ครม.แจกอั่งเปาช่วงตรุษจีน ใช้บัตรเดบิตรูดซื้อสินค้าได้รับชดเชยคืนร้อยละ 5 ผ่านพร้อมเพย์ หวังส่งเสริมสังคมไร้เงินสด ตั้งงบรองรับ 9,240 ล้าน ยัน ไม่ได้หวังผลทางการเมืองใกล้เลือกตั้ง ศึกษามาตรการนานนับปี
วันที่ 18 ธ.ค. นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามข้อเสนอกระทรวงการคลัง ออกมาตรการชดเชยคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (Vat) ในอัตราร้อยละ 5 ให้กับประชาชนทั่วไป ซื้อสินค้าและชำระเงินผ่านบัตรเดบิตระหว่างวันที่ 1-15 ก.พ. 2562 เพื่อเป็นของขวัญวันตรุษจีน และส่งเสริมสังคมไร้เงินสดตามนโยบายของรัฐบาล ตั้งงบกลางปี 2563 รองรับโครงการดังกล่าวจำนวน 9,240 ล้านบาท เมื่อรูดเงินซื้อสินค้าทั่วไป ไม่รวมสุรา ยาสูบ จะได้รับการชดเชยคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม หวังกระตุ้นการใช้เงินผ่านบัตรเดบิต จากนั้นรัฐบาลโอนเข้าระบบพร้อมเพย์ผูกกับบัตรประชาชนเท่านั้น จากปัจจุบันมีผู้ผูกบัญชีเงินฝากผ่านระบบพร้อมเพย์ 45 ล้านบัญชี
“ยอมรับว่าแม้จะเป็นช่วงใกล้การเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ แต่แนวทางดังกล่าวรัฐบาลได้ศึกษาเพื่อส่งเสริมสังคมไร้เงินสดมาเป็นเวลานานแล้ว และเป็นการกำหนดเพียงช่วงสั้น 15 วัน ไม่ได้มุ่งกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เพราะผู้ถือบัตรเดบิตมีอยู่จำนวนมาก คาดว่าจะประชาชนจะใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตมากขึ้น” นายพุทธิพงษ์ กล่าว
นายพุทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุม ครม.ยังเห็นชอบการบริจาคให้กับสถาบันการศึกษา เพื่อส่งเสริมการศึกษาสำหรับบุคคลธรรมดานำค่าใช้จ่ายหักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า หรือตามจ่ายจริง แต่ไม่เกินร้อยละ 10 ของค่าลดหย่อนทั้งหมดในแต่ละปี สำหรับนิติบุคคล หักลดหย่อนได้ 2 เท่า หรือตามจ่ายจริงแต่ไม่เกินร้อยละ 10 ของกำไรสุทธิในแต่ละปี และต้องบริจาคผ่านระบบ E-Donation ผ่านระบบออนไลน์เพื่อให้สถาบันการศึกษาลงทะเบียนกับกรมสรรพากร จากนั้นผู้บริจาคจะได้ไม่ต้องส่งเอกสารการบริจาคแจ้งกับสรรพากร เพราะได้เชื่อมโยงข้อมูลทั้งหมดแล้ว ยอมรับว่ารัฐบาลสูญเสียรายได้ภาษี 390 ล้านบาท.
...