โครงการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีของ ขสมก. ยักตื้น ติดกึกตกค้างเป็นพรรดึกมาแล้ว 12 ปี

หัสเดิมเริ่มต้นเป็นโครงการจัดซื้อ หรือเช่ารถเมล์เอ็นจีวีป้ายแดงลอตใหญ่ 3,183 คัน เพื่อทดแทนรถเมล์ ขสมก.ที่เก่าชำรุดทรุดโทรม

แต่ลงท้ายเหลือโครงการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีลอตแรกแค่ 489 คัน

ในยุครัฐบาล คสช.ของนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เปิดประมูลจัดซื้อรถเมล์ลอตนี้มาแล้วถึง 6 ครั้ง

แต่เกิดปัญหากระสุนขัดลำกล้องทุกที

จนป่านนี้ยังจัดซื้อรถเมล์ไม่ได้ ...แม้แต่คันเดียว!!

“แม่ลูกจันทร์” ขออนุญาตทบทวนกระบวนท่าการเปิดประมูลจัดหารถเมล์เอ็นจีวี ขสมก. 489 คัน ย้อนหลังตั้งแต่ครั้งแรกจนถึงครั้งที่ 6 ให้พ่อแม่พี่น้องฟังกันแก้เซ็ง

เปิดประมูลครั้งที่ 1, เอกชนผู้เข้าประมูลทุกรายไม่ผ่านคุณสมบัติจึงต้องล้มเลิกประมูล

เปิดประมูลครั้งที่ 2, บริษัท ช.ทวี เป็นผู้ชนะประมูล แต่ภายหลังบอร์ด ขสมก.สั่งล้มประมูลเพราะติดขัดเงื่อนไขทีโออาร์

เปิดประมูลครั้งที่ 3, บริษัทเบสท์ริน ชนะประมูลเสนอราคาต่ำกว่าราคากลาง 40 เปอร์เซ็นต์

แต่ภายหลังถูก ขสมก.ยกเลิกสัญญา เพราะเอารถจีนมาสวมรอยเป็นรถเมล์ ประกอบในมาเลเซีย เพื่อใช้สิทธิ์ยกเว้นภาษีนำเข้าศูนย์เปอร์เซ็นต์

เปิดประมูลครั้งที่ 4, ยังไม่ทันยื่นประกวดราคาบอร์ด ขสมก.ก็สั่งล้มประมูล เพราะเงื่อนไขขัดระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี

เปิดประมูลครั้งที่ 5, ดันไม่มีบริษัทเอกชนประมูลเสนอราคาแม้แต่รายเดียว

อ้างว่าราคากลางที่ตั้งไว้ 3,389 ล้านบาท ต่ำเกินไป

เปิดประมูลครั้งที่ 6, บอร์ด ขสมก.ยอมเพิ่มราคากลางจาก 3,389 ล้านบาท เป็น 4,020 ล้านบาท

เท่ากับยอมประเคนงบกลางเพิ่มอีก 631 ล้านบาทฟรีๆ

แต่สุดท้ายล่มปากอ่าว เพราะไม่มีเอกชนรายใดเข้าประมูลแม้แต่รายเดียว

...

สรุปว่าเปิดประมูลจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน ไปแล้วถึง 6 ครั้ง ต้องล้มคว่ำล้มหงายไปซะทุกที

มันผิดปกติหรือไม่ “แม่ลูกจันทร์” ขอสงวนสิทธิ์ไม่วิจารณ์

อย่างไรก็ดี เมื่อการประมูลจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีครั้งที่ 6 ครั้งล่าสุดไม่มีเอกชนรายใดสนใจร่วมประมูลเสนอราคา

บอร์ด ขสมก.จึงแก้ปัญหาด้วยการเปลี่ยนไปใช้ “วิธีพิเศษ”

คือคัดเลือกบริษัทเอกชนบางรายให้เสนอราคาโดยตรง

ปรากฏว่ามีบริษัท ช.ทวี ขาเก่าเจ้าเดิมเสนอราคาเจ้าเดียว

แถมราคาที่เสนอสูงกว่าราคากลาง 10 เปอร์เซ็นต์

ถ้าคิดเป็นเงินน่าจะแพงกว่าราคากลางอีก 400 ล้านบาทโดยประมาณ

“แม่ลูกจันทร์” คาดว่าบอร์ด ขสมก.กำลังจะรวบหัวรวบหางตกลงให้บริษัท ช.ทวี คว้าโครงการรถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน

โดยอ้างเหตุจำเป็นเร่งด่วนต้องจัดหารถเมล์ใหม่เป็นของขวัญปีใหม่ให้ชาว กทม.

แต่จะเหมาะสมหรือไม่ที่มีบริษัทเอกชนรายเดียวโดดๆเสนอราคาขายรถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน

โดยไม่มีเอกชนรายอื่นเสนอราคาเทียบเคียง

ข้อสำคัญ ราคาที่เสนอมายังสูงกว่าราคากลางอีก 10 เปอร์เซ็นต์

“แม่ลูกจันทร์” กระชุ่น ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคมป้ายแดงผู้กำกับดูแล ขสมก.คิดหน้าคิดหลังให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ

ถ้าคิดว่าเหมาะสมดีแล้ว

ก็เซ็นแกร๊กอนุมัติได้เลย.

“แม่ลูกจันทร์”