การเลี้ยงกระต่ายเนื้อ แม้ยังไม่เป็นที่คุ้นเคยและแพร่หลายนัก แต่ความต้องการบริโภคเนื้อกระต่ายกลับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะร้านอาหาร ภัตตาคาร โรงแรม รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ

นายอับดุลรอหมาน หลังปูเต๊ะ อายุ 35 ปี เจ้าของฟาร์มกระต่ายเนื้อ หมู่ 1 ต.ฉลุง อ.เมืองสตูล เปิดเผยว่า สมัยก่อนเรียนอยู่ประเทศอินโดนีเซีย เขานิยมกินกระต่ายเพราะเนื้อเป็นยา มีประโยชน์ อยากทดลองทำเลยเริ่มเอากระต่ายสายพันธุ์เนื้อเพื่อบริโภคมาเลี้ยง เป็นพันธุ์นิวซีแลนด์ไวท์ แคลิฟอร์เนีย นำเข้ามาจากประเทศมาเลเซีย

กระต่ายให้ผลผลิตคุ้มค่าสำหรับการเลี้ยงเชิงพาณิชย์ ข้อดีของการเลี้ยงคือใช้พื้นที่น้อย การจัดการง่าย เลี้ยงไว้ในกรงที่ทำด้วยโครงเหล็กล้อมด้วยตะแกรงลวด อาหารที่ใช้เป็นหญ้าเนเปียร์ และอาหารข้น

กระต่ายจะมีลูกดก ท้องปีละ 6-8 คอก จะให้ลูกคอกละ 4-14 ตัว สำหรับการเลี้ยงใช้เวลาเพียง 4 เดือน จะสามารถขายได้ กิโลกรัมละ 350 บาท เพราะเนื้อกระต่ายจะมีความนุ่มละมุน ฉ่ำ ไม่เหนียว บางคนอาจเลี้ยงให้ได้ตัวละ 4-5 กิโลกรัม ปัจจุบันไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด

ขณะนี้มีกระต่ายในฟาร์มประมาณ 100 ตัว มีความน่าสนใจตรงที่ลงทุนต่ำ ทำให้ใช้เวลาคืนทุนไม่นาน สร้างกำไรจากการเลี้ยงได้ง่ายและรวดเร็ว นอกจากเนื้อกระต่ายแล้ว หนัง ขน หาง ยังนำมาทำผลิตภัณฑ์จำหน่ายสร้างรายได้อีกทางหนึ่ง

เนื้อกระต่ายถือเป็นอาหารสำหรับคนรักสุขภาพ มีคุณค่าทางอาหารสูง ไขมันและคอเลสเทอรอลต่ำ กระต่ายเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมีของเสียน้อยกว่าสัตว์ชนิดอื่น อนาคตเนื้อกระต่ายอาจกลายเป็นทางเลือกใหม่ด้านอาหาร

ส่งผลให้เนื้อกระต่ายมีราคาดี เป็นที่ต้องการของตลาดประกอบกับการเลี้ยงการจัดการไม่ยุ่งยาก จึงนับว่ากระต่ายเนื้อกลายเป็นสัตว์เศรษฐกิจตัวใหม่ที่น่าสนใจในเวลานี้

...

หากใครสนใจต้องการมาดูงาน หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 09-7242-8443.

คอดีเย๊าะ เงินเจริญ /รายงาน