น้ำป่าท่วมถนนเอเชียที่ อ.ไชยา ปภ. ฝ่ายปกครอง ทหาร ส่งกำลังเร่งกู้ 7 ชั่วโมง ทำให้สามารถเปิดเส้นทางได้แล้ว จังหวัดต้องประกาศเขตภัยพิบัติ 13 อำเภอ ผู้ว่าฯสั่งเร่งระบายน้ำลงทะเลเป็นการด่วน

กรณี ฝนตกหนัก เกิดน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ตั้งแต่ 23 พ.ย. ล่าสุดอิทธิพลของมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้กำลังแรง ส่งผลให้พื้นที่ปริมาณน้ำฝน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มากที่สุดที่ ต.ปากฉลุย อ.ท่าฉาง วัดได้ 169 มิลลิเมตร ต.คลองพา อ.ท่าชนะ วัดได้ 92 มิลลิเมตร

ล่าสุด เมื่อเวลา 03.30 น.วันที่ 3 ธ.ค.64 หลังเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ อ.ไชยา และ อ.ท่าฉาง เป็นเหตุทำให้น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากท่วมถนนทางหลวงหมายเลข 41 (เอเชีย41) ซึ่งเป็นเส้นทางหลักสู่ภาคใต้ ช่วงระหว่างกิโลเมตรที่ 131+700 ถึง 132+700 ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร มีระดับน้ำสูงประมาณ 50-70 เซนติเมตร ผ่านได้แต่รถบรรทุกใหญ่ ส่วนรถเล็กไม่สามารถใช้สัญจรได้ทั้งขาขึ้นและขาล่อง นายเจริญศักดิ์ วงศ์สุวรรณ นายอำเภอไชยา นำกำลัง อ.ส.ตำรวจ สภ.ไชยา เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาล และกู้ภัยไชยา ตั้งจุดบอกเส้นทางเร่งระบายรถยนต์ที่ติดเป็นแถวยาวและเร่งชาวบ้านขนย้ายสิ่งของเร่งด่วน โดยมีชาวบ้านไชยากลุ่มหนึ่งทำอาหารกล่องข้าวไข่เจียวและน้ำดื่ม ไปตระเวนแจกฟรีแก่คนขับรถที่ติดค้างอยู่บนถนน

จากนั้นเวลา 09.50 น. นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่ อ.ไชยา เรียกประชุมด่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง ศูนย์ ปภ.เขต 11 ปภ.จังหวัด ทหาร มทบ.45 ทหาร นพค.46 กองบิน 7 ฝ่ายปกครอง เทศบาลในพื้นที่และกู้ภัย วางแนวทางการช่วยเหลือเร่งด่วน

นายวิชวุทย์ กล่าวว่า ได้ให้เร่งกู้เปิดเส้นทางการจราจร พร้อมกำหนดเส้นทางการขนย้ายผู้ป่วย, ให้จัดทำอาหารช่วยชาวบ้านในพื้นที่ 5 ตำบลใน อ.ไชยา มี ต.พุมเรียง ต.ทุ่ง ต.ตลาดไชยา ต.เลม็ด ต.เวียง และตั้งศูนย์การสื่อสาร ล่าสุดทางจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ประกาศเขตภัยพิบัติแล้ว 13 อำเภอ โดยพื้นที่ อ.ไชยา หนักสุดแม้ว่าขณะนี้ฝนหยุดตกแล้ว แต่ให้ทุกหน่วยงานเร่งสูบน้ำ และผลักดันน้ำให้ระบายออกสู่ทะเลโดยเร็วที่สุด

...

ต่อมา เวลา 10.45 น.หลังจากมีการเร่งระดมสูบและผลักดันน้ำลงทะเลร่วม 7 ชั่วโมงส่งผลให้ระดับน้ำท่วมถนนทางหลวง 41 ขึ้นและลงภาคใต้รถยนต์ทุกชนิดสามารถผ่านได้แล้ว นายวิชวุทย์ พร้อมนายเจริญศักดิ์ วงศ์สุวรรณ นอภ.ไชยา นายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา ผอ.ศูนย์ ปภ.เขต 11 นายจำนง สวัสดิ์วงศ์ ปภ.จังหวัด ลงดูการสูบระบายน้ำท่วมบริเวณวัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร ต.เวียง ซึ่งเป็นโบราณสถานสำคัญเริ่มลดลง แต่ระดับน้ำท่วมในพื้นที่เขตเทศบาล ต.ตลาดไชยา ยังสูงกว่า 30 เซนติเมตร เนื่องจากน้ำป่าจากตอนบนภูเขาลงมาผ่านก่อนสูบออกทะเล

ขณะที่ พ.อ.ตวงทิพย์ ติณเวส ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 46 ได้เข้าตรวจเยี่ยมนายเลื่อน ศักดิ์เพชร อายุ 82 ปี บ้านเลขที่ 75 หมู่ที่ 5 ต.เลม็ด อ.ไชยา และหลานที่เป็นผู้ป่วยติดเตียงพร้อมมอบข้าวสารอาหารแห้งให้เพื่อเป็นการช่วยเหลือเบื้องต้นเนื่องจากบริเวณบ้านล้อมรอบไปด้วยมวลน้ำทั้งหมด รถทุกชนิดไม่สามารถที่จะเข้ามาในพื้นที่ได้

เบื้องต้น อำเภอไชยามีประชาชนได้รับผลกระทบแล้วจำนวน 7 ตำบล 39 หมู่บ้าน 650 ครัวเรือน 2,350 คน และเร่งสำรวจความเสียหายเพิ่มเติม

ส่วนภาพร่วม ปภ. สรุปสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี สถานการณ์อุทกภัยที่เกิดจากอิทธิพลของมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ กำลังแรง ตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย.-3 ธ.ค. สรุปมีพื้นที่ประสบภัย จำนวน 13 อำเภอ 71 ตำบล 408 หมู่บ้าน 13,095 ครัวเรือน 41,267 คน เสียชีวิต 3 ราย (อ.ไชยา 2 ราย และ อ.ท่าฉาง 1ราย) โดยสถานการณ์คลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติ จำนวน 5 อำเภอ (อ.ดอนสัก อ.ท่าชนะ อ.ชัยบุรี อ.เกาะพะงัน และ อ.เกาะสมุย)