สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดกระบี่ เป็นทุเรียนที่มีคุณภาพ มีศักยภาพ การผลิตในพื้นที่ ซึ่งทุเรียนทะเลหอย คือทุเรียนพันธุ์หมอนทองและพันธุ์ชะนี

ทุเรียนทะเลหอยปลูกในพื้นที่ ต.ปลายพระยาและ ต.เขาเขน ต.ปลายพระยา จ.กระบี่ นับเป็นสินค้าเกษตรที่มีเอกลักษณ์แตกต่างจากทุเรียนในพื้นที่อื่น เนื่องจากปลูกในดินที่มีเปลือกหอยปะปนอยู่ มีแร่ธาตุที่เหมาะกับการปลูกทุเรียน

ส่งผลให้ทุเรียนพันธุ์หมอนทองและพันธุ์ชะนีของที่นี่มีรสชาติหวาน มัน กรอบ เนื้อหนา ละเอียดเนียน กลิ่นหอมอ่อน ที่เป็นเอกลักษณ์ของทุเรียนทะเลหอย จนได้รับการขึ้นทะเบียน GI จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ไปเมื่อ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา

จากการติดตามการผลิตทุเรียนทะเลหอยของ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 8 สุราษฎร์ธานี (สศท.8) พบว่า กลุ่มแปลงใหญ่ทุเรียน ต.ปลายพระยา นับเป็นหนึ่งกลุ่มตัวอย่างที่ผลิตทุเรียนทะเลหอยจนประสบความสำเร็จและมีศักยภาพการผลิต ปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกรวม 1,200 ไร่ เป็นพื้นที่ที่ให้ผลผลิตแล้ว 850 ไร่ มีสมาชิกเกษตรกร 53 ราย โดยในปี 2565 มีต้นทุนการผลิตของกลุ่มเฉลี่ยไร่ 18,000 บาทต่อปี

การเก็บเกี่ยวจะทำเมื่อทุเรียนมีอายุประมาณ 115-120 วัน (หลังจากดอกทุเรียนบาน) ให้ผลผลิตเฉลี่ยไร่ละ 667 กก.ต่อปี (1 ลูกหนัก 3 กก.) ผลตอบแทนเฉลี่ยไร่ละ 73,370 บาทต่อปี ได้กำไรเฉลี่ยไร่ละ 55,370 บาทต่อปี หากคิดทั้งกลุ่มจะได้กำไรเฉลี่ยปีละ 47,064,500 บาท

ขณะนี้ผลผลิตทุเรียนทะเลหอยอยู่ในช่วงให้ผลอ่อนซึ่งผลผลิตจะออกสู่ตลาดช่วงเดือนมิถุนายนต่อเนื่องถึงเดือนตุลาคม 2566 โดยผลผลิตจะออกตลาดมากที่สุดช่วงเดือนกรกฎาคม 2566 คิดเป็นร้อยละ 50 ของผลผลิตทั้งหมด

ด้านราคาขายทุเรียนทะเลหอยในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาด (ราคา ณ เดือนกรกฎาคม 2565) ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ กก.ละ 110 บาท ผลผลิตส่วนใหญ่ร้อยละ 95 เกษตรกรจำหน่ายให้กับพ่อค้าที่มารับซื้ออีกร้อยละ 5 เกษตรกรขายผ่านกลุ่มซึ่งกลุ่มจะนำไปจำหน่ายช่องทางออนไลน์ผ่าน Facebook : ทุเรียนทะเลหอย วิสาหกิจชุมชนกลุ่มไม้ผลบ้านทะเลหอย, Facebook ส่วนตัวของเกษตรกร และ line จำหน่ายในราคาเฉลี่ยอยู่ที่ กก.ละ 160-180 บาท/กิโลกรัม เป็นราคาที่สูงกว่าเกษตรกรขายผ่านพ่อค้า...ทั้งนี้ในระยะต่อไปทางกลุ่มมีแนวทางการขยายตลาดสู่ห้างสรรพสินค้า.

...

สะ–เล–เต