"สวนสัตว์สงขลา" เฮต่อเนื่อง "เสือปลา" นักล่าแห่งพื้นที่ชุ่มน้ำ สัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์ ให้กำเนิดลูกน้อย 2 ตัว หลังก่อนหน้านี้ทางสวนสัตว์ฯ เพิ่งได้ทายาท "นกกระเรียนหงอนพู่" มาหมาดๆ
เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 67 นายพิเชษฐ์ ทัปนวัชร์ ผู้อำนวยการสวนสัตว์สงขลา กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่จากฝ่ายอนุรักษ์ วิจัยและสุขภาพสัตว์ ว่า เสือปลา หรือเสือแผ้ว ภายในส่วนเพาะขยายพันธุ์สัตว์ป่า ตามแผนอนุรักษ์เพาะขยายพันธุ์สัตว์ป่าหายากของสวนสัตว์สงขลา ได้ให้กำเนิดลูกเสือปลา จำนวน 2 ตัว ซึ่งโครงการดังกล่าวดำเนินการเพื่อศึกษา วิจัย และอนุรักษ์เสือปลา ตลอดจนต้องการเพิ่มประชากรของสัตว์ชนิดนี้ เพื่อนำกลับคืนสู่ธรรมชาติ เพื่อให้ระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ กลับมาสู่ความสมดุลดั้งเดิม
ทั้งนี้ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ดูแลลูกเสือปลาน้อยอย่างใกล้ชิด เนื่องจากในระยะ 1-2 สัปดาห์แรกของการเกิดนั้น มีความอ่อนไหว ต้องเฝ้าระวังติดตามพฤติกรรมมากเป็นพิเศษ เนื่องด้วยสัตว์ป่าชนิดนี้มีความอ่อนไหวระมัดระวังภัยมาก หากเกิดความเครียดมากเกินไป ก็อาจส่งผลให้สูญเสียลูกเสือปลาได้ เนื่องด้วยพฤติกรรมการปกป้องลูกน้อยตามธรรมชาติของเสือชนิดนี้ อาจทำร้ายลูกที่เกิดใหม่ได้
ด้าน นายสุรศักดิ์ ยิ้มประเสริฐ หัวหน้าฝ่ายอนุรักษ์ วิจัย และสุขภาพสัตว์ กล่าวว่า ตนได้ดำเนินการศึกษาวิจัยสัตว์ชนิดนี้มาตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ทั้งการสังเกตพฤติกรรม ตลอดจนการบันทึกข้อมูลพฤติกรรมต่างๆ เพื่อนำมาศึกษาและเพาะขยายพันธุ์ เพื่อนำกลับคืนสู่ธรรมชาติ โดยในวันดังกล่าวได้ยินเสียงร้องภายในส่วนเพาะขยายพันธุ์ เมื่อเข้าไปเพื่อติดตามเสียงว่าเป็นตัวอะไร จึงพบเห็นลูกเสือปลาอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับเสือปลาแม่พันธุ์
นายสุรศักดิ์ กล่าวต่อว่า เคยมีประสบการณ์ในการดูแลลูกเสือปลามาก่อน พบว่าสัตว์ชนิดนี้มีความอ่อนไหวต่อการถูกคุกคามเป็นอย่างมาก ซึ่งกลไกการป้องกันลูกน้อยมีความซับซ้อน หากแม่พันธุ์ที่ดูแลมีความวิตกกังวลอาจเกิดอันตรายกับลูกน้อยมากเกินไป อาจนำไปสู่การเสียโอกาสในการศึกษาพฤติกรรมของเสือปลาในวัยเด็ก อีกทั้งยังสูญเสียโอกาสในการผลักดันให้เกิดกลไกของระบบห่วงโซ่อาหาร ที่สามารถสร้างสมดุลของธรรมชาติได้เป็นลำดับด้วย ฉะนั้น การปล่อยให้แม่เสือปลาได้ดูแลลูกน้อยตามธรรมชาติในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก จึงถือว่าเป็นเรื่องที่ต้องเอาใจใส่และต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
...
ทั้งนี้ สวนสัตว์สงขลาเพิ่งได้รับข่าวดี เมื่อ "นกกระเรียนหงอนพู่" หรือ "นกกระเรียนมงกุฎเทา" ให้กำเนิดลูกน้อยเพียงไม่กี่วัน ต่อมา "เสือปลา" ก็ให้กำเนิดลูกน้อยอีก 2 ตัว
สำหรับสวนสัตว์สงขลาได้ดำเนินการปล่อย และติดตามพฤติกรรมเสือปลามาแล้ว ตามแผนงานวิจัยการจัดการประชากรเสือปลาอย่างบูรณาการ เพื่อการอนุรักษ์อย่างยั่งยืนในพื้นที่ อ.สิงหนคร โดยในครั้งนั้นสวนสัตว์สงขลาได้ดำเนินการปล่อยเสือปลาเพศผู้จำนวนหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเสือปลาเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมในตระกูลแมว โดยเป็นเสือขนาดเล็กที่อาศัยตามป่าละเมาะและพื้นที่ชุ่มน้ำ ตั้งแต่ปากแม่น้ำสาละวิน อิรวดี สินธุ อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ ไล่มาจนทั่วทั้งบริเวณภาคใต้ของไทย เสือป่ามักหากินได้ทั้งเวลากลางวันและกลางคืน ตามแหล่งน้ำต่างๆ เช่น หนอง คลอง บึง และป่าชายเลน จับสัตว์น้ำเป็นอาหาร ได้แก่ ปลา หนู และนก ปัจจุบันเสือป่าชนิดนี้อยู่ในสถานะใกล้สูญพันธุ์ เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ขณะนี้ไม่ทราบถึงประชากรในธรรมชาติที่ชัดเจน เนื่องด้วยผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพที่อยู่อาศัย การรุกป่า การล่าของมนุษย์ ตลอดจนการปศุสัตว์ของชาวบ้าน