มันยังจะมีนักการเมืองไทยตระกูลไหนอีกมั้ย ที่คล้ายๆ เหมือนดั่งว่า "จะถูกจงใจกวาดล้าง" ให้หนีเตลิดไกล ไปปักหลักสร้างถิ่นฐานในต่างแดน ....จะด้วยเหตุผลกลใดก็ตามแต่ สู่การสร้างชนักติดหลังที่ถูกจ้วงแทงจนร้าวลึกเกินเยียวยา ต้องโทษแปะหน้าผากด้วยคดีอาญา ทำเอาไม่กล้าก้มหน้าชดใช้กรรมในคุก

ภายหลังรัฐบาลไทยรักไทย ถูกโค่นล้มลงด้วยการรัฐประหาร เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2549 ทำเอา "นายทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 23 ของประเทศไทย ต้องระหกระเหินในต่างแดนหลายปี  เป็นเวลา 1 ปี 5 เดือน  ที่ทักษิณ ต้องหนีออกจากไทย ไปประเทศอังกฤษ กระทั่งวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 เวลา 09.40 น. "ทักษิณ" เดินทางมาถึงประเทศไทย ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมกับก้มลงกราบพื้นประหนึ่งริมฝีปากจูบ บริเวณหน้าห้องรับรองพิเศษ พร้อมโบกมือทักทายประชาชนที่มารอให้การต้อนรับ ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

"กลับมาอยู่ไทยไม่ถึงปี ต้องเผ่นหนี เพราะเคลียร์คดี (ทางลับ) ไม่สำเร็จผล" 

ทันทีที่ถึงประเทศไทย "ทักษิณ" ได้เข้ามอบตัวที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรณีตกเป็นจำเลยในคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก ร่วมกับคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา ซึ่งศาลอนุมัติให้ประกันตัว ใช้เวลาเสพสุขอยู่ในผืนแผ่นดินเกิดได้เพียง 5 เดือน ระหว่างนั้นทั้ง "ทักษิณ และภรรยา" ได้ขออนุญาตศาลฎีกาฯ เดินทางออกนอกประเทศ โดยให้เหตุผลเดินทางไปปฏิบัติภารกิจประเทศจีนและญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม-10 สิงหาคม 2551 ในรายละเอียดคุณหญิงพจมาน ให้เหตุผลแนบท้ายไว้ว่า จะไปร่วมพิธีเปิดงานกีฬาโอลิมปิก ที่ประเทศจีน ระหว่างในวันที่ 5-10 สิงหาคม 2551

...

และเมื่อถึงวันนัดให้ไปรายงานตัวต่อศาลวันที่ 11 สิงหาคม 2551 ทั้งสองคน ไม่มารายงานตัวต่อศาล แต่ไปปรากฏตัวที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ พร้อมครอบครัว วันที่ 21 ตุลาคม 2551..... วงในสายแข็ง กระจายข่าวทั่วทำเนียบรัฐบาล สุมไฟเล่ากระแส จงใจระบุข้อมูล "หลังจากการพูดคุยเจรจากับคนใหญ่คนโตในประเทศไทย เรื่องขอเคลียร์คดีที่ติดค้างต่างๆ นานา ไม่เป็นผลสำเร็จ จึงเป็นเหตุให้ชวนภรรยาเก็บเสื้อผ้าบินข้ามโลกอีกครั้ง ตีตั๋วแบบ ไปไม่กลับ"  ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว ก็ใช่ว่าจะมีใครรู้ข้อเท็จจริงที่แน่ชัด #ต้องหนีเพราะอะไร? แต่ใครๆ เขาก็บอกกันอีกว่า เพราะปมที่ดินรัชดา พ่นพิษ 

ย้อนรอย "ที่ดินรัชดา" คดีระหว่างอัยการสูงสุด กับทักษิณ ชินวัตร และพจมาน ชินวัตร 

คุณหญิงพจมาน ประมูลซื้อที่ดินริมถนนเทียมร่วมมิตร ย่านถนนรัชดาภิเษก ใกล้กับศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เนื้อที่ประมาณ 33 ไร่ ราคา 772 ล้านบาท จากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ในกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย กระทรวงการคลัง โดยพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร ซึ่งในขณะนั้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ร่วมลงนามยินยอมในฐานะคู่สมรส

ที่ดินรัชดาภิเษก เป็นหนึ่งในที่ดินสองแปลงที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ซื้อจากบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์เอราวัณทรัสต์ เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2538 มูลค่า 2,749 ล้านบาท ต่อมาในปี 2544 กองทุนฯ ได้ปรับปรุงราคาที่ดินลดลงกว่า 2,000 ล้านบาท โดยอ้างว่าเป็นการปรับปรุงบัญชีเพื่อปรับมูลค่าหนี้ให้ลดลงเพื่อให้เกิดสภาพคล่อง โดยปรับลดราคาที่ดินเหลือ 700 กว่าล้านบาท และนำออกประมูลทางอินเทอร์เน็ต เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2546 ตั้งราคาขั้นต่ำ 870 ล้านบาท ผู้ร่วมประมูลต้องวางเงินมัดจำ 10 ล้านบาท แต่ไม่มีผู้เสนอราคา กองทุนฯ จึงได้ยกเลิกการประมูล

ต่อมาได้มีการเปิดประมูลใหม่เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2546 โดยไม่กำหนดราคาขั้นต่ำ แต่ผู้ร่วมประมูลต้องวางเงินมัดจำเพิ่มเป็น 100 ล้านบาท ผลการประมูล คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ซึ่งส่งทนายความเป็นตัวแทนเข้าประมูลด้วยตนเอง ชนะการประมูลด้วยราคาสูงสุด 772 ล้านบาท โดยมีผู้แข่งขัน 2 ราย คือ บริษัท แลนด์แอนด์เฮาส์ และบริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนต์ ก่อนทำสัญญาซื้อขาย และจะโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินในวันที่ 30 ธันวาคม 2546

"อะไร? ทำให้ปมพิรุธถูกสาวลึก จนฉาวโฉ่" 

ความไม่ชอบมาพากลเริ่มปรากฏชัดเจนขึ้น เมือเดือนสิงหาคม 2554 ได้มีการจัดประมูลใหม่ บริษัท ศุภาลัย ผู้ชนะประมูลได้ซื้อที่ดินแปลงดังกล่าวไปในราคา 1,815 ล้านบาท สื่อสำนักพิมพ์ยักษ์ใหญ่เล่นข่าวว่า ราคาซื้อขายครั้งนี้มีพิรุธ ตอกย้ำสิ่งผิดปกติของการขายที่ดินให้คุณหญิงพจมาน เพราะราคาสูงขึ้นถึง 153% ในเวลาเพียง 8 ปี

จุดเริ่มต้นของคดีเกิดจากการให้เบาะแสความไม่ชอบมาพากล โดยกลุ่มข้าราชการกระทรวงการคลัง ที่ใช้ชื่อว่า "กลุ่มเป่านกหวีด" หรือ "Whistle blower" ได้ส่งข้อมูลทางอีเมลถึง คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ขณะนั้นดำรงตำแหน่งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ภายหลังการประมูลไม่นาน จนนำไปสู่การนัดพบเพื่อให้ข้อมูล และตรวจสอบข้อเท็จจริง ..ต่อมา นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) เป็นผู้ยื่นร้องเรียนต่อกองบังคับการ กองปราบปราม เพื่อให้ทำการสอบสวนเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ไม่ได้รับความสนใจ

ต่อมาเมื่อเกิดรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2549 คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ได้ออกประกาศ คปค. ฉบับที่ 30 ลงวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2549 แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) วีระ สมความคิดได้นำเรื่องนี้เสนอต่อ คตส. ให้ตรวจสอบพฤติกรรมทุจริตประพฤติมิชอบดังกล่าวอีกครั้ง โดยมี คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐมีมติรับเรื่องนี้ไว้พิจารณา และแต่งตั้งนาม ยิ้มแย้ม ประธาน คตส. เป็นผู้รับผิดชอบ

พยานโผล่ "ปูดเรื่องสินบนถุงขนมคุกกี้" สู่การออกหมายจับ 

ต่อมาวันที่ 10 มิถุนายน 2551 ภายหลัง นายทักษิณ ได้บินกลับเข้ามาในประเทศไทยพร้อมจูบพื้นสนามบินในรอบแรก จึงได้เดินทางมารายงานตัวต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เนื่องจาก ระหว่างนั้นมีข้อมูลระบุว่า ทีมทนายความนำถุงขนมใส่เงิน 2 ล้านบาทไปให้เจ้าหน้าที่ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยอมรับ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น และมีการแจ้งความดำเนินคดี ส่วนเงินของกลางได้คืนให้แก่ทีมทนายความไป

หลังจากนั้นศาลแจ้งข้อหาละเมิดอำนาจศาลกับทั้งสาม และไต่สวนข้อเท็จจริง กระทั่งวันที่ 25 มิถุนายน 2551 ศาลฎีกามีคำสั่งให้จำคุกนายพิชิฏ ชื่นบาน (ทนายความ) กับพวก คนละ 6 เดือน ฐานละเมิดอำนาจศาล กระทั่ง "ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน" ภริยา ซึ่งต้องเป็นจำเลยด้วย ตัดสินใจไม่ไปรายงานตัวต่อศาล ก่อนจะไปปรากฏตัวยังกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ที่มีบุตรธิดาทั้งสามรออยู่แล้ว (หนีออกไทยเพราะทำเรื่องขอเดินทางไปดูงานที่ประเทศจีน-ญี่ปุ่น) ด้วยเหตุนี้ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จึงออกหมายจับพันตำรวจโททักษิณ และคุณหญิงพจมาน และตั้งสินบนนำจับทันที  

โทษจำคุก 2-10 ปี คดีหมดอายุความ "21 ตุลาคม 61 นี้ ทักษิณ รอดแล้ว! "  

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2551 เมื่อเวลา 14.00 น. นายทองหล่อ โฉมงาม ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา พร้อมองค์คณะ ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก อ่านคำพิพากษาว่า ทักษิณ ชินวัตร จำเลยที่ 1 มีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 100 (1) วรรค 3 และมาตรา 122 วรรค 1 ให้ลงโทษจำคุก 2 ปี ส่วนความผิดฐานอื่นและคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก คุณหญิงพจมาน จึงรอด 

****จากวันก้มกราบ ปากจูบพื้นดินสนามบินสุวรรณภูมิ จวบจนวันนี้ เป็นเวลาล่วงเลยมาเข้าปีที่ 11 "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้ง ต้องบินออกไปใช้ชีวิตหรูหราอยู่นอกประเทศ ท่ามกลางการจับตามองห่างๆ ของรัฐบาลทหาร และประชาชนที่ติดตามข่าวคราวในเมืองไทย เรียกได้ว่า จะขยับตัวทำอะไรในโลกโซเชียล หรือ ออกสื่อต่างประเทศสำนักไหนๆ ก็ต้องเฮโลกันตามไปดู 

21 ตุลาคม นี้ คดีที่ดินรัชดา หมดอายุความ ซึ่งนั่นก็หมายความว่า หากทักษิณ ไม่ได้มีหมายจับในความผิดคดีอื่นๆ ตัวเขาเองก็สามารถบินกลับประเทศไทยกลับมาต่อสู้คดีที่เหลือ ได้อย่างสง่าผ่าเผย ......แต่ก็อีกนั้นแหละ "ตื้น ลึก หนา บาง" เรื่องลับลวงพราง ในแวดวงการเมืองไทย มันยากแท้ที่คนธรรมดาๆ อย่างเราๆ จะหยั่งถึง....และถึงแม้จะหยั่งถึง ก็ไม่อาจหาญกล้าจะตีแผ่ ...หากข้อมูลไม่ฟันธงว่าเป็นเรื่องจริงแน่ๆ  "มีหวังต้องใช้ชีวิตปั้นปลายตอนแก่ในคุก" - -