"แม่ทัพ 4" ปรับแผนเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจำปี 2567 หวังเร่งเดินหน้าสร้างความสุขให้ประชาชน ปราศจากการก่อเหตุ เผยห่วงในเรื่องการลอบวางระเบิด แต่ยังมั่นใจดูแลพื้นที่ได้ แม้ยอดกำลังทหารพราน ลดยอด 800 นาย ยันหากยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต้องมีแผนรองรับ แต่ผู้ปฏิบัติยันต้องคงไว้
เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 66 ที่กองพลทหารราบที่ 15 จ.ปัตตานี พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เป็นประธานการประชุมแถลงแผนเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจำปี 2567 พร้อมด้วย พล.ท.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ แม่ทัพน้อยที่ 4 / รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า, พล.ต.ต.ปราบพาล มีมงคล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 / รองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า, ผู้แทนกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (สงขลา, ปัตตานี, ยะลา และนราธิวาส) และ คณะผู้บังคับบัญชาหน่วยขึ้นตรงกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วมรับมอบนโยบาย
...
โดยหลังการประชุม พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เผยว่า แผนของการปฏิบัติงาน สิ่งแรกที่ต้องการปรับแผนให้เร็วที่สุดคือในเรื่องของการรู้ข้อผิดพลาด ในปีที่ผ่านมาแล้วนำมาแก้ไข เพราะในปีที่ผ่านมาปฏิบัติงานได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการบูรณาการร่วมกัน ของทหารตำรวจฝ่ายปกครองนั้น เราทำมาได้อย่างแน่นแฟ้น แต่ก็ยังมีบางจุดที่ยังเป็นข้อบกพร่องยอมรับว่ายังเป็นข้อที่ต้องแก้ไข อาจจะมีผิดพลาดบ้างในเรื่องของการทำงาน เพราะฉะนั้นสิ่งแรกที่ได้เน้นย้ำให้กับกำลังพลทุกหน่วย คือ ทบทวนหลังการปฏิบัติ ว่าเกิดปัญหาอะไร ในแผนการปฏิบัติงานนั้นก็มีการปรับเปลี่ยนกำลังเล็กน้อย นอกนั้นก็ยังเป็นกำลังเหมือนเดิม แม้กำลังของทหารพราน จะลดยอดออกไปประมาณกว่า 800 นาย ซึ่งเป็นทหารพรานที่มาจากกองทัพภาคที่ 1 ภาคที่ 2 และภาคที่ 3 แล้วมีการปรับกำลังของเราเข้าไปทดแทน
ในเรื่องของการควบคุมพื้นที่มั่นใจว่าเราจะดูแลพื้นที่ได้ โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีการก่อเหตุในห้วงที่ผ่านมา ก็ให้ความสำคัญในพื้นที่นั้นมากขึ้น ในปีที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า มีการก่อเหตุอยู่หลายๆ เคส ที่เจ้าหน้าที่รัฐเราถูกกระทำ จึงเป็นห่วงในเรื่องของการโดนลอบวางระเบิด จึงเป็นสิ่งที่ต้องแก้ไขเพื่อให้กำลังพลของเราได้รับความปลอดภัย ในส่วนของการก่อกวนยิงใส่ฐานปฏิบัติการ และการปาระเบิดไปป์บอมบ์เราสามารถควบคุมการก่อเหตุได้
ในส่วนของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ความตั้งใจจริงยังคงอยากให้มีไว้ เราก็ได้มีการพูดคุยกันระหว่างทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และพี่น้องประชาชนในพื้นที่ พยายามที่จะทำให้เต็มที่โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก และมีแผนรองรับกรณีหากมีการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตอนนี้เรามีการประชุมประเมินสถานการณ์และแบ่งพื้นที่แสดงถึงความจำเป็นว่าควรมีหรือยกเลิกในพื้นที่ไหนได้บ้าง โดยการแยกพื้นที่ออกเป็นโซนสีเขียว โซนสีเหลือง และโซนสีแดง ซึ่งจริงๆ แล้วในโรดแมปของเราได้มีการวางแผนในการลด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อยู่แล้ว ทั้งนี้ทั้งนั้นโดยการประเมินจากตัวชี้วัดที่เป็นที่น่าพอใจว่าเหตุการณ์ความรุนแรงลดลงจนแทบไม่มีเลย
...
"สิ่งที่คาดหวังที่สุดในการปฏิบัติหน้าที่คือ ความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตลอดจนความเป็นอยู่อย่างมีความสุข ปราศจากการก่อเหตุ สิ่งสำคัญคือประชาชนที่โยกย้ายถิ่นฐานออกไปในอดีตกลับเข้ามาใช้ชีวิตที่ปกติสุขในดินแดนบ้านเกิดของตน" มทภ.4 กล่าว