'สนามม้านางเลิ้ง' หนึ่งในสถานที่ในความทรงจำของใครต่อใครหลายคน เป็นสถานที่ที่เป็นมากกว่าสนามแข่งม้า โดยครั้งหนึ่งเป็นสถานที่พบปะของบุคคลทางการทหาร และเป็นสถานที่สำคัญในหลายบริบทการเมือง

จากข่าวที่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ส่งหนังสือถึงประธานคณะกรรมการอำนวยการ ราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ลงวันที่ 4 เมษายน เรื่องการบอกเลิกสัญญาเช่าและขอให้ส่งมอบสถานที่เช่าบริเวณสนามม้านางเลิ้งในอีก 6 เดือน ไทยรัฐออนไลน์จึงย้อนรอยสนามม้าสถานที่แห่งความบันเทิง เป็นที่พบปะสังสรรค์มาอย่างยาวนานถึง 102 ปี

ราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือที่คนทั่วไปรู้จักกันในชื่อว่า ‘สนามม้านางเลิ้ง’ มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 102 ปี ตั้งอยู่เลขที่ 183 ถนนพิษณุโลก แขวงสวนจิตรลดา เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร

ย้อนกลับไปเมื่อในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.6) ทางพระยาประดิพัทธภูบาลและพระยาอรรถการประสิทธิ์ ได้ทำหนังสือทูลเกล้าฯ เพื่อขอพระบรมราชานุญาตจัดตั้งสโมสรสนามม้า 'สนามไทย' เพื่อให้เป็นสถานที่แข่งม้าสำหรับคนไทย และนำรายได้มาเพื่อใช้บำรุงพันธุ์ม้าจากประเทศออสเตรเลียและอังกฤษ ทั้งนี้ทรงมีพระบรมราชานุญาตพร้อมทั้งได้พระราชทานนามสถานที่ว่า 'ราชตฤณมัยสมาคมแห่งกรุงสยาม' อีกทั้งทรงรับไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์เมื่อวันจันทร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2459 และต่อมาจึงพระราชทานนามว่า 'ราชตฤณมัยสมาคม'

...

ราชตฤณมัยสมาคม ทำหน้าที่ในการดำเนินกิจการแข่งม้า จัดทำทะเบียนประวัติม้า รวมถึงเจ้าของและผู้เกี่ยวข้อง ส่วนการแข่งขันจะจัดขึ้นในวันอาทิตย์เว้นอาทิตย์ สลับกันกับราชกรีฑาสโมสร และยังมีการให้บริการอื่น ๆ เช่น สนามเทนนิส สระว่ายน้ำ และห้องอาหารเพื่องานจัดเลี้ยงต่าง ๆ ฯลฯ ในยุคหนึ่งสนามม้านางเลิ้งแห่งนี้เคยเป็นสถานที่รื่นเริง ยอดนิยมของบุคคลชั้นนำของปะเทศ ทั้งนักการเมือง ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ นักธุรกิจ

สนามม้านางเลิ้ง เคยมีเรื่องราวในบริบททางการเมืองอยู่หลายครั้ง เมื่อสมัยรัฐบาลสัญญา ธรรมศักดิ์ ได้มีการใช้ราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทย เป็นสถานที่ประชุมสมัชชาแห่งชาติซึ่งเป็นที่มาของฉายา ‘สภาสนามม้า’ และสำหรับ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ อดีตเลขาธิการพรรคปชป. ฉายามือประสานสิบทิศ ผู้ดัน นายชวน หลีกภัย หัวหน้าพรรคปชป. เป็นนายกฯ 2 รอบ นั้น สนามม้านางเลิ้งเปรียบเสมือนบ้านหลังที่สอง เพราะ “เสธ.หนั่น” ชอบในกีฬาม้าแข่งมาก และเจ้าตัวมักจะใช้สถานที่แห่งนี้ หลบกระแสความวุ่นวายทางการเมืองและเข้ามาเผื่อพักผ่อนอยู่เป็นประจำ โดย “เสธ.อ้าย” (พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์) ซึ่งเป็นเพื่อนรักของ “เสธ.หนั่น” ก็ได้มาเป็นกรรมการแข่งม้า และในปี 2545 “เสธ.อ้าย” ได้รับเลือกจากคณะกรรมการอำนวยการให้เป็น เลขาธิการกิตติมศักดิ์ และประธานอำนวยการแข่งขันม้า มีอำนาจคุมสนามม้านางเลิ้งเต็มตัว 

ในยุครัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหญิงหนึ่งเดียวของไทย สถานที่แห่งนี้ ก็เคยถูกจัดให้เป็นหนึ่งในสถานที่ ชุมนุมขับไล่รัฐบาล นำโดย “เสธ.อ้าย” (พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์) แกนนำองค์การพิทักษ์สยาม ซึ่งเป็นเลขาธิการของราชตฤณมัยสมาคมฯ นั่นเอง แต่การชุมนุมดำเนินไปได้เพียงแค่วันเดียว ก็ล้มไม่เป็นท่า 

สำหรับราชตฤณมัยสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์นั้น เป็นผู้เช่าอาคารและที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ บริเวณสนามม้านางเลิ้ง จำนวน 3 สัญญาเช่า ซึ่งปัจจุบันสัญญาเช่าทั้งสามนั้นฉบับ ได้ครบกำหนดอายุสัญญาเช่ามานานแล้ว สำนักงานทรัพย์สินฯ จำเป็นต้องใช้ที่ดินและอาคารดังกล่าว จึงไม่สามารถให้ราชตฤณมัยสมาคมฯ เป็นผู้เช่าได้อีกต่อไป ซึ่งทางสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ได้ประสานและแจ้งให้ราชตฤณมัยสมาคมฯ ทราบในเบื้องต้นแล้ว สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์บอกเลิกสัญญาเช่ากับสนามม้านางเลิ้งและขอให้ส่งมอบสถานที่เช่า ภายในกำหนด 180 วัน นับแต่วันที่ 4 เมษายน 2561 หากไม่มีอะไรผิดพลาด ผู้เช่าต้องส่งพื้นที่สนามม้านางเลิ้งคืน ประมาณเดือนตุลาคม 2561 

ซึ่งนั่นถือเป็นการปิดตำนาน 102 ปี ของสนามม้านางเลิ้ง แบบสมบูรณ์...