เมื่อเมษายน 2561 เขียนถึงเรื่อง “เอาปาล์มน้ำมันมาทำผงซักฟอกชีวภาพ” ด้วยตอนนั้น ผู้รู้ในเรื่องการแปรรูปปาล์มน้ำมัน ดร.บุรินทร์ สุขพิศาล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านนวัตกรรม ในคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ได้ออกมาเตือน...หากประเทศเรายังยึดติดกับการทำน้ำมันเจียวไข่และไบโอดีเซล อนาคตปาล์มน้ำมันและไบโอดีเซล จะดำดิ่งดับวูบ เพราะตลาดจะตีบตันขึ้นทุกวัน
จากผลกระทบของสหรัฐฯที่ห้ามใช้น้ำมันปาล์มในอาหาร และยุโรปจะห้ามนำเข้าไบโอดีเซลจากปาล์มน้ำมัน
และยังไม่ทันที่อุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันในบ้านเราจะขยับตัว มีนาคม 2562 ได้เขียนเตือนเรื่อง “พ.ร.บ.กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ออกลายเล่นงานเกษตรกร” เพราะตอนนั้นจะมีการออก พ.ร.บ.กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ที่ทำให้การใช้เงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมาอุ้มไบโอดีเซลจะต้องสะดุดลงในปี 2569
...
กรกฎาคม 2564 เขียนเรื่อง “จับตามาตรฐานน้ำมันยูโร 5 ปลิ้นผู้บริโภคเนื้อเกษตรกร” เพราะประเทศไทยจะประกาศบังคับมาตรฐานการปล่อยมลพิษของเครื่องยนต์และเชื้อเพลิงในระดับยูโร 5 ในวันที่ 1 มกราคม 2567 นี่เป็นอีกมาตรการที่ดับอนาคตไบโอดีเซลและตัดช่องทางทำมาหากินของเกษตรกรสวนปาล์มน้ำมัน
จนต้องเขียนเรื่อง “กรีนดีเซล ไบโอเจ็ต ทางเลือกทางรอด ปาล์มน้ำมัน” และ ดร.บุรินทร์ ได้ผลักดันให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบที่จะนำน้ำมันปาล์มมาผลิตเป็นผลิต ภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม 6 ชนิด และ ครม. อนุมัติให้เพิ่มกรีนดีเซลและน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน เป็นอีกผลิตภัณฑ์ที่รัฐจะสนับสนุนให้เกิดขึ้นมาในอุตสาหกรรมของบ้านเรา
เพื่อเตรียมรับมือกับมาตรการ CORSIA ของยุโรปที่จะเก็บภาษีจากการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานที่ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
แต่เชื่อไหมว่าตลอด 5-6 ปีที่ผ่านมา การส่งสัญญาณเตือนให้ปรับตัว เหมือนไม่ค่อยมีใครได้ยิน ทุกอย่างยังคงมะงุมมะงาหรากันเหมือนเดิม แทบจะเรียกได้ว่า สายเกินแก้ที่จะเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอุตสาหกรรมปาล์มและไบโอดีเซลให้อยู่รอด
วันนี้ราคาผลปาล์มแม้จะยังไม่ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน แต่ราคาได้ร่วงจากที่เคยอยู่ระดับ กก.ละ 10–11 บาท ลงมาอยู่ที่ กก.ละ 5–6 บาท เกษตรกรยังพอยิ้มได้ นั่นไม่ใช่ฝีมือการแก้ปัญหาของภาครัฐแต่อย่างใด หากแต่เป็นอานิสงส์ของเอลนีโญ ภาวะร้อนแล้งทำให้ผลผลิตออกมาน้อย ราคาปาล์มเลยยังดูดี...เอลนีโญผ่านพ้นไปเมื่อไร เกษตรกรสะอื้นแน่
ในภาวะที่อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในการนำปาล์มน้ำมันมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ชั้นสูง ขยับตัวไม่ต่างการขับเคลื่อนร่างกายของสลอธ (sloth) ยากที่พี่น้องชาวสวนปาล์มจะฝากอนาคตไว้ได้
...
ช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา ดร.บุรินทร์ ในฐานะที่เคยมีประสบการณ์ทำงานในทีม Business Development ของบริษัทข้ามชาติยักษ์ใหญ่ในวงการเคมีภัณฑ์ระดับโลก ได้ค้นพบการนำปาล์มน้ำมันมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับปาล์มน้ำมัน
ที่สำคัญเป็นการแปรรูปในระดับที่ sme และวิสาหกิจชุมชน สามารถทำได้เอง...ผลิตภัณฑ์ที่ว่านั่นคือ ยาขัดรองเท้า ครีมรักษาและทำความสะอาดเครื่องหนัง ครีมบำรุงผิว และครีมกันแดด
จึงขอความร่วมมือจาก ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมคนปัจจุบัน ซึ่งขณะนั้นเป็นอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม สนับสนุนงบประมาณ ให้ทีมงานทดลองนำน้ำมันปาล์มมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ง่ายๆ เพื่ออบรมให้ sme และชาวสวนปาล์มฯ
...
“ความจริงแล้วผลิตภัณฑ์เหล่านี้ โรงงานที่รับจ้างผลิตแชมพู เครื่องสำอางทั่วไป ทำกันเป็นอยู่แล้ว เพียงแต่ว่า ยังไม่เคยมีใครทดลองเอาปาล์มน้ำมันเป็นวัตถุดิบมาก่อน เพราะผลิตภัณฑ์เหล่านี้ล้วนแต่ทำมาจากไขปิโตรเลียม เราเพียงแค่เอาไขปาล์มน้ำมันที่มีความปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาทำเป็นผลิตภัณฑ์แทนปิโตรเลียม จะไม่เป็นที่ต้องการของตลาดได้อย่างไร แถมวิธีการทำก็ง่าย ไม่ต่างอะไรกับทำสบู่ แชมพู น้ำยาล้างจาน ที่ชาวบ้านทำใช้กันเลย”
ดร.บุรินทร์ บอกอีกว่า หากบ้านเรามีกฎให้ใช้ครีมกันแดดที่ผลิตจากปาล์มน้ำมัน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เวลาลงว่ายน้ำปนเปื้อนลงในน้ำทะเล ย่อยสลายได้ ไม่เป็นมลภาวะต่อกุ้งหอยปลาปูน้อยใหญ่และปะการัง...ยิ่งถ้ารัฐบาลหรือ กนป. รับลูกนำไปสานต่อ และขอความร่วมมือให้ท้องถิ่น ออกเทศบัญญัติ หน่วยงานเกี่ยวข้อง ออกระเบียบให้เขตท่องเที่ยว ชายหาด เขตอุทยานแห่งชาติ ประกาศตนเองเป็นพื้นที่สีเขียวเข้ม ให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แถมเคลมคาร์บอนเครดิตได้อีก ตลาดมูลค่านับพันนับหมื่นล้านของผลิตภัณฑ์จากปาล์มน้ำมันแบบง่ายๆ ที่ไม่ต้องอาศัยอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ จะเกิดขึ้นและขายได้ทันที...SME ของไทยและชาวสวนปาล์มจะอยู่รอด มีรายได้ดีในระยะยาว
...
จึงอยากฝากเรื่องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆจากสินค้าเกษตรเหล่านี้ไปยัง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ที่ควบตำแหน่งประธาน กนป., ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ, นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ดูแลกรมอุทยาน กรมควบคุมมลพิษ และ นางพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม ช่วยคิดทำอะไรที่มองไกลไปสู่อนาคตข้างหน้าด้วยเทอญ.
ชาติชาย ศิริพัฒน์