สหกรณ์ออมทรัพย์ครูกระบี่ แจงแก้หนี้เน่าลดยอดได้กว่า 100 ล้าน เดือน เม.ย.67 ตัวเลขลดเหลือเพียง 414 ล้านเศษ ยันปล่อยกู้ไม่ขัดระเบียบ ศธ. สามารถออกระเบียบเองได้โดยยึดหลักของกรมส่งเสริมสหกรณ์ ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ มีนายทะเบียนรับรองถูกต้อง


กรณีกลุ่มครูที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูกระบี่ จก. (สกค.กระบี่) ยื่นหนังสือเร่งรัดให้สหกรณ์ จ.กระบี่ ตรวจสอบการบริหารงานของคณะกรรมการฯ สกค.กระบี่ เนื่องจากพบข้อพิรุธเรื่องยอดหนี้เสียกว่า 500 ล้านบาท จากการปล่อยกู้ให้สมาชิกในโครงการ SME โดยสมาชิกเกรงจะเกิดการทุจริต เพราะมีการออกระเบียบการชำระเงินคืนที่ขัดกับระเบียบของ ศธ. 


นายมิตร คำเลี้ยง ประธานกรรมการดำเนินการ สกค.กระบี่ ชี้แจงว่า สกค.กระบี่ จก. จัดตั้งและเริ่มดำเนินกิจการเมื่อ วันที่ 29 มิ.ย. พ.ศ.2504 มีสมาชิก แรกเริ่มดำเนินการ จำนวน 187 คน เงินหุ้นสะสมรายเดือนครั้งแรก 665 หุ้น เป็นเงินทั้งสิ้น 6,650 บาท ณ วันที่ 30 เม.ย.67 มีสมาชิกทั้งสิ้น 7,100 คน มีทุนเรือนหุ้นกว่า 3,300 ล้านบาท บริหารงานโดย คณะกรรมการที่มาจากการเลือกตั้งของสมาชิก จากกรณีที่เป็นข่าวในสื่อต่าง ๆ เกี่ยวกับ สกค.กระบี่ ขอชี้แจงเรื่องดังกล่าวให้ทราบข้อเท็จจริงดังนี้


ในประเด็นเรื่องการจัดสร้างพระจตุคามรามเทพ ทางคณะกรรมการ สกค.ได้มีการดำเนินการเมื่อปี พ.ศ.2550 จนเกิดปัญหาตามที่ถูกร้องเรียน คณะกรรมการชุดปัจจุบันจึงดำเนินการตามคำสั่งนายทะเบียน 23/2566 โดยการฟ้องเรียกค่าเสียหายจากคณะกรรมการชุดที่มิได้ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับของสหกรณ์ ทำให้สหกรณ์ได้รับความเสียหายในคดีแพ่ง ซึ่งคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล จ.กระบี่


ส่วนเรื่องการเบิกเงินไปวางมัดจำการจัดซื้อที่ดิน ได้มีการดำเนินการเมื่อปี พ.ศ.2550 คณะกรรมการชุดปัจจุบันได้ดำเนินการตามคำสั่งนายทะเบียน 24/2566 โดยดำเนินการฟ้องเรียกค่าเสียหายจากคณะกรรมการชุดดังกล่าวแล้วเช่นกัน ซึ่งคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล จ.กระบี่

...


ขณะที่ปัญหาหนี้เน่า หรือหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ดังกล่าว มีอัตราการเพิ่มมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2554 และมีจำนวนหนี้ดังกล่าวสูงสุดในปี พ.ศ.2560 จำนวน 537 ล้านบาทเศษ หลังจากนั้นคณะกรรมการดำเนินการแต่ละชุดได้หาวิธีการปรับแก้โดยกำหนดนโยบายเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง จนถึงปัจจุบันสามารถลดหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้จำนวนเงิน 100 ล้านบาท จนถึงสิ้นเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ตัวเลขหนี้เน่าลดลงเหลือเพียง 414 ล้านบาทเศษ และได้วางมาตรการกำหนดวิธีการติดตาม เร่งรัด และจัดการหนี้ เพื่อให้หนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีที่กำลังเร่งติดตามอยู่อีกจำนวน 83 ราย เป็นเงินจำนวนรวม 130 ล้านบาทเศษ ลูกหนี้ที่ถูกตัดสมาชิกภาพไปแล้ว 151 ราย วงเงิน 131 ล้านบาทเศษ รอดำเนินคดี 7 ราย เป็นเงิน 11 ล้านบาทเศษ และมีคำพิพากษาไปแล้ว อยู่ระหว่างติดตามการชำระหนี้ตามคำพิพากษา 102 ราย วงเงิน 164 ล้านบาทเศษ


ในส่วนของการกำหนดระเบียบวิธีการชำระเงินคืนของสมาชิกที่กู้ในโครงการเงินกู้พิเศษ SME นั้น มีการกำหนดให้สมาชิกสามารถชำระคืนโดยเงินสด ไม่ต้องใช้ระเบียบการหักบัญชีเงินเดือนของ ศธ.ได้ เพราะเป็นโครงการเงินกู้พิเศษ ทาง สกค.กระบี่ สามารถออกระเบียบเองได้โดยยึดหลักของกรมส่งเสริมสหกรณ์ ก.เกษตรและสหกรณ์ ซึ่งมีการปฏิบัติถูกต้องตามหลักเกณฑ์ มีนายทะเบียนรับรองถูกต้อง จึงไม่ถือว่าขัดระเบียบของ ศธ. ซึ่งก่อนนี้ก็เคยมี สกค.ในบางจังหวัดเคยใช้วิธีการเดียวกันด้วย แต่ไม่ยืนยันว่า สกค.จังหวัดใดบ้างที่เคยใช้วิธีการนี้.