พิธีเริ่มคิกออฟโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ระยะที่ 1 โคราช-กรุงเทพฯ มูลค่า 1.79 แสนล้านบาทผ่านไปด้วยความเรียบร้อยราบรื่นชื่นบาน

โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธานฝ่ายไทย และ นายหวัง เสี่ยวเทา ผู้แทนรัฐบาลจีน เป็นประธานฝ่ายจีน

เหตุที่เลือกวันที่ 21 ธันวาคม เป็นวันเริ่มต้นก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงโคราช-กรุงเทพฯ ที่สถานีกลางดง อำเภอปากช่อง นครราชสีมา เนื่องจากพื้นที่ตรงนี้ พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้เสด็จ พระราชดำเนินทรงเปิดรถไฟสายโคราช-กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2443

วันเวลาผ่านไป 117 ปี จึงได้เริ่มต้นโครงการรถไฟความเร็วสูงโคราช-กรุงเทพฯ ระยะทาง 253 กม. ซึ่งเป็นเฟสแรกของโครงการรถไฟสายกรุงเทพฯ–หนองคาย ซึ่งมีระยะทางทั้งสิ้น 608 กม.

เพื่อเชื่อมต่อโครงการรถไฟความเร็วสูง ลาว-จีน สายเวียงจันทน์-คุนหมิง ในอีก 6 ปีจากนี้ไป

“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่าโครงการรถไฟความเร็วสูงผ่าทะลุ 3 ประเทศ จะย่นเวลาเดินทางจากคุนหมิงถึงกรุงเทพฯไม่เกิน 6 ชั่วโมง

เรียกว่าออกจากกรุงเทพฯ 6 โมงเช้า ไปกินข้าวเที่ยงที่คุนหมิงสบายๆ

อย่างไรก็ดี...การที่รัฐบาล คสช. ควักกระเป๋าลงทุนมโหฬารถึง 1.7 แสนล้านบาท เพื่อก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงสายโคราช-กรุงเทพฯ 253 กม.

เป็นโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่ต้องขาดทุนยาวๆไปอีกหลายสิบปี

โดยปีแรก (พ.ศ.2564) ตั้งเป้าจะมีผู้โดยสารวันละ 5,320 คน

10 ปีต่อไป (พ.ศ.2574) จะมีผู้โดยสารเพิ่มเป็น 16,620 คน

20 ปีต่อไป (พ.ศ.2584) จะมีผู้โดยสารเพิ่มเป็น 22,600 คน

และ 30 ปีต่อไป (พ.ศ.2594) จะมีผู้โดยสารเพิ่มเป็น 26,830 คน

แสดงว่าโครงการรถไฟความเร็วสูงโคราช-กรุงเทพฯ จะขาดทุนต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 30 ปี!!

...

“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่าประเด็นสำคัญที่ต้องประเมินต่อไปคือ รัฐบาลต้องลงทุนก่อสร้างเฟส 2 “โคราช-หนองคาย” อีก 355 กม. ซึ่งรัฐบาลต้องควักกระเป๋าลงทุนเพิ่มอีก 2.5 แสนล้านบาทโดยประมาณ

ซึ่งยังคาดล่วงหน้าไม่ได้ว่า เมื่อรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-หนองคาย สร้างเสร็จเปิดบริการแล้วจะมีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอีกเท่าใด??

จะทำให้ภาระขาดทุนน้อยลง? หรือจะยิ่งขาดทุนหนักกว่าเดิม??

อย่างไรก็ตาม...ถ้ามองข้ามปัญหาขาดทุนและภาระหนี้สินเงินกู้ก้อนโต โครงการรถไฟความเร็วสูงสายโคราช-กรุงเทพฯ หรือสายกรุงเทพฯ-หนองคาย จะนำความเจริญไปถึงทุกพื้นที่ที่รถไฟความเร็วสูงวิ่งผ่านตลอดระยะทาง 608 กม.

ช่วยยกระดับการแข่งขันของไทยเป็นศูนย์กลางคมนาคม การลงทุน การท่องเที่ยว และการส่งออกครบวงจร

“แม่ลูกจันทร์” ย้ำว่า วันนี้โครงการรถไฟความเร็วสูงเริ่มลุยแล้ว ต้องเดินหน้าลูกเดียว ถอยหลังไม่ได้ ยกเลิกไม่ได้ทุกกรณี

นายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จึงพยายามย่ำว่า แม้โครงการนี้จะใช้เงินลงทุนมหาศาลก็จริง

แต่อย่ามองในแง่กำไรขาดทุน อย่ามุ่งไปเน้นเฉพาะรายได้ หรือจำนวนผู้โดยสารอย่างเดียว

ต้องมองที่ประโยชน์จากการเชื่อมโยงโลกกับไทย

เพราะไม่มีใครยืนอยู่ได้ตามลำพัง ต้องร่วมมือกันและเดินหน้าไปด้วยกัน

ดังภาษิตจีนที่ว่า “ทงซิน เซี่ยลี่ ซื่อซื่อ ฉุนหลี่”

แปลว่า “น้ำหนึ่งใจเดียว ทุกอย่างราบรื่น”

ไหนๆก็ไปเป็นประธานพิธีเปิดการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ท่านนายกฯบิ๊กตู่ จึงต้องโชว์ทักษะภาษาจีนเป็นการเอาฤกษ์เอาชัย

เห็นมั้ย...นายกฯไทยพูดภาษาจีนได้นะเฮีย.

“แม่ลูกจันทร์”