สี่หมื่นล้านบาท ตัวเลขกลมๆที่มาพร้อมกับวาทกรรม “ตกเขียว”เกมปั่นกระแส “ดูด” ด้วยฝีมือของเจ้าเก่า ยี่ห้อเดิม ทีมงานพรรคประชาธิปัตย์ ที่ถนัดในการผลิตวาทกรรมทางการเมือง เตะสกัดดาวรุ่ง เจาะยางคู่แข่งทางการเมือง

ตามท้องเรื่องที่ “เดอะมาร์ค” นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค นำทีมหางเครื่องแห่กระแส ตีปี๊บเบิ้ลบลัฟ ประจานดักทางพรรคการเมืองใหม่ที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ เปิดไพ่หนุน “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช.ตีตั๋วต่อ

ล่อเป้ากันแบบโจ๋งครึ่ม ป่าวร้องกันวันละ 3 เวลาหลังอาหาร

จริง เท็จ ชัวร์ มั่วนิ่ม ไม่รู้ แต่เรื่องของเรื่อง ในเมื่อระบบนิเวศการเมืองไทยเป็นแบบนี้ การเลือกตั้งยังผูกติดกับระบบอุปถัมภ์ในสังคมอย่างแยกไม่ออก โดยเฉพาะในท้องถิ่นต่างจังหวัด ชาวบ้านจะเลือกผู้แทนราษฎรจากการรู้จักหน้าค่าตา หรือผ่านคนคุ้นเคย ผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ

พูดง่ายๆตัดสินใจผ่านระบบหัวคะแนนที่มีผลต่อการกากบาท

ขนาด “หมาหลง” หิ้วกระเป๋าเงินไป ยังต้องมีหัวคะแนนเป็นตัวช่วย ไม่งั้นโดนหลอกกินฟรี ต่อให้ดี เด่น ดัง ระดับประเทศแค่ไหน ถ้าไปถึงพื้นที่ชาวบ้านไม่รู้จักก็จบเห่

นี่คือข้อจำกัดของการก่อกำเนิดป้อมค่ายการเมืองใหม่ ต่อให้ผู้ร่วมก่อตั้งเก่งกาจ มีเงิน มีอำนาจ โปรไฟล์ยอดเยี่ยม หรือเป้าหมายสวยหรูยังไง ก็หนีไม่พ้นต้องพึ่งนักการเมืองแชมป์เก่าเจ้าของพื้นที่

ประกันแต้มชัวร์ ไม่เสี่ยงจั่วลม

โดยเฉพาะเดิมพันสูงๆ แบบที่ไม่ยอมปล่อยเสียของซ้ำซาก

มันหนีไม่พ้นต้องเดินหมากตามทฤษฎี “ขนมชั้น” ของเจ้าตำรับอย่างอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ที่ปลุกปั้นอาณาจักรพรรคไทยรักไทย เริ่มจากการดึงนักวิชาการมหาวิทยาลัย เทคโนแครตดังๆมาร่วมกันร่างนโยบาย แล้วก็ทาบทามนักธุรกิจที่เก่งๆ ตัวแทนกลุ่มทุนตระกูลดังมาร่วมพรรค

...

สุดท้ายก็โปะด้วยนักการเมือง นักเลือกตั้งอาชีพ โดยเฉพาะมือปั้นนายกฯอย่างทีมของ “ป๋าเหนาะ” นายเสนาะ เทียนทอง เจ้าพ่อวังน้ำเย็น กลายเป็น “ไดโนเสาร์เหยียบดาวเทียม”

นั่นก็ทำให้พรรคไทยรักไทยสร้างประวัติศาสตร์ชนะเลือกตั้งแบบถล่มทลาย เป็นรัฐบาลเลือกตั้งที่อยู่เกือบครบเทอม แถมครองแชมป์ 2 สมัย ได้เสียงเป็นรัฐบาลพรรคเดียว

เรื่องของเรื่อง กระบวนการเข้าสู่อำนาจทางการเมืองมันยังหนีไม่พ้นวังวนเก่า เพียงแต่จุดแตกต่างกัน มันอยู่ตรงการเมืองในอดีตที่ผิดเพี้ยนไป เพราะหัวขบวนที่อาศัยเหลี่ยมการเมือง สร้างฐานอำนาจเอื้อประโยชน์ทางธุรกิจ กินรวบประเทศไทย นักเลือกตั้งกลายสภาพเป็นลูกจ้างบริษัทที่ต้องทำตามใบสั่ง เพราะกลัวโดนไล่ออกหมดอนาคต เหตุที่มาทำให้การเมืองวิกฤติ

แต่ยุคของ “นายกฯลุงตู่” เป้าหมายเพื่อการปฏิรูป ล็อกกรอบให้การเมืองกลับมาอยู่ในร่องในรอย

อย่างน้อยก็ไม่มีเหลี่ยมแฝงผลประโยชน์ทางธุรกิจ กินรวบประเทศไทย.

กำปั้นหยก
mudlek@thairath.co.th