นายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 นายอำพล พงศ์สุวรรณ รอง ผวจ.สงขลา และ นายไพเจน มากสุวรรณ์ นายก อบจ.สงขลา รวมนำเยาวชน “ประกาศเอกราชสิ่งแวดล้อมสงขลา” ที่หาดปากบางภูมี อ.รัตภูมิ จ.สงขลา.
ปัญหาสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติถือเป็นเรื่องใกล้ตัวของทุกคน หากปล่อยไว้จะเกิดความเสียหายด้านต่างๆตามมาอีกมากมาย
หนึ่งในแนวทางแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน คือการปลูกฝังสร้างจิตสำนึก ให้เด็กและเยาวชนเกิดความตื่นตัวรู้รักษ์ปกป้องทรัพยากรของตัวเอง
สำหรับ จ.สงขลา เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา คณะกรรมการแก้ไขปัญหาคุณภาพสิ่งแวดล้อม จ.สงขลา ได้นำเยาวชนในพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรม “ประกาศเอกราชสิ่งแวดล้อมสงขลา” ณ หาดปากบางภูมี ต.รัตภูมิ อ.ควนเนียง จ.สงขลา
...
กิจกรรมดังกล่าวนับเป็นครั้งที่ 2 หลังจากครั้งแรกเพิ่งจัดไปในวันสิ่งแวดล้อมโลก วันที่ 5 มิ.ย.2565 โดยมี พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 นายอำพล พงศ์สุวรรณ รอง ผวจ.สงขลา นายไพเจน มากสุวรรณ์ นายก อบจ.สงขลา มาร่วมด้วย
นายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.เขต 5 สงขลา รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ น.ส.สุภาพร กำเนิดผล ส.ส.เขต 6 สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ นำองค์กรภาครัฐ เอกชน ประชาชน และเยาวชน กว่า 300 คน ร่วมกันกล่าวคำปฏิญญาปกป้อง คลองภูมี–คลองอู่ตะเภา
มีการอบรมปลุกสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อมให้กับเยาวชนร่วมกันอนุรักษ์และฟื้นฟูคลองภูมีและอู่ตะเภา พร้อมจัดตั้ง “คณะกรรมการเครือข่ายเยาวชนปกป้องคลองภูมี” เพื่อให้เกิดการดำเนินการต่อไปในอนาคต
รวมถึงมีการเสวนาจากตัวแทนหน่วยงานต่างๆ และร่วมทำ MOU เพื่อร่วมกันปกป้องคลองภูมี รวมถึงปล่อยพันธุ์ปลาและกุ้งจำนวน 1.5 ล้านตัว
ส่วน นายไพเจน มากสุวรรณ์ นายก อบจ.สงขลา เปิดเผยว่า อบจ.มีนโยบายและเป้าหมายชัดเจนในการฟื้นฟูและคืนสภาพสิ่งแวดล้อมที่ดีให้แก่พี่น้องชาวสงขลา การดึงกลุ่มเยาวชนเข้ามาร่วมอนุรักษ์ถือเป็นพลังสำคัญยิ่งในอนาคตที่จะช่วยกันปกป้องดูแลสายน้ำแห่งนี้ที่พวกเขาทุกคนเป็นเจ้าของ
ด้าน นายเดชอิศม์ กรรมการฯ และผู้ริเริ่มในการแก้ปัญหาคลองภูมี- คลองอู่ตะเภา กล่าวว่า การแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมคลองภูมีดำเนินการมาได้ระดับหนึ่ง โดยปีที่ผ่านมามีการจัดการกับธุรกิจบ่อดูดทรายเถื่อนซึ่งเป็นต้นเหตุของปัญหา
...
“วันนี้เราแก้ปัญหาได้เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว ส่วนที่ยังตกหล่นบ้างก็ต้องดำเนินการกันต่อไป ตอนนี้ประชาชนในพื้นที่ต่างตื่นตัวและภาคภูมิใจ ที่สามารถยึดคลองภูมีจากบ่อดูดทราย และโรงงานอุตสาหกรรม มาเป็นของส่วนรวมได้อย่างแท้จริง” นายเดชอิศม์ กล่าวและย้ำอีกว่า
สิ่งที่ต้องดำเนินการอย่างแรกนับจากนี้คือการฟื้นฟู เพราะที่ผ่านมาคลองภูมีได้รับความเสียหายจากบ่อดูดทรายค่อนข้างมาก สภาพคลองเว้าแหว่ง ตลิ่งพังเสียหายหลายจุด
ตอนนี้อยู่ระหว่างประสานกรมชลประทานมาช่วยสร้างแก้มลิงเพื่อกักเก็บน้ำ เนื่องจากน้ำเป็นสิ่งสำคัญ คลองภูมีสามารถเก็บน้ำไว้ได้หลายล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อใช้บริโภค ทำประปา และภาคการเกษตร
...
อย่างที่สอง เมื่อน้ำในคลองภูมีสะอาดแล้วก็ต้องทำให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำต่างๆ ด้วยการปล่อยสัตว์น้ำอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เพื่อคืนความอุดมสมบูรณ์ให้กับระบบนิเวศ
ส่วนอย่างที่สาม คือการพัฒนาคลองภูมีให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัด มีกิจกรรมทางด้านการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เช่น การล่องแก่ง เรือ และตลาดริมคลอง
ทั้งหมดคือเป้าหมายในการขับเคลื่อนของ คณะกรรมการแก้ไขปัญหาคุณภาพสิ่งแวดล้อม จ.สงขลา
เพื่อทำให้แม่น้ำลำคลองแห่งนี้กลับมาใสสะอาดเป็นมรดกของลูกหลานสืบไป.
สุวิทย์ แก้วห่อทอง รายงาน