ไม่เชื่อ ก็ต้องเชื่อ

เมื่อราวสัก 3 ปีที่ผ่านมา ผมมีโอกาสได้เดินทางไปเที่ยวสเปน เมืองที่มีความสวยงาม มีศิลปวัฒนธรรมเก่าแก่ มีความเป็นตัวของตัวเองสูง มีทีมฟุตบอลที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก มีผู้หญิงที่มีความสวยงาม

“สเปน” ถือเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ยิ่งใหญ่มาอย่างยาวนาน เป็นอภิมหาอำนาจไม่ต่างกับประเทศใหญ่ในยุคสมัยนี้โดยเฉพาะมีกองเรือที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก

ที่สำคัญก็คือ เป็นประเทศที่มีอาณานิคมไปเกือบทุกภูมิภาคในโลกใบนี้

การปกครองในยุคสมัยก่อนๆมีชนเผ่าต่างๆเข้ามามีอิทธิพลเปลี่ยนแปลงไปแต่ละยุคสมัยเพื่อปกครอง

“กาตาลุญญา” หรือที่เรียกกัน “คาตาลัน” ซึ่งมีชาวคาตาลัน

ครอบครองแคว้นนี้อยู่มาอย่างยาวนานและได้สร้างความเจริญมากที่สุดของสเปน

เมือง “บาร์เซโลนา” ถือเป็นเมืองหลวงของกาตาลุญญาโดยมีผู้ปกครองรัฐ คือปกครองตนเอง แต่ขึ้นอยู่รัฐบาลกลางสเปน ซึ่งเป็นเมืองหลวงที่ตั้งอยู่กรุงมาดริด ใช้รัฐธรรมนูญฉบับเดียวกัน ใช้กฎหมายตำราเดียวกัน

แต่บาร์เซโลนานั้นมีความเจริญมากที่สุดของสเปน เพราะเป็นเมืองที่มีความสวยงาม เป็นเมืิองอุตสาหกรรม มีท่าเรือขนาดใหญ่เพื่อขนส่งสินค้าไปประเทศต่างๆ เนื่องจากมีทะเล

มีประชากร 7.5 ล้านคน แต่ไปใช้สิทธิในการแสดงประชามติ เพื่อแยกตัวออกจากสเปนเพียงร้อยละ 42.3 ของผู้มีสิทธิไปลงคะแนนหรือเพียงแค่ 2.02 ล้านคนเท่านั้น

ประชากรที่เหลือไปไหน เป็นคำถามที่น่าสนใจ เพราะผู้คนส่วนนี้ไม่ต้องการให้เกิดการแยกตัวออกจากสเปน

ตอนที่ผมไปสเปนครั้งนั้นมีล่ามเป็นชาวสเปน ซึ่งมีความรอบรู้ประเทศนี้อย่างดี โดยเฉพาะแนวคิดที่จะมีการแยกตัวของชาวกาตาลุญญา

เขาเล่าว่า ชาวกาตาลุญญาส่วนใหญ่ถือว่าพวกเขายิ่งใหญ่กว่าเมืองอื่นๆ ใหญ่กว่ามาดริด พวกเขาส่วนใหญ่ผ่านชีวิตในฐานะผู้ใช้แรงงาน หรือที่เรียกว่าเป็นกรรมกร จึงมีการรวมตัวและแนวคิดทางการเมืองเพื่อผู้ใช้แรงงาน

...

เป็นแนวสังคมนิยม คอมมิวนิสต์ ไม่นิยมกษัตริย์ ไม่ใช่ประชาธิปไตย

กอปรกับความเป็นเมืองอุตสาหกรรมขนาดใหญ่เต็มไปหมด รถยนต์สเปนที่ส่งออกก็เป็นผลผลิตของชาวกาตาลุญญา

และนี่ทำให้ถูกบังคับให้นำเงินเข้ารัฐบาลกลางเป็นจำนวนมากที่สุด

ว่าไปแล้ว เงินทองที่หล่อเลี้ยงประเทศส่วนใหญ่จึงมาจากที่นี่

ก่อนหน้าสเปนเกิดปัญหาเศรษฐกิจอย่างหนักจนแทบจะไปไม่รอดทำให้พวกเขาไม่พอใจ เพราะราชวงศ์ต่างก็นำเงินทองไปใช้กันอย่างฟุ่มเฟือย

ด้านการปกครองก็ดูเหมือนว่าพวกเขาจะถูกกีดกัน ถูกเหยียดหยามทำนองว่าเป็นพวกกรรมกร ไม่ใช่ผู้ดีอย่างที่มาดริด
เหล่านี้ล้วนเป็นแรงกดดันสำคัญที่นำไปสู่แนวคิดที่จะแยกประเทศและได้เกิดการจัดทำประชามติ และพวกเขาก็ประกาศชัยชนะเพื่อจะแยกตัว

ท่ามกลางปัญหาที่จะตามมา เพราะทั้งคิงส์สเปนและรัฐบาลต่างก็ไม่เห็นด้วย และชี้ว่าเป็นการกระทำที่ขัดต่อกฎหมาย

อียู ซึ่งมองเรื่องนี้ด้วยความเป็นห่วงและไม่เห็นด้วย พยายามที่จะเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาเพื่อให้เกิดการเจรจา ซึ่งไม่รู้ว่าจะลงเอยอย่างไร

ที่แน่ๆอาจจะเกิดสงครามกลางเมืองขึ้นมาได้

แม้กระทั่งทีมฟุตบอลบาร์เซโลนา ที่ดังระดับโลกก็กำลังปั่นป่วน.

“สายล่อฟ้า”