปรียบ เพราะไม่ได้ทำเพื่อใครทั้งสิ้น เมื่อถามถึงบทบาทและอนาคตทางการเมืองหลังเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า บอกหลายครั้งแล้ว อยู่ในช่วงการตัดสินใจว่าควรจะอยู่ทำงานต่อหรือไม่ พรรค การเมืองต้องมาเชิญก่อน และต้องเป็นพรรคที่ทำงานด้วยความตั้งใจ ทำให้บ้านเมืองเปลี่ยนแปลงในวันข้างหน้า เมื่อถามว่าพรรคพลังประชารัฐเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในเวลานี้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า “ยังไม่รับการติดต่อจากพรรคพลังประชารัฐ”
“บิ๊กป้อม” ยังงอนแค่ยิ้มบางๆให้สื่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังประชุม ครม. ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เกี่ยวกับมาตรการแก้ปัญหาฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐาน แต่ พล.อ.ประวิตรยังคงนิ่งเฉยไม่ตอบคำถามใดๆ เพียงแต่ยิ้มให้สื่อและขึ้นรถออกจากทำเนียบ วันนี้ถือเป็นวันที่ 6 ที่ พล.อ.ประวิตรไม่ให้สัมภาษณ์ประเด็นการเมือง หลังเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์คำให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.ประวิตร ตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค.เป็นต้นมา
มท.1 ปัดตั้ง กก.ตรวจสอบเลือกตั้ง
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าว ถึงกระแสข่าวการตั้งศูนย์ดูแลการเลือกตั้งของกระทรวงมหาดไทยว่า ไม่มี ทุกอย่างต้องเป็นไปตามที่ กกต.กำหนด ไม่มีการตั้งกรรมการอะไร ส่วนการลงพื้นที่หาเสียงของพรรคการเมือง ทุกอย่างอยู่ในสภาพเรียบร้อย ไม่มีอะไรต้องจับตาเป็นพิเศษ เมื่อถามถึงกรณีกลุ่มว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.หลายพรรคใน จ.พัทลุง ร่วมแถลงข่าวประเด็นการเก็บบัตรประชาชน พล.อ.อนุพงษ์ตอบว่า ได้สอบถามในเบื้องต้น ไม่ใช่การเก็บบัตรประชาชน แต่เป็นกรณีที่บางหน่วยงานรับบัตรประชาชนไว้แล้ว ประชาชนไม่มาเอาคืน ไม่ใช่การเก็บบัตรประชาชน เขาไม่มารับคืนแล้วไปแจ้งบัตรหาย สามารถให้รายละเอียดได้ และมันไม่ใช่เพิ่งเกิด ถ้าเก็บกันตอนนี้ก็ต้องแจ้งหายกันตอนนี้ แต่จากการตรวจสอบมีการแจ้งหายนานแล้ว ไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมืองหรืออะไร
“สุริยะ” ยันไปทางเดียวกับนายกฯ
ที่ตลาดเทศบาลหนองหลวง อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งภาคอีสาน พรรคพลังประชารัฐ กล่าวระหว่างลงพื้นที่หาเสียงช่วยทีมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สกลนคร ถึงนโยบายแปลงที่ดิน ส.ป.ก.เป็นทุนว่า ประชาชนยังมีข้อเรียกร้องต้องการให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะการใช้ที่ดินได้ตามสภาพที่แท้จริง เนื่องจากปัจจุบันที่ดินบางพื้นที่เป็นบริเวณที่ไม่เหมาะสมสำหรับทำเกษตรกรรม ทราบว่านายกฯกำลังให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาหาแนวทาง สอดคล้องกับแนวทางพรรคพลังประชารัฐ ให้สามารถนำที่ดินไปใช้ให้เหมาะสมกับสภาพที่แท้จริง ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนในการประกอบอาชีพให้มีรายได้มากขึ้น รวมทั้งทำให้ที่ดินมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น แต่ยังคงยึดหลักการเรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดิน ยังคงเป็นของ ส.ป.ก.เหมือนเดิม ดังนั้น ข้อห่วงใยที่หลายฝ่ายมองว่าที่ดินจะตกเป็นของนายทุนนั้น เป็นไปไม่ได้แน่นอน
“มาร์ค” ขอนายกฯโชว์จุดยืนชัดๆ
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เห็นข่าวว่ารัฐบาลจะประกาศ พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้ง ส.ส. เร็วๆนี้ ส่วนกลุ่มคนอยากเลือกตั้งที่ออกมาเคลื่อนไหว ถ้าใช้สิทธิเสรีภาพในขอบเขตก็สามารถทำได้ ไม่อยากให้นำไปสู่ความขัดแย้งหรือรุนแรงใดๆ ขอให้ทุกฝ่ายเคารพสิทธิหน้าที่ซึ่งกันและกัน ความชัดเจนทั้งหมดทุกคนรอรัฐบาลดำเนินการอยู่ เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ควรชัดเจนได้แล้วหรือไม่ว่าจะตอบรับ พรรคใด นายอภิสิทธิ์ตอบว่า ตามหลักหากจะเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ต้องมีพรรคการเมืองเสนอ ตอนนี้พูดอะไรไม่ได้จนกว่าจะมีคนออกมายืนยันว่าจะเสนอชื่อท่าน ยกเว้นว่าจะไม่รับการเสนอชื่อ
บี้ กกต.ปราบตกเขียวล่วงหน้า
เมื่อถามว่า นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุว่ามีการเก็บบัตรประชาชนในพื้นที่เข้าข่ายซื้อสิทธิ์ขายเสียงล่วงหน้า นายอภิสิทธิ์ตอบว่า ตอนนี้ไม่ได้มีแค่นายนิพิฏฐ์พูดคนเดียว แต่เห็นข่าวมีหลายพรรคออกมาพูดยืนยันเหมือนกัน จึงอยากให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เข้าไปดู เพราะเรามีข้อมูลและอยากให้ความร่วมมือกับ กกต. พรรคประชาธิปัตย์มั่นใจว่าเราทำตามกฎหมายทุกอย่าง การที่ กกต.ออกมาระบุว่ามีพรรคการเมืองเพียง 2 พรรคที่ทำตามกฎระเบียบคงไม่เป็นเงื่อนเวลาในการเลื่อนเลือกตั้ง เพราะเข้าใจว่า กกต.สรุปแค่พรรคเก่า ส่วนพรรคใหม่ก็มีข้อกำหนดเช่นกัน เป็นเรื่องที่ทุกพรรคต้องเร่งไปทำตามกรอบเวลา พรรคไหนอยากลงสมัครรับเลือกตั้งก็ต้องทำตามให้ได้
เย้ย “ชัชชาติ” ฝันกวาด ส.ส. 375 ที่นั่ง
เมื่อถามถึงกรณีพรรคเพื่อไทยเปิดตัวนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย มีกระแสตอบรับดีมาก และมีชื่อเป็นแคนดิเดตว่าที่นายกฯ นายอภิสิทธิ์ตอบว่า ไม่ทราบ และไม่รู้ว่าพรรคเพื่อไทยจะมีข้อยุติในเรื่องผู้สมัครอย่างไร การที่นายชัชชาติประกาศว่าจะกวาด ส.ส. 375 ที่นั่งนั้น ไม่ได้กังวล หากเอาที่ทุกพรรคประกาศที่นั่งออกมารวมกัน คิดว่าคงต้องสร้างรัฐสภากันใหม่อีกรอบ
ลั่น ปชป.คือคำตอบสุดท้าย
ต่อมานายอภิสิทธิ์เดินทางไปเปิดศูนย์อำนวยการพรรคประชาธิปัตย์ เขต 16 คลองสามวา ให้แก่นางฮูวัยดีย๊ะ พิศสุวรรณ อุเซ็ง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. โดยมีนายสรรเสริญ สมะลาภา รองหัวหน้าพรรคดูแลภาค กทม. นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ร่วมด้วย นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า พรรคเราพร้อมเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล วันนี้ไม่ต้องถามแล้วว่าพรรคประชาธิปัตย์จะไปร่วมกับใคร แต่ให้ถามว่าใครจะมาร่วมกับเรา ตลอดเวลา 5 ปีที่ลงพื้นที่ทำให้ทราบดีว่าประชาชนต้องการอะไร ไม่ได้ต้องการให้ใครอยู่ต่อ หรือให้ใครกลับบ้าน แต่รอให้มีคนมาทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น และการเมืองไม่กลับไปขัดแย้งเหมือนในอดีต ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์เป็นคำตอบ
“นิพิฏฐ์” ยกทีมลุยแก๊งตกเขียว
ที่ จ.พัทลุง นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นำว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พัทลุงหลายพรรค ได้แก่ พรรคประชาธิปัตย์ ไทยรักษาชาติ พลังธรรมใหม่ และชาติไทยพัฒนา ยื่นหนังสื่อถึง ผวจ.พัทลุง และ กกต.พัทลุง ให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเฉียบขาดกรณีมีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคการเมืองหนึ่งออกมาเก็บบัตรประชาชนจากชาวบ้าน โดยอ้างว่าเป็นการสมัครสมาชิกพรรค
นายนิพิฏฐ์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้เข้าพบ พล.ต.ต.ธรัฐชา ถมปัทม์ ผบก.ภ.จ.พัทลุง ขอให้ตำรวจเข้าไปตรวจสอบพฤติกรรมของพรรคดังกล่าว และจะรวบรวมหลักฐานที่เก็บรวบรวมได้ประมาณ 5,000 คน เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนไปยัง ผบ.ตร. และ กกต.กลาง เร็วๆนี้ แต่ที่ไม่มอบให้กับ กกต.พัทลุง เพราะไม่ไว้ใจในการปฏิบัติหน้าที่ ด้านนายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผวจ.พัทลุง กล่าวว่า มิได้นิ่งเฉยต่อปัญหาดังกล่าว และมีหนังสือถึง หน.ส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน กำชับให้วางตัวเป็นกลางแล้ว
“มิตติ” ปฏิเสธข่าวทาบ “ดร.โกร่ง”
ด้านนายมิตติ ติยะไพรัช เลขาธิการพรรคไทยรักษาชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวพรรคจะเสนอชื่อนายวีรพงษ์ รามางกูร หรือ ดร.โกร่ง อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นแคนดิเดตนายกฯในบัญชีรายชื่อของพรรค ว่า ขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อหรือทาบทามนายวีรพงษ์ตามที่มีกระแสข่าว เพราะนายวีรพงษ์เป็นผู้ใหญ่ในบ้านเมืองที่คอยให้ข้อคิดเตือนสติสังคมในเรื่องต่างๆ วันนี้พรรคกำลังพิจารณาถึงผู้สมัคร ส.ส.ระบบเขตเลือกตั้ง และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยจะชัดเจนประมาณวันที่ 23-24 ม.ค. เราจะพยายามส่งผู้สมัครให้ได้มากที่สุด
“ชัชชาติ” วัดใจ ปชต.กับเผด็จการ
ช่วงเช้าวันเดียวกัน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่หาเสียงร่วมกับนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร อดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ อดีต รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.มหาสารคาม นายอดิศร เพียงเกษ และนายสุทิน คลังแสง โดยนายชัชชาติและคณะได้เข้ากราบสักการะพระธาตุนาดูน และเดินพบปะประชาชนในตลาดสดเทศบาลตำบลปะหลาน อ.พยัคฆภูมิพิสัย นายชัชชาติกล่าวว่า การมีรัฐบาลจากการเลือกตั้งเป็นเรื่องสำคัญ สัญญาว่าหากได้เป็นรัฐบาลจะดูแลรายได้สินค้าเกษตร การรักษา พยาบาล การศึกษาให้เท่าเทียม เพราะมันคือประชาธิปไตย ที่ทุกคนต้องเท่าเทียมกัน การเลือกตั้งครั้งนี้สำคัญ เป็นการแข่งขันกันระหว่างประชาธิปไตยกับพวกเผด็จการที่ปลอมตัวมาเป็นนักประชาธิปไตยนี่คืออนาคตของประเทศไม่ใช่พวกที่เอาการเลือกตั้งมา เป็นทางลัด เพื่อเข้ามาบริหารประเทศ พวกไม่เลื่อมใสประชาธิปไตย
ย้อนแสบไร้บารมีสำคัญตัวผิด
นายสุทิน คลังแสง สมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ พูดทวงบุญคุณกับนายอดิศร เพียงเกษ นั้น นายสุริยะคงหลงประเด็น นายอดิศรท้วงติงถึงความคาดหมายต่อจำนวน ส.ส.ว่ามากเกินจริง ด้วยเหตุผลว่าอุดมการณ์ทางการเมืองของคนขอนแก่นไม่สนับสนุนเผด็จการ แทนที่จะตอบโต้ด้วยการแสดงภูมิรู้เรื่องหลักการ หรือแสดงตัวบ่งชี้ถึงค่านิยมของประชาชน กลับไปงัดเอาเรื่องส่วนตัวเรื่องบุญคุณ ซึ่งไม่ใช่สาระที่คนสนใจ นี่คือตัวตนของนักการเมืองแบบนายสุริยะและกลุ่มสามมิตร ที่ไม่สนใจต่อหลักการ และคนจะเป็นรัฐมนตรีเป็นการตัดสินใจของคณะผู้บริหารพรรค ไม่เชื่อว่านายสุริยะคนเดียวจะมีบารมีขนาดนั้น เพราะนายอดิศรเองมีชื่อชั้น ทำประโยชน์ให้พรรค และมีความสามารถพอ คงไม่ต้องไปพึ่งใคร
“สุวัจน์” ปักหลักฐานที่มั่นโคราช
ที่ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา เป็นประธานเปิดสำนักงานศูนย์ประสานงานพรรคชาติพัฒนา มีนายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรค นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ที่ปรึกษาพรรค ร่วมเปิดตัวนายไกรสีห์ หล่อธราประเสริฐ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา นายสุวัจน์กล่าวว่า เราได้บอกกับพี่น้องประชาชน ยึดนโยบายทางสายกลาง “No problem” เราเป็นพรรคนักกีฬา เชื่อว่าหลักของกีฬาเป็นหลักที่ทำให้เกิดความสำเร็จในการพัฒนาประเทศ “รู้แพ้ รู้ชนะ มีวินัย ให้อภัย สามัคคี ทีมเวิร์ก อดทน” เล่นการเมืองแบบเล่นกีฬาเพื่อลดความขัดแย้ง นำความสุขมาสู่พี่น้องประชาชน
อนาคตใหม่ชงโมเดลจัดการที่ดิน
ที่เวียงหนองหล่ม จ.เชียงราย นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ลงพื้นที่รับฟังปัญหากรณีการจัดการที่ดินสาธารณสมบัติ นายปิยบุตรกล่าวว่า เวียงหนองหล่มเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำขนาดใหญ่ เป็นแหล่งพันธุ์ปลา พืช นกหลายชนิด ครอบคลุมเขต อ.แม่จัน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เดิมมีพื้นที่กว่า 30,000 ไร่ แต่ปัจจุบันถูกบุกรุกจับจอง บางแห่งมีการออกโฉนดเอกสารสิทธิถือครอง ภายหลังพบว่านายทุนกว้านซื้อต่อและปลูกพืชเชิงเดี่ยว อาทิ ยางพารา สับปะรด ทำให้ปัจจุบันเหลือพื้นที่สาธารณะราว 10,000 ไร่ พรรคอนาคตใหม่มีนโยบายจัดการเรื่องที่ดินลักษณะนี้ ที่เรียกว่า common หรือสมบัติร่วม ที่ไม่ใช่เอกชนหรือรัฐเป็นเจ้าของ แต่เป็นของชุมชนหรือท้องถิ่นร่วมกันจัดการ วันนี้นอกจากเรื่องที่ดินสาธารณะที่ลดลงแล้ว สารเคมีที่มาจากการปลูกพืชเชิงเดี่ยว ทำให้ทรัพยากรธรรมชาติ พันธุ์พืช พันธุ์ปลา และสัตว์อื่นหายไปมาก
ชทพ.ยันคุณสมบัติครบส่ง ส.ส.
ด้านนายนิกร จำนง ผอ.พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า พรรคได้ดำเนินการตาม พ.ร.บ.พรรคการเมืองครบถ้วนทุกขั้นตอน ได้ประสานงานตรวจสอบกับสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งได้รับการยืนยันว่าได้ปฏิบัติถูกต้องครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว พรรคชาติไทยพัฒนาจึงมีสิทธิส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ส่วนการลงพื้นที่หาเสียงนั้น ในวันที่ 24-25 ม.ค. น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค พร้อมด้วยแกนนำ จะลงพื้นที่ที่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ และ อ.เกาะคา จ.ลำปาง ทำกิจกรรมและแนะนำตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กับประชาชนในพื้นที่ด้วย
“ยงยุทธ” ประกาศโละสัมปทาน
ที่ อ.เชียงขวัญ จ.ร้อยเอ็ด นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภา นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช. ในฐานะผู้สนับสนุนพรรคเพื่อชาติ ลงพื้นที่พบประชาชน นายยงยุทธกล่าวว่า ต่อไปนี้เราจะช่วยกันสร้างพรรคเพื่อชาติ ซึ่งเป็นพรรคของคนจนที่ต้องการความยุติธรรม ต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศไปในทางที่ดีขึ้น ต้องการลดความขัดแย้งคนในชาติ ประชาชนต้องไม่เลือกพรรคที่สนับสนุนเผด็จการพรรคเพื่อชาติต้องทำให้ทุกคนดีต่อกัน อย่าให้มือที่สามเข้ามายุให้เกิดความแตกแยกอีก ส่วนนโยบายที่ดีก็ต้องทำ และเราจะยกเลิกสัมปทานผูกขาดที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาขีดความสามารถของคนจน
“ตู่” ใช้หนามยอกเอาหนามบ่ง
นายจตุพรกล่าวว่า รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทำให้พรรคการเมืองต้องแตกตัวเป็นพรรคเล็กพรรคน้อย รวมถึงพรรคเพื่อชาติ เราจะแข่งขันอย่างเต็มที่ส่งผู้สมัครครบทั้ง 350 เขต สิ่งสำคัญของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ได้อยู่ตอนหาเสียง แต่อยู่ที่ผลการเลือกตั้ง คะแนนของพรรคฝั่งประชาธิปไตยทุกพรรคจะนำมาเทรวมกัน ถามว่าจะเป็นการตัดคะแนนพวกเดียวกันหรือไม่ ตนกลับมองว่าจะเป็นการเพิ่มคะแนนให้กับฝ่ายประชาธิปไตย ถ้าเราไม่ปรับตัวให้เท่าทัน อาจจะแพ้ ดังสุภาษิตที่ว่าหนามยอกเอาหนามบ่ง ฝั่งตรงข้ามทำอย่างไรเราก็ทำเช่นนั้น
“พิชัย” บลัฟ รบ.ไร้ความเชื่อมั่น
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ ประธานคณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคไทยรักษาชาติ กล่าวว่า ตัวเลขการส่งออกเดือน ธ.ค.2561 ติดลบ 1.7% เป็นการติดลบครั้งที่ 3 ของปี เป็นสัญญาณชี้ว่าปีนี้การส่งออกไม่น่าจะดีนัก ทั้งค่าเงินบาทที่แข็งค่าจากการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยขึ้นอัตราดอกเบี้ย ยิ่งส่งผลกระทบต่อการส่งออก ดังนั้น รัฐบาลหลังการเลือกตั้งต้องเร่งสร้างความมั่นใจฟื้นการส่งออก และเศรษฐกิจ อาทิ เร่งเจรจาเขตการค้าเสรีกับหลายประเทศ เจรจากับนักลงทุนต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา เพื่อแจ้งให้ทราบว่าไทยกลับสู่ระบอบประชาธิปไตยแล้ว พร้อมสนับสนุนการลงทุนทุกด้าน อยากให้รัฐบาลหลังเลือกตั้งนำไปปฏิบัติ ไม่ว่าใครจะชนะการเลือกตั้ง แต่หากเป็นรัฐบาลเดิมชุดนี้ อาจไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นและฟื้นความมั่นใจได้
“ดอน” ยันต่างชาติไม่ติดใจ
นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ ที่อยู่ระหว่างเดินทางไปร่วมประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน-อียู ครั้งที่ 22 ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมว่า ในที่ประชุมไม่มีใครสอบถามเกี่ยวกับเรื่องการเลื่อนการเลือกตั้งในไทย แต่ระหว่างการหารือทวิภาคีมีบางประเทศที่สอบถามบ้าง แต่เป็นลักษณะการขอข้อมูลเพื่อให้ได้ความชัดเจน ไม่ถึงขั้นถามเพราะคับข้องใจหรืออึดอัดใจกับการเปลี่ยนกำหนดเวลาเลือกตั้ง เมื่อได้อธิบายแล้วก็ไม่ได้มีการซักถามเพิ่มเติมหรือติดใจแต่อย่างใด
ชวนเจียดภาษีให้พรรคการเมือง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกประกาศเชิญชวนประชาชนผู้เสียภาษีที่เป็นบุคคลธรรมดา ให้มีส่วนร่วมทางการเมืองผ่านการแสดงเจตนาอุดหนุนเงินภาษีที่ชำระให้พรรค การเมือง ในแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี (ภงด.90 หรือ ภงด.91) ให้ชัดเจน โดยเลือกอุดหนุน 1 พรรคเท่านั้นในวงเงินไม่เกิน 500 บาท ด้วยการระบุรหัสรายชื่อพรรค และจำนวนเงินที่จะอุดหนุน จากนั้นกรมสรรพากรจะจัดทำรายชื่อพรรคที่ได้รับการอุดหนุนส่งให้นายทะเบียนพรรคการเมือง พร้อมกับโอนเงินเข้ากองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง เพื่อโอนให้พรรค การเมืองที่ได้รับการอุดหนุน สำหรับรหัสรายชื่อพรรคการเมือง สามารถดูข้อมูลได้ในเว็บไซต์สำนักงาน กกต. ปัจจุบันมีอยู่ 100 พรรค
ทนาย “ปู” ติง “สุภา” เปิดข้อมูลลับ
อีกเรื่อง นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. ไปพูดในกิจกรรมพบบรรณาธิการสื่อ ถึงความคืบหน้าการไต่ส่วนคดีทางการเมืองหลายคดี มีการระบุชื่อผู้ถูกกล่าวหาว่ามีใครบ้าง มีการพูดโยงใยถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ในฐานะทนายความของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และในฐานะผู้ได้รับมอบหมายจากนายทักษิณ จึงมีหนังสือไปถึง ป.ป.ช. ขอทราบข้อเท็จจริงเพื่อรักษาไว้ซึ่งสิทธิของผู้ถูกกล่าวหา แต่ได้รับการตอบกลับว่าเรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างการไต่สวน ห้ามมิให้เปิดเผย จึงอยากถามว่าการที่ น.ส.สุภานำรายชื่อผู้ถูกกล่าวหา ที่อยู่ในระหว่างการไต่สวนมาเปิดเผยต่อสื่อ เป็นการกระทำผิดต่อกฎหมาย ป.ป.ช.หรือไม่ และไม่แน่ใจว่ามีเจตนาอย่างไร
คืนตำแหน่งให้พี่ชาย “วราเทพ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ลงนามในหนังสือคำสั่งลงวันที่ 17 ม.ค. ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเรื่องให้บุคคลกลับไปปฏิบัติหน้าที่ราชการในตำแหน่งเดิม ประกอบด้วย นายสมชอบ นิติพจน์ นายก อบจ.นครพนม นายสุรศักดิ์ ปรีชาผล ผอ.กองคลัง อบจ.สมุทรปราการ นายนิพนธ์ บุณยเกียรติ ผอ.กองแผนและงบประมาณ อบจ.สมุทรปราการ นายวิชัย จันทร์จำรูญ ผอ.กองการศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม อบจ.สมุทรปราการ นายอาคม พันธ์เฉลิมชัย นายกเทศมนตรีเทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี นายสุนทร รัตนากร นายก อบจ.กำแพงเพชร นายไพฑูรย์ สัตยวงศ์ทิพย์ ปลัด อบจ.กำแพงเพชร นายบำรุ ผลทวี นายก อบต.มะรุ่ย อ.ทับปุด จ.พังงา และว่าที่ ร.ต.กมล เสถียรดี ปลัดเทศบาลตำบลสำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ