โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ระยะทาง 220 กม. มูลค่า 2.2 แสนล้านบาท

มีกลุ่มทุนยักษ์ 2 ป้อมค่าย ยื่นซองประกวดราคาเพียง 2 ราย

คือกลุ่มบีทีเอสของ เจ้าสัวคีรี กาญจนพาสน์ และกลุ่มซีพีของ เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์

ถือเป็นศึก “ช้างชนช้าง” ที่มีความสูสีคู่คี่อย่างแรง

“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่าในเดือนธันวาคมจะประกาศผลว่ากลุ่มใดเป็น

ผู้ชนะประมูล โดยจะพิจารณาข้อเสนอทั้ง 2 กลุ่ม ทั้งด้านคุณสมบัติ ด้านเทคนิค ด้านการเงิน ด้านสัดส่วนร่วมทุนรัฐบาล และข้อเสนออื่นๆเพิ่มเติม

กลุ่มใดได้คะแนนดีที่สุดจะได้เป็นผู้ลงทุนก่อสร้าง เป็นผู้ออกแบบโครงการจัดหาขบวนรถไฟความเร็วสูงครบวงจร

แลกสัมปทานสิทธิประโยชน์ระยะยาว 50 ปี

พร้อมของแถมชิ้นโต ได้สิทธิพัฒนา ที่ดินไข่แดงแปลงใหญ่ย่านมักกะสันอีก 150 ไร่ แถมสิทธิพัฒนาที่ดินรอบสถานีศรีราชาอีก 29 ไร่ เพื่อประโยชน์ทางธุรกิจอีก 50 ปี

“แม่ลูกจันทร์” สรุปย่อๆโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินจะจอดรับส่งผู้โดยสารเพียง 9 สถานี เริ่มจากสนามบินดอนเมือง สถานีบางซื่อ สถานีมักกะสัน สนามบินสุวรรณภูมิ สถานีฉะเชิงเทรา สถานีชลบุรี สถานีศรีราชา สถานีพัทยา และสนามบินอู่ตะเภา

ใช้เวลาเดินทางจากดอนเมืองไปถึงอู่ตะเภาไม่เกิน 50 นาที

กำหนดค่าโดยสารสูงสุดไม่เกิน 400 บาทต่อเที่ยวต่อคน

คาดว่าจะมีรายได้คุ้มทุนใน 20 ปี เหลือสัมปทานอีก 30 ปี ฟันกำไรสะดือบาน

...

“แม่ลูกจันทร์” เอากลุ่มซีพีของ “เจ้าสัวธนินท์” กับกลุ่มบีทีเอสของ “เจ้าสัวคีรี” ขึ้นตาชั่งเปรียบเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์

กลุ่มบีทีเอสของเจ้าสัวคีรีเป็นจอมยุทธ์ด้านรถไฟเบอร์หนึ่งของเมืองไทย เชี่ยวกรำประสบการณ์ด้านการขนส่งระบบรางมาแล้ว 19 ปี

มีบริษัทซิโน-ไทยยักษ์ใหญ่ด้านก่อสร้าง และบริษัทผลิตไฟฟ้าราชบุรีเป็นพันธมิตรร่วมทุน

ส่วนกลุ่มซีพีของเจ้าสัวธนินท์ แม้ไม่มีประสบการณ์ด้านรถไฟ แต่มีบริษัท ทางด่วน และรถไฟฟ้ากรุงเทพฯ (บีอีเอ็ม) เป็นแบ็กอัป มีบริษัท ช.การช่าง และอิตาเลียนไทยเป็นพันธมิตร และมีกลุ่มไชน่าเรลเวย์ จากประเทศจีน ร่วมลงขันอีก 10 เปอร์เซ็นต์

สรุปว่าคู่ชิงดำทั้ง 2 กลุ่ม มีโอกาสเข้าวินพอๆกัน

แต่ถ้าให้เลือกจิ้มว่าใครจะได้เค้กก้อนใหญ่ชิ้นนี้ไปรับประทาน??

“แม่ลูกจันทร์” ขอจิ้มชื่อ “กลุ่มซีพี” เป็นผู้ชนะประมูลโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน

เหตุผลที่กล้าฟันธงล่วงหน้าว่าหวยจะออกกลุ่มซีพี

เพราะ “เจ้าสัวธนินท์” เคยเปิดใจให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน (เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2559) ระหว่างร่วมคณะ รอง นายกฯ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เดินทางไปโรดโชว์ที่ประเทศจีน

เจ้าสัวธนินท์ พูดถึงโครงการรถไฟความเร็วสูงสายนี้ไว้ว่า “กลุ่มซีพีจะได้กำไรมากหรือน้อยไม่สำคัญ สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องทำให้สำเร็จ และเหตุที่สนใจจะทำเส้นทางรถไฟความเร็วสูงสายกรุงเทพฯ-ระยอง เพราะท่านนายกฯต้องการให้ทำ”

เจ้าสัวใหญ่ซีพี กล่าวเสริมว่า “พล.อ.ประยุทธ์ เห็นว่าโครงการนี้ลงทุนสูง หากรัฐบาลทำเองอาจจะขาดทุน จึงอยากให้กลุ่มซีพีดูแลการลงทุน”

ชัดเจนไม่ต้องตีความ...“โครงการรถไฟความเร็วสูงสายนี้ ท่านนายกฯพล.อ.ประยุทธ์ มอบหมายให้กลุ่มซีพีเป็นผู้ลงทุน”

เจ้าสัวธนินท์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนล่วงหน้าก่อนยื่นซองประกวดราคา 1 ปี กับอีก 5 เดือน

พูดชัดๆขนาดนี้ ถ้ากลุ่มซีพีไม่ชนะประมูล...ก็แปลกน่ะซีโยม.

“แม่ลูกจันทร์”