พรรคการเมืองรุมขย่ม “ประยุทธ์” เป็นนักการเมืองเต็มตัว บี้ไขก๊อกเลิกเอาเปรียบปูพรมหาเสียงถล่มจุดอ่อนแก้เศรษฐกิจ ปชป. ให้ถามประชาชนก่อนให้ไปต่อหรือไม่ “จุรินทร์” อัดประชารัฐเอื้อทุนใหญ่ ประชานิยมเรียกพี่ ชี้เลือกตั้งปี 62 แค่เปลี่ยนผ่านยึดอำนาจด้วยรัฐธรรมนูญ ผวาเกิดพฤษภาทมิฬภาค 2 “พิชัย” ยุอย่าเลือกผู้นำขาดสติปัญญา “ชูศักดิ์” ยกคำพูด “วิษณุ” มัดนายกฯ-4 รมต. อย่าใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ พท.จับเข่าคุยกลุ่มชาวประมง อัดรัฐบาลอ่อนหัดทำจนเจ๊ง “จตุพร” ซัด “บิ๊กตู่” ได้เปรียบสุดๆ ก่อชนวนวิกฤติในวันหน้า หยัน รมต.รับแจก 500 บาทเพราะคนจะอดตาย สะท้อนผลงานแก้เศรษฐกิจเหลว “กัญจนา” ขุดผลงานเตี่ยอ้อนคนปักษ์ใต้ เน้นดูแลสินค้าเกษตร คนรุ่นใหม่ขอรัฐบาลเลือกตั้งสางหนี้สินปากท้อง ป.ป.ช.นัดข้ามปี 4 ม.ค. ถกแก้ประกาศยกเว้นยื่นบัญชีทรัพย์สิน

หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกาศตัวเป็นนักการเมืองเต็มตัว พรรคการเมืองต่างๆมีการหยิบยกประเด็นการเป็นผู้แข่งขัน ในสนามเลือกตั้งมากดดันเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์แสดงสปิริตลาออกจากตำแหน่ง เพื่อไม่ให้เอาเปรียบคู่แข่ง ขณะที่เกือบทุกพรรคพร้อมใจกันหาเสียง โดยชูประเด็นการแก้ปัญหาเศรษฐกิจมาโจมตีว่าเป็นจุดอ่อนของรัฐบาล

ปชป.ให้ถาม ปชช.ให้ “บิ๊กตู่” อยู่ต่อไหม

เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. นายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช.ประกาศยอมรับเป็นนักการเมืองเต็มตัวแล้วว่า เป็นเรื่องที่ดีจะได้ชัดเจนว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นจริง ก่อนหน้านี้เวลาถามว่า เมื่อไหร่จะเลือกตั้งท่านจะหงุดหงิดเป็นพิเศษ วันนี้เมื่ออยากเล่นการเมือง การเลือกตั้งคงมีจริงตามกติกาที่คิดว่าเป็นธรรมแล้ว ระหว่างยังไม่มีใบเชิญเข้าบัญชีว่าที่นายกฯ ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ตัดสินใจให้ดีว่าควรจะเล่นการเมืองดีหรือไม่ ควรถามประชาชนกลุ่มต่างๆเสียก่อน เช่น ชาวสวนยางพาราที่เผชิญปัญหายาง 3 โลร้อย ชาวสวนปาล์มที่รัฐบาลนำเข้าน้ำมันปาล์มจนราคาตก ถามพ่อค้าแม่ค้าในตลาดสดที่นั่งมองตาปริบๆเพราะคนไร้กำลังซื้อ ชาวประมงตกงานเพราะรัฐบาล คสช.เกาไม่ถูกที่คันรอวันเจ๊งว่าเห็นชอบให้ท่านและพรรคพวกเข้ามามีอำนาจบริหารประเทศอีกหรือไม่ เผื่อ พล.อ.ประยุทธ์จะได้คิดออกแล้วค่อยตัดสินใจ

...

ดักคอ พปชร.สวมรอยหาเสียง

นายจุฤทธิ์กล่าวอีกว่า กรณีรัฐบาลสั่ง ผวจ.ทุกจังหวัดเร่งประชาสัมพันธ์ผลงานรัฐบาลนี้ ต้องจับตามอง รัฐบาลต้องแยกให้ออกระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐกับเจ้าหน้าที่ของพรรคการเมือง กกต.ต้องเข้าไปดูว่ามีพรรคใดสวมรอยอ้างใช้ผลงานรัฐบาลหรือไม่ จะถือว่าเข้าข่ายสัญญาว่าจะให้หรือไม่ หรือหวังในผลคะแนนนิยมทางการเมืองหรือไม่ ขอเตือนว่า รัฐบาล คสช.อย่าใช้อำนาจบังคับ ผวจ.และส่วนราชการอื่นเป็นหัวคะแนนหาเสียงให้ตัวเองจะทำให้การเลือกตั้งไม่เป็นที่ยอมรับ ข้าราชการเหล่านั้นต้องเดือดร้อนไปด้วย ที่สำคัญประชาชนต้องรู้เท่าทันว่า สิ่งไหนเป็นสิ่งที่ควรได้ถือว่าเป็นสิทธิ ไม่ต้องไปเป็นหนี้บุญคุณใคร ที่ชอบแอบอ้างผลงานรัฐบาลเพื่อหวังผลการเมือง

ยกคำพูด “วิษณุ” เตือนนายกฯ–4 รมต.

ด้านนายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงาน ฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ระบุหาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯจะอยู่ในบัญชีรายชื่อพรรคการเมือง การไปหาเสียงย่อมไม่เหมาะสม เสี่ยงต่อความผิดหลายอย่างว่าดูจะตรงไปตรงมาดีและเป็นธรรมกับพรรคอื่น พล.อ.ประยุทธ์จะทำตัวเหมือนนายกฯ รักษาการในช่วงที่มีการเลือกตั้งไม่ได้ ขอฝากไปยัง รัฐมนตรีที่ไปตั้งพรรค โดยยกคำพูดนายวิษณุที่กล่าวว่า เราไม่ได้อยู่ได้ด้วยข้อกฎหมายอย่างเดียว ยังมีเรื่องสังคม ความเหมาะสม อาจไม่ผิดกฎหมายแต่เหมาะสมหรือไม่ต้องดูวัน เวลา กาลเทศะเป็นความเห็นที่เข้าท่า การอยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีและไปทำอะไรที่เกี่ยวข้องกับพรรคหมิ่นเหม่ต่อการถูกกล่าวหาว่าใช้อำนาจหน้าที่โดยไม่ชอบ หากการกระทำใดเพื่อประโยชน์แก่ผู้สมัครหรือพรรคใดอันอาจทำให้การเลือกตั้งไม่ได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม กกต.มีอำนาจสั่งให้ผู้นั้นระงับการกระทำนั้นได้

พท.อัดอ่อนหัดทำภาคประมงเจ๊ง

เมื่อเวลา 11.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย รับฟังปัญหาด้านการประมงจากตัวแทนสมาคมชาวประมงจังหวัดทั่วประเทศ โดยคุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า การประมงไทย 3-4 ปีที่ผ่านมา บริหารจัดการโดยไม่เข้าใจ ทำตามต่างชาติโดยไม่ได้ต่อรองให้เหมาะสม แม้จะมีกติกาสากลมาเกี่ยวข้อง แต่ถ้าบริหารจัดการเป็น จะนำรายได้ จากประมงกลับเข้าสู่ประเทศได้อีกครั้ง ประเทศเสียโอกาสให้เพื่อนบ้านมากกลายเป็นอีกหนึ่งจุดอ่อน พรรคเพื่อไทยจะผลักดันให้เสมอภาคในแง่กฎหมาย จะคว้าโอกาสในโลกยุคใหม่ต่อยอดไปสู่การพัฒนาครัวไทยสู่ครัวโลก เป็นผลดีต่อภาคการเกษตร รวมถึง การประมง

เล็งเจรจาผ่อนปรนไอยูยู

จากนั้นนายปลอดประสพ แถลงว่าพรรคลงไปรับฟังปัญหาของประชาชนมาตลอด วันนี้ได้เชิญผู้แทนอุตสาหกรรมประมงทุกสาขาและทุกพื้นที่มารับฟังปัญหา เรายืนยันว่าจะฟื้นฟูการประมงและทรัพยากรประมง จัดระเบียบการประมงให้ยั่งยืน ประเทศไทยไปยอมรับกติกาไอยูยู โดยไม่คำนึงถึงความสมเหตุสมผล ทำให้เกิดกฎระเบียบมากถึง 500 เรื่อง ต้องเจรจากับไอยูยูใหม่อย่างเร่งด่วนเพื่อให้ผ่อนปรน เลือกรับข้อตกลงอย่างสมเหตุสมผล ไม่ให้ทำร้ายชาวประมงและเศรษฐกิจประมงไทย จะพยายามนำประเทศไทยกลับไปสู่การเป็นผู้นำด้านการประมงของภูมิภาคและของโลกอีกครั้ง เรามองเห็นปัญหาจะหาทางแก้ไข ผู้สมัคร ส.ส.ภาคใต้มาจากชาวประมงด้วย

เลื่อนเลือกตั้งอีกก็เสียคน

นายปลอดประสพ กล่าวอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ประกาศเป็นนักการเมืองเต็มตัวแล้ว หากเป็นตนจะทำตัวเป็นนักการเมืองเต็มตัว ไปเดินถนนฟังความเดือดร้อนของประชาชนจริงจัง ไม่ต้องมีคนตามล้อมหน้าล้อมหลัง บอกประชาชนว่าเข้ามาแล้วจะทำอะไร ไม่ใช่บอกเพียงว่าจะเป็นอะไร ส่วนจะลาออกหรือไม่เป็นเรื่องของท่าน รัฐธรรมนูญปัจจุบันให้รัฐบาลมีอำนาจเต็ม แต่ก่อนหน้านี้นายกฯ คนอื่นๆ เคยบริหารในลักษณะรัฐบาลรักษาการ แต่เมื่อรัฐธรรมนูญไม่บัญญัติไว้ก็ไม่จำเป็นต้องปฏิบัติ แต่นักการเมืองเต็มตัวไม่ควรทำเช่นนั้น ปัญหาบัตรเลือกตั้งคงไม่เป็นสาเหตุให้การเลือกตั้งเลื่อนไป คงไม่เลื่อนออกไปอีก หากเลื่อนไปคงเสียหมาเสียคน เลื่อนไม่ได้แล้ว

“ญาติวีรชน” สับรัฐบาลเอื้อนายทุน

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่พรรคเพื่อชาติ นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 เข้าพบนายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช.และผู้สนับสนุนพรรค เพื่อสนับสนุนแนวทางให้ทุกฝ่ายเสียสละเพื่อบ้านเมือง โดยนายอดุลย์ กล่าวว่าเจ็บใจกับคำพูดของหัวหน้า คสช.ว่าจะเข้ามากำจัดความรุนแรงให้คนในชาติสามัคคีปรองดอง แต่การกระทำ 5 ปีล้มเหลว มีเจตนาสืบทอดอำนาจ เศรษฐกิจประเทศพังพินาศ ถลุงเงินแต่หาไม่เป็น มีการทุจริตแทบทุกกระทรวง การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจก็เอื้อนายทุน นำไปสู่ความเหลื่อมล้ำ ประชาชนได้รับเงิน 500 บาท จากรัฐบาล ทำให้รู้สึกอัปยศเหมือนเป็นคนจน หากรัฐบาลบริหารประเทศดี จะหาเงินได้มากกว่า 500 บาท ไม่ต้องให้รัฐบาลช่วยเลย ถ้าพรรคเพื่อชาติได้เป็นรัฐบาล ขอให้ตรวจสอบว่า 5 ปีรัฐบาล คสช.มีโครงการอะไรบ้างที่ไม่ถูกต้อง

“สงคราม” ไม่หวัง ส.ส.ขอบ้านเมืองสงบ

ขณะที่นายสงคราม กล่าวว่าเรื่องที่ญาติวีรชนพฤษภา 35 เสนอมา ตรงตามอุดมการณ์ของพรรคเพื่อชาติ ที่เป็นพรรคของประชาชน คนในพรรคมีอุดมการณ์เดียวกัน อยากเห็นบ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้ พรรคเพื่อชาติไม่ได้หวังเก้าอี้ ส.ส.มากหรือน้อย แต่คิดว่าจะทำอย่างไรให้บ้านเมืองสงบ ไม่โดนปืนจี้หัว เราพี่น้องกันคนชาติเดียวกัน ต้องคุยกันได้ พรรคนี้คุยได้กับทุกคนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน ตามเป้าหมายว่าจะทำเพื่อชาติ ขอยกย่องผู้เสียสละเพื่อชาติบ้านเมืองไม่เคยลืมวีรชนที่เสียสละเพื่อชาติ พร้อมขอขอบคุณทุกคนที่ไม่ทิ้งอุดมการณ์

ขย่มผู้นำทหารไร้กึ๋นแก้ปากท้อง

นายสงคราม กล่าวต่อว่าจากการลงพื้นที่ภาคใต้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่าภาคใต้มีทรัพยากรปริมาณมาก ก่อนหน้านี้คนใต้มีฐานะดีแต่ปัจจุบันกลับยากลำบาก ถ้าพรรคเพื่อชาติมีโอกาสร่วมรัฐบาลจะแก้ปัญหาเหล่านี้ มีแนวคิดลดความเหลื่อมล้ำ ไม่ใช่ดึงคนรวยลงมาให้ยากจน แต่ทำให้คนจนมีฐานะดีขึ้น เหตุที่เกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำ เพราะรัฐบาลนี้เชี่ยวชาญการบริหารเศรษฐกิจน้อย ผู้นำไม่ถนัด ส่วนมากถนัดเรื่องความมั่นคง ประชาชนควรมี ความคิดว่าจะเลือกบุคคลหรือพรรคที่ช่วยให้หลุดพ้นความลำบากยากจน ก่อนมีการเลือกตั้ง ประชาชนตัดสินใจได้เลย ไม่ต้องรอถึงวันเลือกตั้ง

“ตู่” จี้ “ประยุทธ์” โชว์สปิริตลาออก

ด้านนายจตุพรกล่าวว่า ผ่านมา 26 ปีจากเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 2535 เรายังคงเจอเรื่องเดิมๆ ต่างเพียงแค่ตัวบุคคล แต่เศรษฐกิจปี 2535 ประชาชนยังไม่เดือดร้อนเท่ายุคนี้ พ.ศ.นั้นเป็นความขัดแย้งเรื่องประชาธิปไตย ไม่ใช่ปัญหาปากท้อง วันนี้ถ้าทุกฝ่ายไม่ร่วมมือกันประเทศคงไปไม่รอดแม้การเลือกตั้งเกิดขึ้น การพูดคุยกันเป็นสัญญาประชาคมจึงสำคัญ ที่ทุกคนเรียกร้องคือให้รัฐมนตรี 4 คนที่ร่วมพรรคพลังประชารัฐหรือนายกฯลาออก ตราบใดที่ 4 รัฐมนตรีไม่ลาออก พล.อ.ประยุทธ์ก็ไม่ลาออก พรรคพลังประชารัฐจะเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์อยู่ในบัญชีนายกฯเท่ากับเป็นผู้แข่งขัน แต่มีอำนาจเหนือกว่า กกต.ปลด กกต.ได้ แล้วจะเลือกกันอย่างไร ที่อธิบายว่าทุกรัฐบาลไม่มีใครลาออกมันไม่เหมือนกัน ก่อนหน้านี้เป็นรัฐบาลรักษาการ ทำอะไรต้องขอ กกต.แต่รัฐบาล คสช.ไม่ต้องขอ เมื่อใดก็ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์แสดงสปิริตลาออกและลงสมัครรับเลือกตั้งอยู่ในบัญชีผู้ดำรงตำแหน่งนายกฯจะเป็นการแข่งขันที่สะอาด สง่างาม แต่วันนี้ไม่มีความยุติธรรม ถ้าวันนั้นประชาชนเลือก พล.อ.ประยุทธ์ ตนก็ยอมรับ

บลัฟแจก 500 สะท้อนแก้ ศก.เหลว

นายจตุพรกล่าวอีกว่า วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้เปรียบมากที่สุดแล้ว แต่จะทำให้วิกฤติในวันข้างหน้า กลไกต่างๆจะนำพาไปสู่การเลือกตั้งที่ไม่สุจริต บทเรียนปี 2500 ปี 2549 ปี 2557 ได้อธิบายประวัติศาสตร์แล้ว และที่ผ่านมาได้ฟังรัฐมนตรีบางท่านที่ออกมาพูดว่าเหตุที่จ่ายเงิน 500 บาทให้กับคนจน เพราะคนกำลังจะอดตาย คนจนไม่มีรายได้ สะท้อนถึงความล้มเหลว 5 ปีนี้ว่าบริหารประเทศจนกระทั่งคนกำลังจะอดตาย จึงเอาเงิน 500 บาทมาให้ ปัญหาคือเงิน 500 บาทจะแก้ปัญหาการอดตายได้หรือ ประเทศไทยเสียหายกันมามากแล้ว

“จุรินทร์” ชี้มี ปชต.ครึ่งใบไปอีก 8 ปี

เมื่อเวลา 14.30 น. ที่สกายฮอลล์ ชั้น 3 เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเสวนาพิเศษ “เศรษฐกิจ การเมืองไทย หลังเลือกตั้ง” ในงาน “THAILAND Smart Money” ตอนหนึ่งว่า การเลือกตั้งปี 62 เป็นแค่การเปลี่ยนผ่านจากการยึดอำนาจด้วยกำลังไปสู่การยึดด้วยรัฐธรรมนูญ ที่ออกแบบเพื่อสืบทอดอำนาจ ภายใต้ประชาธิปไตยแค่ครึ่งใบ ผู้มีอำนาจสูงสุดควบคุมการเลือกตั้งยังเป็น คสช. ไม่ใช่ กกต. และมาตรา 44 ยังอยู่ไปจนรัฐบาลใหม่เข้าถวายสัตย์ฯ สภาวการณ์เช่นนี้ยังจะอยู่ต่อไปอย่างน้อย 8 ปีหรือ 2 รัฐบาล เพราะบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญบังคับไปถึงการเลือกตั้งครั้งถัดไปหลังจาก 4 ปีของสภาชุดปี 62 การแก้รัฐธรรมนูญมีเงื่อนไขให้แก้ยาก ต้องใช้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของรัฐสภา ส.ส.และวุฒิสภาต้องเห็นพ้องและต้องทำประชามติ

หวั่นเกิดพฤษภาทมิฬภาคสอง

เมื่อถามว่า การเลือกตั้งปี 62 จะเป็นจุดเริ่มต้นการสร้างประเทศหรือจะเกิดความขัดแย้งใหม่ที่สั่งสมมาตลอด 4 ปีหรือไม่ นายจุรินทร์ ตอบว่า เป็นไปได้ทั้ง 2 อย่าง หากการเลือกตั้งบริสุทธิ์ ยุติธรรมเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายการสร้างประเทศก็เริ่มต้นได้ แต่ถึงอย่างไรต้องปฏิบัติตามยุทธศาสตร์ชาติ และแผนปฏิรูปที่ คสช. เขียนบังคับไว้ไม่เช่นนั้นจะโดนข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่มีโทษทางอาญา ส่วนจุดเริ่มต้นความขัดแย้งใหม่จะเกิดได้ เมื่อมีการบังคับเลือกข้างแพ้ไม่ยอมรับหรือการเลือกตั้งไม่สุจริตและยุติธรรม มีการโกงเลือกตั้งใช้อำนาจรัฐเอื้อบางพรรคการเมืองสู่การสืบทอดอำนาจอาจนำไปสู่การปะทุความขัดแย้งถึงขั้นเกิดพฤษภาทมิฬภาค 2 ได้

อัดรัฐอุ้มทุนใหญ่ประชานิยมเรียกพี่

เมื่อถามถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำเศรษฐกิจฝืดเคือง รวยกระจุกจนกระจาย นายจุรินทร์ตอบว่า เป็นจริงทุกข้อ เพราะนโยบายที่ผิดทางของรัฐบาล ทั้งประชารัฐเอื้อทุนใหญ่ไม่กี่ราย และนโยบายประชานิยมเรียกพี่ มุ่งแต่ลดแลกแจกแถมอย่างเดียวนำไปสู่ความเหลื่อมล้ำที่ขยายตัวขึ้นจน “เครดิต สวิส” จัดลำดับไทยเป็นประเทศเหลื่อมล้ำที่สุดในโลก แม้รัฐบาลจะออกมาโต้ว่าใช้ฐานข้อมูลเก่าปี 2549 เป็นฐานคิดแต่กลับไม่บอกว่าตัวเลขการถือครองทรัพย์สินหรือความมั่งคั่งของคนรวยสุด 1% ของประเทศไทยที่ถือครองความมั่งคั่งสูงถึง 66.9% นั้น “เครดิต สวิส” ใช้ตัวเลขการถือครองทรัพย์สินที่นิตยสาร Forbes ประเมินทุกปี รวมถึงปี 2018 นี้ด้วย

“พิชัย” ยุอย่าเลือกผู้นำขาดสติปัญญา

ด้านนายพิชัย นริพทะพันธุ์ ประธานคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) กล่าวว่า อนาคตเศรษฐกิจและการเมืองไทยขึ้นกับผลการเลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ. หาก พล.อ.ประยุทธ์ได้กลับมาเป็นนายกฯอีกเศรษฐกิจไทยจะถอยหลังไปอีก 5-20 ปี ไทยจะล้าหลังเร็วมาก เพราะการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีเกิดขึ้นรวดเร็ว ประเทศต้องไม่เลือกผู้นำที่ขาดวิสัยทัศน์ ขาดวุฒิภาวะทางอารมณ์ ขาดองค์ความรู้ ขาดสติไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นให้กลับมาอีก ผลงาน 4 ปีพิสูจน์แล้วว่าประชาชนลำบากขนาดไหน ขนาดนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์ฯ ยังยอมรับว่าที่ต้องแจกเงินเพราะประชาชนกำลังจะอดตาย ถึงเวลาแล้วที่ประเทศจะก้าวไปข้างหน้าด้วยผู้นำที่มีความรู้ความสามารถ มีปัญญาเป็นอาวุธ ไม่ใช่ถืออาวุธแต่ขาดสติปัญญา เชื่อว่า 4 ปีที่ผ่านมาประชาชนรู้ว่ามีความสุขหรือมีความทุกข์ ถ้ามีความสุขก็เลือกคนเดิมกลับมา หากมีความทุกข์ต้องเปลี่ยนเลือกฝั่งประชาธิปไตย

“กัญจนา” ล่องใต้เน้นแก้ราคาพืชผล

ที่ จ.นครศรีธรรมราช น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) พร้อมแกนนำไปเปิดที่ทำการสาขาพรรคภาคใต้ โดยเข้าสักการะพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช ศาลหลักเมือง และ บูชาองค์จตุคามรามเทพก่อนไปยังสำนักงานพรรคชาติไทยพัฒนา สาขานครศรีธรรมราช ถนนประตูลอด อ.เมือง เป็นประธานพิธีเปิดป้ายที่ทำการสาขา พรรค น.ส.กัญจนากล่าวว่า เราเตรียมผู้สมัครทั่วประเทศประมาณ 320 เขต จุดยืนพรรคไม่เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร ขณะนี้ปัญหาเศรษฐกิจมีปัญหาพอสมควร ทั้งราคายางพารา ปาล์มน้ำมัน ข้าวและประมง หวังว่าจะช่วยแก้ปัญหาให้กับพี่น้องภาคใต้ได้

ขุดผลงานเตี่ยอ้อนขอแบ่งแต้ม

จากนั้น น.ส.กัญจนาเดินทางไปที่โรงแรมแกรนด์ ฟอร์จูน พบปะกับสมาชิกพรรคกว่า 500 คน น.ส.กัญจนากล่าวว่า พรรคชาติไทยพัฒนารับใช้พี่น้องมาตั้งแต่สมัยนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกฯ แม้จะมี ส.ส.บ้างไม่มีบ้าง ไม่เคยทอดทิ้ง เคยสร้างถนนจาก อ.สะเดา ไปมาเลเซีย ปรับปรุงสนามบินภูเก็ตเป็นสนามบินนานาชาติ ที่ภูมิใจมากที่สุดคือโครงการพัฒนาลุ่มแม่น้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ การเลือกตั้งครั้งนี้จะส่งผู้สมัคร ส.ส.ลงภาคใต้มากที่สุด เชื่อมั่นแรงสนับสนุนจากทุกคนจะทำให้เข้าไปรับใช้ประชาชนทั้ง 14 จังหวัด เพื่อแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตร ขณะที่นายธีระ วงศ์สมุทร ที่ปรึกษาพรรค กล่าวบรรยายแนวทางการแก้ปัญหาสินค้าเกษตร ส่วนนายอนุรักษ์ จุรีมาศ รองหัวหน้าพรรค บรรยายข้อกฎหมายที่ควรรู้เกี่ยวกับการเลือกตั้งให้สมาชิกฟัง

พปชร.ท้าประกาศเลิกบัตรคนจน

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่าขณะนี้มีผู้ไม่หวังดีแชร์คลิปโจมตีโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐว่าคนรวยก็ได้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งไม่เป็นความจริง คนจนไม่จริงรัฐบาลสั่งการให้ตรวจสอบแล้ว โครงการนี้เป็นประโยชน์กับคนยากจนอย่างมาก จากการลงพื้นที่หาสมาชิกพี่น้องคนยากคนจนทั่วประเทศต่างฝากขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ที่ดำเนินโครงการนี้ และอยากให้เป็นนายกฯต่อไป แต่ไม่เข้าใจ 2 พรรคใหญ่ที่ออกมาโจมตีเรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กล่าวหาว่ารัฐบาลแจกเงินล่วงหน้า ทั้งที่นโยบายนี้ทำมาก่อนแล้ว หากไม่เห็นด้วยประกาศเป็นนโยบายของพรรคว่าจะยกเลิกไปเลย แต่มั่นใจว่าพรรคพลังประชารัฐจะนำนโยบายดีๆของรัฐบาลไปทำต่อ

อนค.วุ่นสมาชิกนัดปลดป้ายคืนบัตร

นายกฤษณ์ สุริยผล ผู้ประสงค์ลงสมัครลงชิงไพรมารีโหวตเขต 30 เขตบางพลัด บางกอกน้อย พรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า ขณะนี้ผู้สมัครลงชิงไพรมารีโหวตเป็นผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่หลายเขต โดยเฉพาะพื้นที่ฝั่งธนบุรีและต่างจังหวัด ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากคณะกรรมการคัดสรรผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค มีการทุจริตให้พวกพ้อง นำรายชื่อผู้สมัครที่แข่งขันด้วยออกจากการแข่งขันอย่างไม่เป็นธรรม กลุ่มผู้สมัครไพรมารีโหวตฝั่งธนบุรีและหลายจังหวัด นัดแถลงข่าววันที่ 15 ธ.ค. เวลา 10.00 น. ที่ศูนย์ประสานงานพรรคอนาคตใหม่ ฝั่งธนบุรี ปากซอยเพชรเกษม 77/7 โดยจะปลดป้ายพรรค คืนบัตรสมาชิก คืนอุปกรณ์หาเสียงและทำพิธีเผาทิ้ง พร้อมมอบขวดนมผ้าอ้อมเด็กให้กับนายธนาธร จึง-รุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค และนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค ที่เป็นทารกทางการเมือง

“ไพบูลย์” ขนอดีตทหารชิง ส.ส.โคราช

นายไพบูลย์ นิติตะวัน หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป (ปชช.) เปิดเผยว่า วันที่ 15 ธ.ค.จะไปเปิดการประชุมจัดตั้งสาขาพรรคภาคอีสานที่ จ.นครราชสีมาและจัดตั้งสภาประชาชนปฏิรูป จ.นครราชสีมา ปัจจุบันมีสมาชิกพรรคแล้วมากกว่า 1,000 คน พร้อมเปิดตัวผู้ลงสมัคร ส.ส.นครราชสีมา ทั้ง 14 เขต เวลา 13.30 น. ที่ศูนย์ประชุมสตาร์เวลล์ บาหลี รีสอร์ท อ.เมือง นครราชสีมา ผู้สมัครที่น่าสนใจ อาทิ พล.ต.ภูสิษฐ์ หล่อประเสริฐ ตท.17 จปร.28 ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก อดีต กกต.จังหวัด ลงเขต 1 พล.ต.ประจักษ์ ประเมศรี ตท.17 จปร.28 ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก อดีตรอง ผอ.ศูนย์ปรองดองฯ กองทัพภาคที่ 2 ลงเขต 2 พล.ต.นวภัทร ศิริวัฒน์ เขต 4 ตท.17 จปร.28 ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เป็นต้น และวันที่ 18 ธ.ค. เวลา 10.00 น. พรรคจะประชุมใหญ่เพื่อเลือกคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.และจะขอมติที่ประชุมใหญ่พรรคสนับสนุนบุคคลใดให้เป็นนายกฯ หลังเลือกตั้งเพื่อเป็นสัญญาประชาคม

“ภราดรภาพ” แจมเจาะภาคเหนือ

เมื่อเวลา 13.39 น. ม.ร.ว.ดำรงดิศ ดิศกุล หัวหน้าพรรคภราดรภาพ พร้อม พล.ท.สราวุธ กาพย์-เดโช รองหัวหน้าพรรค เดินทางเข้ากราบนมัสการพระพุทธชินราช ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร และกราบสักการะพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่พระราชวังจันทน์ ก่อนประชุมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ที่โรงแรมพิษณุโลกออคิด ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก จากนั้นได้เปิดสำนักงานศูนย์ประสานงานพรรคภราดรภาพประจำ จ.พิษณุโลก ตั้งอยู่ริมถนนสนามบิน พล.ท.สราวุธ กาพย์เดโช รองหัวหน้าพรรคเปิดเผยว่า วันนี้เราได้เชิญว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.17 จังหวัดภาคเหนือ มาชี้แจงระเบียบข้อบังคับของการเลือกตั้งให้ทราบโดยมี
ผู้สมัครครบ 64 เขต

“เจนวาย” ขอ รบ.สางปากท้องหนี้สิน

วันเดียวกัน ศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) รายงานผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเรื่อง “GenY กับการเลือกตั้ง 2562” สำรวจเมื่อวันที่ 3-6 ธ.ค.จากคนที่มีอายุระหว่าง 21-38 ปี จากทุกภูมิภาค 1,264 หน่วยตัวอย่าง พบว่าเสียงส่วนใหญ่ร้อยละ 66.53 อยากเห็นนโยบายแก้ปัญหาปากท้องและหนี้สินจากพรรคการเมือง ร้อยละ 32.83 อยากเห็นนโยบายป้องกันการทุจริตคอร์รัปชัน และร้อยละ 30.62 นโยบายการควบคุมราคาสินค้า สำหรับเรื่องที่คิดว่าไม่ถูกต้องหรือรับไม่ได้มากที่สุด ร้อยละ 45.02 ระบุว่าเศรษฐกิจตกต่ำ ร้อยละ 15.27 ระบุว่าทุจริตคอร์รัปชัน และร้อยละ 13.05 ระบุว่าความขัดแย้งทางการเมือง ขณะที่สิ่งที่คาดหวังมากที่สุดหลังการเลือกตั้งพบว่ามากที่สุดร้อยละ 58.70 ระบุว่าหวังเศรษฐกิจดีขึ้น

ทูตซัก กกต.ไขที่มานายกฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงการต่างประเทศ ว่า เมื่อเวลา 13.30 น. นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต.ได้ร่วมกันบรรยายสรุปขั้นตอนและแผนการดำเนินการเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว.ให้แก่คณะทูตานุทูตประจำประเทศไทย องค์การระหว่างประเทศ ประจำประเทศไทย ผู้บริหารและข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ ทั้งนี้คณะทูตานุทูตได้ให้ความสนใจสอบถามถึงขั้นตอนการส่งผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้ง โดย กกต.ยินดีแต่ขอให้แสดงความจำนงและปฏิบัติตามกฎที่ กกต.กำหนด และยังสอบถามถึงขั้นตอนวิธีการเลือกนายกฯที่ต้องเลือกโดย 2 สภา ซึ่ง กกต.ชี้แจงว่าการเลือกดังกล่าวเป็นไปตามกฎหมายที่ให้พรรคการเมืองเสนอชื่อนายกฯในสภาได้ ต้องมีคะแนน เสียงไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ก่อนจะเข้าสู่กระบวนการเลือกจาก 2 สภา ผู้ที่จะได้เป็นนายกฯต้องได้คะแนนไม่ต่ำกว่า 376 เสียง จาก 750 เสียง ทั้งนี้คณะทูตานุทูตและองค์กรระหว่างประเทศที่เข้าร่วมรับฟัง ยินดีที่ไทยจะมีการเลือกตั้งตามที่รัฐบาลประกาศ

“บิ๊กกบ” ย้ำทหารวางตัวเป็นกลาง

ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.ต.กฤษณ์ จันทรนิยม โฆษก บก.กองทัพไทย กล่าวถึงผลการประชุม ผบ.เหล่าทัพ ที่มี พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผบ.ทหารสูงสุด เป็นประธานว่า ผบ.ทหารสูงสุดเน้นย้ำในที่ประชุมให้กำลังพลและครอบครัวสนับสนุนการเลือกตั้งตามสิทธิและหน้าที่ มีสำนึกในความเป็นทหารอาชีพและประพฤติตนอย่างเหมาะสม กำลังพลทุกเหล่าทัพต้องวางตัวเป็นกลางหากพบถือว่ามีความผิดทางวินัย ทั้งนี้หลังปลดล็อกทางการเมืองกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.)ยังคงต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวดในทุกพื้นที่ มีหน้าที่สร้างความรับรู้ให้กับประชาชนและสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของ กกต. หากมีการร้องขอสำหรับการหาเสียงของในพื้นที่ทหารพรรคการเมืองสามารถทำหนังสือมายังหน่วยนั้นๆแจ้งความต้องการมาได้ตามปกติเปิดโอกาสให้ทุกพรรคเท่าเทียมกัน ส่วนการป้องกันผู้มีอิทธิพลและมือปืนช่วงเลือกตั้งฝ่ายความมั่นคงที่เกี่ยวข้องดูแลอยู่

ครม.ไทย–ลาวยกระดับร่วมมือ

เมื่อเวลา 09.45 น. ที่หอประชุมแห่งชาติ นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ พร้อมคณะ อาทิ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกฯ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ เข้าร่วมการประชุมร่วมนายกฯ และรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการ ไทย-ลาว ครั้งที่ 3 ฝ่ายลาวมีนายทองลุน สีสุลิด นายกฯแห่ง สปป.ลาว และคณะอาทิ นายสมดี ดวงดี รองนายกฯและ รมว.กระทรวงการเงิน ภายหลังการประชุม พล.ท.วีรชน สุคนธ-ปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงการยกระดับความร่วมมือของทั้งสองประเทศ ให้เป็นหุ้นส่วนเพื่อความเจริญและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ให้ประชาชนสองประเทศได้รับประโยชน์จากการพัฒนาที่จะเกิดขึ้น นายกฯทั้งสองได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดจัดทำแผนยุทธศาสตร์ร่วมด้านการพัฒนาไทย-ลาวให้เป็นการพัฒนายั่งยืนทุกมิติ และเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันให้ได้ตามเป้าหมาย 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2564 นายกฯแห่ง สปป.ลาว ยังยืนยันความพร้อมสนับสนุนบทบาทไทยในฐานะประธานอาเซียนในปี 2019

ช่วยอีก 75 ล้าน น้ำท่วมอัตตะปือ

จากนั้นเวลา 11.45 น. นายกฯทั้งสองประเทศเข้าร่วมพิธีมอบความช่วยเหลือเหตุอุทกภัยในแขวงอัตตะปือเพิ่มเติมระยะฟื้นฟูจำนวน 75 ล้านบาท และพิธีมอบโครงการพัฒนาวิทยาลัยพลศึกษานคร-หลวงเวียงจันทน์ พร้อมเป็นสักขีพยานการลงนาม ความตกลงระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว 7 ฉบับ อาทิ ร่างแถลงการณ์ร่วม JCR ไทย-ลาว ครั้งที่ 3 บันทึกความเข้าใจการซื้อขายไฟฟ้าฉบับใหม่ จากนั้นนายกฯทั้งสองฝ่ายร่วมกันแถลงข่าวผลการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ ขอบคุณนายกฯและ ครม.สปป.ลาว ที่มุ่งมั่นตั้งใจจะยกระดับความสัมพันธ์ไทย-ลาว เข้าสู่ศักราชใหม่ของ “ความเป็นหุ้นส่วนเพื่อความเจริญและการพัฒนาอย่างยั่งยืน” ไทยและลาวจะร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน ไปด้วยกัน จากนั้นนายกฯและคณะเดินทางกลับประเทศไทย

ต่อมาเวลา 15.40 น. พล.อ.ประยุทธ์และคณะเดินทางกลับถึงท่าอากาศยานทหาร 2 (กองบิน 6) โดยไม่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่มาดักรอ เพียงแต่กล่าวทักทายสั้นๆว่า “สวัสดีว่าไงลูก เรียบร้อยดีนะ”

นายกฯแจงลงพื้นที่ตามดูแลผลงาน

เมื่อเวลา 20.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. กล่าวในรายการศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนว่า ช่วงวันที่ 12-13 ธ.ค. ตนและคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ ไปตรวจราชการและประชุม ครม.อย่างเป็นทางการนอกสถานที่อีกครั้งที่ จ.บึงกาฬและหนองคาย การลงพื้นที่ทุกครั้งให้ความสำคัญอย่างมาก ไม่ใช่เพียงติดตามการดำเนินงานของข้าราชการและกลไกประชารัฐเท่านั้น แต่เมื่อได้ร่วมกับพี่น้องประชาชนปลูกต้นไม้ปลูกป่าแล้ว คงต้องลงไปช่วยพี่น้องประชาชนรดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ย เพื่อดูแลให้ต้นไม้ของเราเติบโต งดงาม ผลิดอกออกผลที่สมบูรณ์

เราทุกคนต้องมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆเหล่านี้ เพราะทุกคนเป็นเจ้าของประเทศ ถ้าไม่ดูแลชุมชนบ้านเมืองของเรา หรือถ้ารัฐจะทำอะไรไม่ไถ่ถามประชาชน ไม่ใส่ความต้องการของประชาชน คงต้องเป็นหลุมพรางที่ยากจะถึงจุดหมาย คือมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน แต่จำเป็นต้องเคารพในกฎหมาย กฎกติกาต่างๆด้วย

ป.ป.ช.ถกบัญชีทรัพย์สินต้นปีหน้า

พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีคำสั่งหัวหน้า คสช.แก้ไข พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 เรื่องการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ว่าคำสั่ง คสช.ดังกล่าวช่วยคลายล็อกการทำงานให้ ป.ป.ช.สามารถใช้ดุลพินิจกำหนดตำแหน่งเฉพาะหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินได้ ในวันที่ 4 ม.ค.2562 จะเชิญหน่วยงานและองค์กรที่เกี่ยวข้องมาหารือหาข้อสรุปเกี่ยวกับรายละเอียดมาตรา 102 ที่กำหนดให้กรรมการและผู้บริหารสูงสุดของหน่วยงานรัฐทุกแห่งต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน หลังจากหารือแล้ว จะแก้ไขประกาศ ป.ป.ช.ให้มีผลบังคับใช้ต่อไป เมื่อมีการแก้ประกาศ ป.ป.ช.แล้ว จะส่งผลให้กรรมการสภามหาวิทยาลัยและกรรมการกองทุนบางหน่วยงานไม่ต้องยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สิน