เรื่องราวสุดประทับใจชวนให้น้ำตาคลอเบ้า น้องเณรวัย 10 ปี พร่ำบ่นให้เจ้าอาวาสฟัง "อยากเจอหน้าแม่" หลังเกิดมาอายุได้ 1 ปี ย่าเป็นคนเลี้ยง ไม่เคยเห็นหน้าแม่และจำหน้าไม่ได้ ผู้นำในพื้นที่ประสานยุติธรรมจังหวัด ช่วยสานฝันใช้เวลาร่วมเดือน จนแม่ลูกได้พบกัน

บ่ายโมงวันที่ 1 ก.ย. 2566 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดหนองดี หมู่ 1 ต.ทุ่งสง อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช พบกับพระปลัดยศกฤต ยโสธโร เจ้าอาวาสวัดหนองดี เจ้าคณะตำบลทุ่งสง นายสิทธิโชค เหล่าหิรัญชัย ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.ทุ่งสง อ.นาบอน ประธานศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน ประจำสถานีตำรวจภูธรนาบอน และสามเณรกิตตินันท์ กองผล อายุ 10 ปี เพื่อร่วมเดินทางไปกับรถตู้ของทางวัด พาสามเณรกิตตินันท์ ไปพบกับ น.ส.กำไลทิพย์ กองผล อายุ 26 ปี แม่ของสามเณรกิตตินันท์ ในพื้นที่ อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช หลังจากแม่ลูกขาดการติดต่อไม่ได้พบเจอหน้ากันมานานร่วม 10 ปี 

สืบเนื่องจากเมื่อต้นเดือนเมษายน 2566 ที่ผ่านมา นางเบญจวรรณ ตรีภักดิ์ อายุ 46 ปี ชาว อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช ผู้เป็นย่าซึ่งขณะนี้ป่วยเป็นมะเร็งระยะที่ 4 นำ ด.ช.กิตตินันท์ กองผล อายุ 10 ปี หลานชายไปบวชสามเณรภาคฤดูร้อนกับพระปลัดยศกฤต ยโสธโร เจ้าอาวาสวัดหนองดี เจ้าคณะตำบลทุ่งสง นางเบญจวรรณคิดว่าตัวเองคงอยู่ได้ไม่นานก็ต้องล้มหายตายจาก เกรงว่า ด.ช.กิตินันท์จะไม่มีคนดูแลจึงอยากจะให้บวชเรียนอยู่ที่วัดแห่งนี้ หลัง ด.ช.กิตตินันท์ บวชเป็นสามเณรเรียนหนังสืออยู่กับพระปลัดยศกฤตเจ้าอาวาสมาได้ระยะหนึ่ง จนกลางเดือนกรกฎาคม พระปลัดยศกฤตสังเกตสีหน้าอาการของสามเณรดูเหม่อลอยเซื่องซึมจึงได้พูดคุยสอบถามสามเณรว่าเป็นอย่างไร สามเณรก็ได้ตอบว่า "ผมคิดถึงแม่ อยากเจอหน้าแม่" พอเช้าวันรุ่งขึ้น พระปลัดยศกฤต เจ้าอาวาสโทรศัพท์ประสานมาทางนายสิทธิโชค เหล่าหิรัญชัย ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ประธานศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน ประจำ สภ.นาบอน เข้ามาปรึกษาหารือที่วัด เพื่อช่วยตามหาแม่ของสามเณรกิตตินันท์ นายสิทธิโชครับปากให้การช่วยเหลือ พยายามค้นหาข้อมูลชื่อที่อยู่แม่สามเณรตามทะเบียนราษฎร์ว่าพักอาศัยอยู่ที่ใด และได้ไปสอบถามนางเบญจวรรณ ย่าของสามเณร แต่ก็ไม่ได้ข้อมูลอะไร  

...

ต่อมาในวันที่ 4 ส.ค. 2566 นายสิทธิโชคได้ประสานมาทาง น.ส.จันทร์จิรา สรงชล ยุติธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช ขอความช่วยเหลือในการตามหาแม่ของสามเณรกิตตินนท์ หลังจากแม่ลูกขาดการติดต่อไม่ได้พบเจอหน้ากันมานานร่วม 10 ปี ตั้งแต่สามเณรอายุได้เพียง 1 ขวบ 

น.ส.จันทร์จิรา ยุติธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช ทราบเรื่อง ได้สืบค้นข้อมูลอยู่ร่วมเดือนจนพบว่า น.ส.กำไลทิพย์ กองผล แม่ของสามเณรมีชื่ออยู่ในทะเบียนราษฎร์ในพื้นที่ อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช จึงได้ประสานมาทางนายเสริม ธุระวงศ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 11 ต.ท้ายสำเภา อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช กำนันในพื้นที่ให้ช่วยตามหาจนไปพบ น.ส.กำไลทิพย์ แม่ของสามเณรทำงานเป็นพนักงานอยู่ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งใน อ.พระพรหม นายเสริม ผู้ใหญ่บ้านจึงติดต่อกลับมาทาง น.ส.จันทร์จิรา สรงชล ยุติธรรมจังหวัด นัดวันที่จะพาสามเณรกิตตินันท์ไปพบกับ น.ส.กำไลทิพย์ ผู้เป็นแม่ 

กระทั่งตอนบ่ายสามโมงเย็นวันที่ 1 ก.ย. พระปลัดยศกฤต ยโสธโร เจ้าอาวาสวัดหนองดี เจ้าคณะตำบลทุ่งสง นายสิทธิโชค เหล่าหิรัญชัย ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.ทุ่งสง อ.นาบอน ประธานศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน ประจำสถานีตำรวจภูธรนาบอน พร้อมกับ น.ส.จันทร์จิรา สรงชล ยุติธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช และคณะ นำสามเณรกิตตินันท์ กองผล เดินทางมาพบกับ น.ส.กำไลทิพย์ ที่ร้านอาหารที่ น.ส.กำไลทิพย์ แม่ของสามเณรทำงาน

ครั้งแรกที่สองแม่ลูกได้พบเจอหน้ากัน ต่างฝ่ายต่างจำหน้ากันไม่ได้ โดยเฉพาะคนเป็นแม่ ทาง น.ส.จันทร์จิรา ยุติธรรมจังหวัดต้องนั่งอธิบายถึงความเป็นมาในการมาตามหาให้คนเป็นแม่ของสามเณรฟัง หลังแม่ลูกได้เจอหน้าและได้ฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทำให้ทั้งคู่ถึงกับสะอื้นร่ำไห้ คนเป็นแม่จึงโผเข้ากอดสามเณร โดยมีพระปลัดยศกฤต เจ้าอาวาสที่นั่งร่วมวงสนทนาต้องหยิบกระดาษเช็ดหน้ายื่นให้สามเณรเช็ดน้ำตา ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ที่ช่วยกันตามหา จนสานฝันให้แม่ลูกที่จากกันนาน 10 ปีได้พบเจอกันอีกครั้ง เป็นภาพที่เห็นแล้วประทับใจทำเอาทุกคนที่ไปน้ำตาคลอเบ้าไปตามกัน 

จากนั้นได้ให้เวลาความเป็นส่วนตัวสองแม่ลูกได้อยู่พูดคุยกันตามลำพังนานร่วม 2 ชั่วโมง กระทั่งเวลาสี่โมงเย็น เจ้าหน้าที่ต้องเดินทางกลับ น.ส.กำไลทิพย์ แม่สามเณร และเจ้าของร้านที่ น.ส.กำไลทิพย์ทำงานอยู่ได้เดินมาส่งทุกคนขึ้นรถกลับ และได้นำเงินจำนวน 500 บาท เพื่อฝากไว้ให้สามเณรได้ใช้จ่าย ขณะที่สามเณรนั่งอยู่บนรถตู้เพื่อเดินทางกลับวัด ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยสอบถามสามเณรว่ามีความรู้สึกอย่างไรบ้างที่ได้มาเจอแม่ในวันนี้ สามเณรบอกเพียงสั้นๆ ว่า "ดีใจมาก กลับวัดคงจะนอนหลับคิดถึงแม่"