ททท.ภูเก็ต เผย 8 เดือนนับตั้งแต่แซนด์บ็อกซ์ สร้างรายได้ด้านการท่องเที่ยวเข้าจังหวัดแล้วกว่า 18,000 ล้านบาท จากนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 3 แสนราย โดยจ่ายต่อทริปเฉลี่ยอยู่ที่คนละ 5.5 หมื่นบาท 

เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 65 ที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต น.ส.นันทาศิริ รณศิริ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภูเก็ต เปิดเผยถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวของ จ.ภูเก็ต ภายในโครงการผู้ว่าฯ พบสื่อว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวที่ จ.ภูเก็ต อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เปิดโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 64 เป็นต้นมา จนถึงขณะนี้ตัวเลขเมื่อวันที่ 21 ก.พ. 65 นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามายัง จ.ภูเก็ต 3,450 คน จำนวน 24 เที่ยวบิน จาก 18 สายการบิน แม้ช่วงเดือน ก.พ.นี้จะผ่านพ้นช่วงพีกมาแล้ว แต่นักท่องเที่ยวต่างชาติยังเดินทางมาท่องเที่ยวใน จ.ภูเก็ต อย่างต่อเนื่อง

...

ผอ.ททท.สำนักงานภูเก็ต กล่าวต่อว่า ทำให้สรุปตัวเลขภาพรวมจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาในพื้นที่เดือน ก.พ. 2565 นี้กว่า 61,000 คนแล้ว และยอดรวมตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 64 เป็นต้นมาจนถึงวันที่ 21 ก.พ. 65 อยู่ที่กว่า 327,000 คนแล้ว สร้างรายได้ให้ภูเก็ตในทางตรงแล้วกว่า 18,000 ล้านบาท และทำให้มีเงินหมุนเวียนในภาคการท่องเที่ยวของภูเก็ตกว่า 43,000 ล้านบาท โดยคิดจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาทั้งหมดคูณด้วยรายจ่ายต่อทริปต่อคนที่ 55,000 บาท และขณะนี้ในภูเก็ตมีโรงแรมที่เปิดให้บริการแล้วกว่า 70,000 ห้อง อัตราเข้าพักเฉลี่ย ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 35-50% ขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้งของแต่ละโรงแรม

น.ส.นันทาศิริ กล่าวด้วยว่า เพื่อเป็นการส่งเสริมตลาดท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้ามาภูเก็ตเพิ่มขึ้น ทาง ททท.ได้กำหนดจัดงาน Thailand Travel Mart + 2022 Phuket ขึ้นที่ จ.ภูเก็ต ระหว่างวันที่ 8-10 มิ.ย. 2565 นี้ โดยการเชิญผู้ประกอบการนำเที่ยวในต่างประเทศทั่วโลก 50 ประเทศ จำนวน 250 คน รวมถึงสื่อและบล็อกเกอร์ในต่างประเทศเดินทางเข้ามาพบปะเจรจาการซื้อขายสินค้าทางการท่องเที่ยวกับผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวของไทยจากทั่วประเทศ และสัมผัสแหล่งท่องเที่ยวของภูเก็ตและไทย เพื่อเป็นการส่งเสริมและกระตุ้นให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาภูเก็ตและประเทศไทยมากขึ้น ส่วนตลาดในประเทศนั้นถือเป็นอีกตลาดที่สำคัญของภูเก็ต ที่ผ่านมา ททท.ได้ร่วมกับสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว และผู้ประกอบการออกไปโรดโชว์ส่งเสริมการขายตามพื้นที่ต่างๆ ภายใต้โครงการ “ภูเก็ตเด็ดทั้งเกาะ” ซึ่งหลังจากนี้มีแผนที่จะเดินทางไปอีกหลายจังหวัดทั้งกรุงเทพฯ ภาคใต้ ภาคอีสาน เพื่อกระตุ้นตลาดคนไทย.