รองอธิบดีกรมป่าไม้ นำหลายหน่วยงาน บุกทวงคืน "หาดนุ้ย" จ.ภูเก็ต พร้อมหมายค้นลุยเข้าตรวจสอบ พบผู้ประกอบการรุกป่าเทือกเขานาคเกิด แม้ศาลสั่งออกจากพื้นที่แล้ว แต่ยังดื้อ โดนแจ้งข้อหาซ้ำอีกระลอก เพราะถือว่ามีการทำผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติฯ


เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 12 มี.ค. 67 นายบรรณรักษ์ เสริมทอง รองอธิบดีกรมป่าไม้ นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักรองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสมชาย นุชนานนท์เทพ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 จ.กระบี่ พ.ต.อ.ธีรวัฒน์ เลี่ยมสุวรรณ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.ท.วิวัฒน์ ชำนาญกิจ รอง ผกก.ป.สภ.กะรน นำกำลังเจ้าหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น ป่าไม้ เจ้าท่า ฝ่ายปกครอง สภ.กะรน เป็นต้น กว่า 50 นายพร้อมหมายค้นของศาลจังหวัดภูเก็ต ลงวันที่ 11 มี.ค. 67 เพื่อเข้าตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมายในแนวเขตป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขานาคเกิด บริเวณหาดนุ้ย ซอยแหลมมุมนอก หมู่ 2 ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังพบว่ามีสิ่งปลูกสร้างอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว โดยมีนายธนากร เสียมหาญ ทนายความรับมอบจากบุคคลที่เกี่ยวข้องเซ็นรับทราบหมายค้นดังกล่าวพร้อมนำตรวจค้น

...


โดยกำลังเจ้าหน้าที่ต้องใช้รถกระบะจากถนนใหญ่เข้าสู่พื้นที่ดังกล่าวราว 4-5 กม. โดยมีการลาดถนนทางเข้าเป็นคอนกรีต สะดวกกับการเดินทางเป็นอย่างมาก โดยในอดีตจะเป็นลูกรังและจะต้องใช้รถกระบะแบบยกสูง เมื่อถึงด้านในจะพบหาดนุ้ยที่มีความสวยงามไม่แพ้ชายหาดอื่นๆ ของ จ.ภูเก็ต โดยมีโขดหินสลับกับผืนทราย ซึ่งอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเนื้อที่นับสิบไร่ โดยปากทางเข้ามีการติดป้ายระบุที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นของส่วนบุคคล จำนวนเนื้อที่กว่า 18 ไร่ โดยชอบด้วยกฎหมาย ห้ามบุคคลภายนอกเข้ายุ่งเกี่ยวรบกวนการครอบครองเด็ดขาด ผู้ใดฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้จากการตรวจสอบด้วยสายตาบริเวณโดยรอบมีการก่อสร้างบ้านพัก สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ จุดถ่ายรูปเช็กอินไว้อย่างสวยงาม ทั้งบริเวณหน้าผาสามารถมองทิวทัศน์ทะเลได้กว่า 180 องศา ซึ่งก่อนหน้านี้บริเวณดังกล่าวเคยเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหรือแลนด์มาร์กชื่อดัง "หาดนุ้ย" ซึ่งหลายคนเข้าใจว่าเป็นหาดส่วนตัว 


นายบรรณรักษ์ กล่าวว่า วันนี้ได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดภูเก็ต เข้าตรวจค้นพื้นที่ที่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขานาคเกิด โดยมีการปลูกสิ่งก่อสร้างบ้านพักและสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ซึ่งจะมีการตรวจสอบสิ่งต่างๆ ว่ามีการเปลี่ยนสภาพเดิมจากป่าสงวนแห่งชาติอย่างไร โดยจะมีการจัดทำบัญชีตรวจยึดการก่อสร้างต่างๆ เป็นจำนวนเท่าไรไปเป็นบัญชีของกลางประกอบการดำเนินคดีที่เราได้ลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.กะรน เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 67 เพื่อให้มีการดำเนินคดีอาญากับผู้ที่บุกรุก หรือถือครองป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขานาคเกิด


"ก่อนหน้านี้มีการยื่นฎีกาเกี่ยวกับเอกสาร สค.1 และผู้ถือก็ชนะ จากนั้นผู้ถือครอง สค.1 ได้นำไปออกเอกสารสิทธิที่อื่นแล้ว บริเวณตรงนี้เลยกลับมาอยู่ในสถานะป่าสงวนแห่งชาติตามเดิม ในการประกาศปี 2516 โดยคนครอบครองมีการเปลี่ยนมือมาเรื่อยๆ แต่สิทธิการครอบครองนั้น ศาลฎีกาพิพากษาแล้วว่าเอกสารบริเวณนี้ออกโดยมิชอบ" รองอธิบดีกรมป่าไม้กล่าวย้ำ


นายบรรณรักษ์ กล่าวด้วยว่า เรื่องมาตรการการรื้อถอนนั้น จะดำเนินการตามมาตรา 25 พ.ร.บ.ป่าสงวนฯ อาจจะมีการแจ้งให้ผู้ที่ก่อสร้างดำเนินการรื้อถอนเองก่อน แต่ถ้าไม่ดำเนินการ เราก็จะดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่เอง ซึ่งเคยรื้อถอนไปแล้วเมื่อปี 63 แต่พบว่าในช่วงโควิด และหลังโควิดได้มีการกลับมาก่อสร้างอีกในช่วงปลายปี 66 จึงมีการเข้าดำเนินการตรวจสอบ จนมาถึงการลงพื้นที่ตรวจสอบในครั้งนี้ ทั้งนี้สถานที่แห่งนี้ได้ถูกเพิกถอนกลับกลายมาเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขานาคเกิดตามกฎกระทรวงฯ ตามเดิม ฉะนั้นกรมป่าไม้จึงต้องเข้ามาตรวจสอบ พอพบว่ามีการบุกรุกถือว่ามีการทำผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติฯ จะต้องมีการตรวจยึดสิ่งปลูกสร้าง พร้อมกับทำรายการแนบท้าย

...


ขณะที่นายธนากร ทนายความตัวแทนของผู้ครอบครองที่ดินบริเวณดังกล่าว เปิดเผยว่า เรามีหลักฐานในการครอบครองที่ดินและมีการต่อสู้คดีกันในชั้นศาลมาโดยตลอด พูดง่ายเลยว่า เป็นเรื่องเก่าๆ ที่กำลังต่อสู้คดีกันในศาล ซึ่งทางเราให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ที่เข้ามาตรวจสอบอยู่แล้ว โดยสามารถตรวจสอบการก่อสร้างต่างๆ มีนอกเหนือจากคำสั่งเดิมหรือไม่ อย่างไร ถ้าทำตามกฎหมาย เราพร้อมและยินดีให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่

...


ด้าน นายธนกฤต กล่าวว่า ทางรัฐบาลและหน่วยงานของรัฐต้องการนำพื้นที่ชายหาดต่างๆ ที่มีการนำไปครอบครองเป็นชายหาดส่วนตัวคืนกลับมาให้พี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ตลอดจนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวยัง จ.ภูเก็ต โดย จ.ภูเก็ตถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่จะดำเนินการ โดยเฉพาะหาดนุ้ยเป็นที่แรก ตราบใดถ้ายึดชายหาดคืนกลับมาให้พี่น้องชาวไทยไม่ได้จะไม่เป็นแล้วผู้ช่วยรัฐมนตรี ขอลองดูกับกลุ่มคนที่อ้างว่าเส้นใหญ่ แล้วดูกันว่าเส้นใหญ่แล้วทำผิดกฎหมายจะอยู่ได้หรือไม่