รองผู้การ ตม. ยันจะไม่ต่อวีซ่าธุรกิจให้ ฝรั่งสวิส เจ้าของปางช้างในภูเก็ต ผู้ต้องหาทำร้ายร่างกายแพทย์หญิง ซึ่งวีซ่าจะหมดในวันที่ 13 มี.ค. 67 แต่จะอนุญาตให้อยู่ในไทยในฐานะ "ผู้ต้องหาที่มีคดีความ" ครั้งละ 90 วัน จนกว่าคดีจะสิ้นสุด 


วันที่ 5 มีนาคม 3567 นายกองเอก อดุลย์ ชูทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตกล่าวถึงกรณีการเพิกถอนวีซ่าของชาวต่างชาติ ขาวสวิตเซอร์แลนด์เจ้าของปางช้าง ที่กำลังตกเป็นประเด็นใหญ่ จากการตรวจสอบพบว่าการเข้ามาอยู่ในประเทศไทยของชายชาวต่างชาติคนดังกล่าวนั้น เป็นการถือวีซ่าผู้ประกอบธุรกิจในประเทศไทย 1 ปี และจะครบกำหนดวีซ่าในวันที่ 13 มี.ค.67 

“กรณีที่มีคดีความอยู่ และที่ผ่านมามีพฤติกรรมข่มขู่ สร้างความเดือดร้อนหรือสร้างความ น่าหวาดกลัวให้กับประชาชนในพื้นที่ ซึ่งการพิจารณาการต่อวีซ่านั้น มีแนวทางการพิจารณา คือ ถ้าคดีความเสร็จสิ้นก่อนวันที่ 13 มี.ค.นี้ ก็จะนำเข้าสู่คณะกรรมการพิจารณาเพิกถอนวีซ่าชาวต่างชาติที่มีการกระทำความผิดกฎหมาย ซึ่งจะเป็นแนวทางในการพิจารณาไม่ต่อวีซ่าให้และผลักดันกลับประเทศ ส่วนกรณีที่คดีความยังไม่สิ้นสุดหรือเสร็จสิ้นก่อนวันที่ 13 มี.ค.67 ทาง ตม.จะต้องต่อวีซ่ากรณีผู้ถือวีซ่าอยู่ระหว่างการดำเนินคดี จนกว่าคดีความจะสิ้นสุด จากนั้นจะมีการพิจารณาไม่ต่อวีซ่าต่อไป” 

ทั้งนี้ คณะกรรมการได้มีการประสานไปทาง ตม.แล้ว ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า ผบช.ภ.8 สั่งเพิกถอนวีซ่าแล้วนั้น ขณะนี้ยังไม่มีการเพิกถอนหรือยกเลิกวีซ่าแต่อย่างใด ซึ่งต้องรอคดีความที่เกิดขึ้นจนกว่าจะเสร็จสิ้นก่อน และเมื่อคดีความสิ้นสุดลง จะนำเรื่องเข้าสู่คณะกรรมการพิจารณาเพิกถอนวีซ่าตามที่ผวจ.แต่งตั้งว่าจะมีการให้ต่อวีซ่าหรือเพิกถอน หรือไม่ อย่างไร คดีนี้ผู้ถูกกล่าวหาให้การปฏิเสธ กระบวนการทางกฎหมายจะต้องไปถึงศาลจนกว่าจะมีคำพิพากษา วีซ่าที่อยู่ต่อจะเป็นวีซ่าผู้ต้องหาที่มีคดีความ 

...

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ พ.ต.อ.ปริญญา กลิ่นเกษร รองผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 และรองโฆษกสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยว่าวีซ่าของ ฝรั่งที่เตะคนไทยที่ จ.ภูเก็ต จะหมดในวันที่ 13 มีนาคมนี้ และขณะนี้อยู่บนระหว่างการดำเนินคดี ซึ่งทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จะไม่ต่อวีซ่าธุรกิจให้ หากจะมาต่อ จะต่อเป็นวีซ่าระหว่างคดีครั้งละ 90 วัน เป็นครั้งๆ ไปจนกว่าคดีถึงที่สิ้นสุด ส่วนหลังจากสิ้นสุดคดี ก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาว่าศาลจะมีคำพิพากษาออกมาเป็นอย่างไร