จนท.สนธิกำลังบุกตรวจสอบโรงฆ่าสัตว์กลางชุมชน หลังถูกชาวบ้านร้องเรียนโวยเสียง-กลิ่น-ปล่อยน้ำเสียลงสู่ลำห้วยสาธารณะ ตรวจสอบไม่มีใบอนุญาต เจ้าของอ้างอยู่ระหว่างการขอ ยึดวัวเป็น-วัวตาย-เนื้อวัวแช่แข็งอื้อ พบเคยถูกจับมาแล้วเมื่อปี 56 อยู่ระหว่างรอลงอาญา

เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 4 พ.ค.65 นายปรีชา สมบัตินา นายกเทศมนตรีตำบลบางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร พร้อมด้วย นายชุมพล องอาจ รองนายกเทศมนตรีตำบลบางลึก ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่า มีนายทุนนำวัวและกระบือจำนวนหลายตัว เข้ามาทำการฆ่าชำแหละเป็นประจำเพื่อส่งเนื้อไปขายให้กับผู้ประกอบการ ที่บริเวณโรงเรือนบ้านเลขที่ 116/2 หมู่ 2 ต.บางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน เนื่องจากส่งเสียงร้องสร้างความรำคาญ อีกทั้งยังส่งกลิ่นเหม็น และมีการปล่อยน้ำเสียทิ้งลงสู่ลำห้วยสาธารณะ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อม นายทวีป ไทยสวี ปลัดอำเภอเมืองชุมพร ร.ต.ท.ภิญโญ พรหมเรือง รอง สวป.สภ.เมืองชุมพร นายวิทยา พลวัชรินทร์ สท.บางลึก นายกฤชกร ธนอภิรัตน์ นิติกร เทศบาลตำบลบางลึก และกำนัน-ผู้ใหญ่ตำบลบางลึก

ที่เกิดเหตุเป็นโรงเรือนขนาดใหญ่ มีรั้วรอบขอบชิดอยู่ติดกับถนนทางหลวงสาย 360 เป็นถนนตัดใหม่เส้นทางลัดระหว่าง อ.ท่าแซะ กับตัวเมืองชุมพร ส่วนด้านข้างโรงเรือนเป็นชุมชนชาวบ้าน ด้านหน้าประตูเปิดอ้าอยู่ จากการเข้าไปตรวจสอบภายใน พบคนงานทั้งคนไทยและชาวเมียนมา 5-6 คน พบวัวพันธุ์เนื้อจำนวน 2 ตัว โดยตัวหนึ่งถูกมัดขาทั้ง 2 ข้างอย่างแน่นหนา แขวนไว้บนคานลักษณะหงายท้องขาชี้ฟ้า ที่ลำคอมีบาดแผลถูกเชือดขนาดใหญ่เตรียมรอการชำแหละ ส่วนอีกตัวคนงานกำลังรอแทงคอเพื่อฆ่าเตรียมชำแหละ นอกจากนี้ที่ด้านข้างโรงเรือน ยังพบวัวเนื้อยังมีชีวิตรอการเชือดชำแหละ อีกจำนวน 10 ตัว ถูกขังอยู่ในคอก

...

จากการตรวจสอบด้านหน้าโรงเรือน มีการทำเป็นห้องเย็นขนาดเท่าตูคอนเทนเนอร์ เมื่อเปิดดูภายในพบเนื้อวัวแช่แข็งจำนวนมาก นอกจากนี้ยังพบเศษเนื้อ เลือดสดๆ และคราบเลือดเก่าๆอยู่ในรางน้ำทิ้งที่ระบายลงสู่ลำห้วยสาธารณะด้านหน้าโรงเรือน ส่งกลิ่นเหม็นโชยไปทั่วบริเวณ จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดตรวจสอบ จึงประสานไปยัง นายนรินทร์ สหสันติเวช ปศุสัตว์อำเภอเมืองชุมพร นายโสภณ นาคกล่อม หัวหน้ากลุ่มคุณภาพสินค้า สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดชุมพร ร่วมตรวจสอบของกลางทั้งหมด โดยมี นายปริญญา ประทาน อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/1 หมู่ 8 ต.นาเตย อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา รับเป็นเจ้าของ เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจสอบเอกสารการสร้างโรงเรือนฆ่าสัตว์ แต่ไม่มีมาแสดงโดยอ้างว่าอยู่ระหว่างดำเนินการขออนุญาต

จากนั้น เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดเนื้อวัวของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร ดำเนินคดีในข้อหาความผิด "ตาม พ.ร.บ.ควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อการจำหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ.2559 มาตรา 15 โดยทำการประกอบกิจการฆ่าสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องโทษตามมาตรา 56 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 31 โดยทำการฆ่าสัตว์โดยมิได้แจ้งจำนวนสัตว์ที่จะฆ่า แหล่งที่มาของสัตว์ที่จะฆ่า วัน เวลาที่จะฆ่า และชื่อของโรงฆ่าสัตว์ ต้องโทษตามมาตรา 60 ระวางโทษปรับเรียงตามรายตัวของสัตว์โคกระบือ ตัวละไม่เกิน 5 หมื่นบาท"

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับโรงฆ่าสัตว์แห่งนี้ เมื่อวันที่ 24 ก.ค.2556 เคยถูกเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลบางลึก และฝ่ายปกครองอำเภอเมืองชุมพร สนธิกำลังเข้าจับกุมและตรวจยึดของกลางเนื้อวัวมาแล้วก่อนหน้านี้ โดยครั้งนั้นถูกศาลพิพากษาโทษปรับและโทษจำคุกให้รอลงอาญา จนมาถูกจับกุมในครั้งนี้อีก