ซูเปอร์โพล เผยคนส่วนใหญ่ 67.2% มองเงื่อนไขการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศต้องเป็นประชาธิปไตยและไม่มีการโกงกิน ชี้ 62.2% ไม่ยอมรับเด็ดขาดถ้ารัฐบาลทุจริตแล้วมาแบ่งประชาชน ขณะที่ 37.8% กลับยอมรับได้...

เมื่อวันที่ 19 ส.ค. นายปราโมทย์ พันธ์สะอาด รองประธานชมรมขับเคลื่อนวิชาการเพื่อวิจัยความสุขชุมชน สำนักวิจัยซูเปอร์โพล เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง ทัศนคติของประชาชนต่อประเด็นสำคัญทางการเมือง กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพ จำนวนทั้งสิ้น 762 ตัวอย่าง โดยเมื่อถามถึงเงื่อนไขของการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศกับประชาธิปไตยของไทย พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 67.2 ระบุ ประเทศเป็นประชาธิปไตยและไม่มีการโกงกิน รองลงมาคือ ร้อยละ 13.1 ระบุ ประเทศไม่จำเป็นต้องเป็นประชาธิปไตยแต่ต้องไม่มีการโกงกิน ร้อยละ 10.9 ระบุ เป็นประเทศประชาธิปไตยเท่านั้น

ในขณะที่ ร้อยละ 4.4 ระบุ ประเทศเป็นประชาธิปไตยและมีการโกงกิน เศรษฐกิจจึงจะดี และร้อยละ 0.7 ระบุ ประเทศไม่จำเป็นต้องเป็นประชาธิปไตย ที่เหลือระบุอื่นๆ เช่น นักการเมืองมีความจริงใจและตั้งใจพัฒนาประเทศชาติ และมีการเลือกตั้ง เป็นต้น

เมื่อสอบถามถึง การยอมรับรัฐบาลที่ทุจริตคอร์รัปชัน ถ้าทุจริตแล้วมาแบ่งประชาชนด้วย พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 62.2 ระบุ ไม่ยอมรับโดยเด็ดขาด ในขณะที่ร้อยละ 37.8 กลับยอมรับได้ ถ้ารัฐบาลทุจริตคอร์รัปชันแล้วมาแบ่งประชาชน

นอกจากนี้ เมื่อจำแนกตามกลุ่มจุดยืนทางการเมือง พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ทุกกลุ่มไม่ยอมรับรัฐบาลที่ทุจริตคอร์รัปชันโดยเด็ดขาด แต่เป็นที่น่าสังเกตว่ากลุ่มพลังเงียบ ที่ไม่ฝักฝ่ายใด กลับเป็นกลุ่มที่มีสัดส่วนของคนที่ไม่ยอมรับโดยเด็ดขาดน้อยที่สุด คือร้อยละ 58.3 ในขณะที่ กลุ่มสนับสนุนรัฐบาลมีสัดส่วนของผู้ที่ไม่ยอมรับรัฐบาลทุจริตคอร์รัปชันมากที่สุดคือ ร้อยละ 65.5 และแม้แต่กลุ่มที่ไม่สนับสนุนรัฐบาล ก็ยังไม่ยอมรับรัฐบาลทุจริตเช่นกันคือร้อยละ 63.3 ที่น่าสนใจคือ ค่าเฉลี่ยความสุขของประชาชนมีเพียง 3.19 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 เมื่อนึกถึงคุณภาพนักการเมืองปัจจุบัน

...