สสจ.ยะลา เผยยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 วันนี้ 215 ราย ยอดสะสมพุ่งขึ้น 3 ของประเทศ ประกาศพื้นที่เสี่ยง 2 หมู่บ้านใน อ.กาบัง และเบตง นายแพทย์ สสจ.บอกคนไข้ใหม่สวนทางกับคนหาย วอนอยู่บ้านลดเสี่ยง

เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยะลา ได้รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 วันนี้พบผู้ป่วยรายใหม่ 215 ราย นับเป็นสถิติสูงสุดกว่าทุกวัน และทำให้ยอดผู้ป่วยยืนยันรวมขึ้นติด 10 อันดับของประเทศ โดยอยู่เป็นลำดับที่ 3 รองจาก กทม.และสมุทรสาคร ทำยอดสูงสุดในภาคใต้ ทิ้ง จ.สงขลา และ จ.ปัตตานี ที่ติดอันดับ 8 และ 10 ในท็อปเทน พบมากที่สุดใน อ.เบตง 66 ราย อ.เมืองยะลา 55 ราย อ.บันนังสตา 44 ราย อ.กาบัง 21 ราย อ.ยะหา 13 ราย อ.กรงปินัง และ อ.ธารโต อำเภอละ 6 ราย และ อ.รามัน 4 ราย ทำให้ยอดสะสมพุ่งขึ้นเป็น 1,326 ราย รักษาใน รพ.815 ราย เสียชีวิตเพิ่มสะสมรวม 9 ราย

จากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้ นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ประธานศูนย์บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ออกคำสั่งที่ 124/2565 ฉบับที่ 21 กำหนดพื้นที่เสี่ยงเพิ่มเติม คือ บ้านเมาะยี หมู่ 10 ต.บาละ อ.กาบัง และชุมชนเบตงฮูลู ต.เบตง อ.เบตง และคำสั่งที่ 125/2564 งดการละหมาดวันศุกร์ที่มัสยิดและบาลาเซาะห์ ในพื้นที่ข้างต้น ทั้งนี้ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดได้ลุกลามออกไปอย่างน่าเป็นห่วง จะยกเลิกเมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดคลี่คลายลง จากการระบาดอย่างหนักในระลอกที่ 3 ที่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจำนวนมาก และอย่างต่อเนื่อง ได้กระจายออกไปในหลายพื้นที่เป็นวงกว้าง ส่งผลกระทบอย่างมากต่อประชาชนโดยเฉพาะในเขต อ.เมืองยะลา พบผู้ป่วยสูงสุดจากทุกอำเภอ ซึ่งมีจำนวนกว่า 400 ราย

...

ด้าน นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา กล่าวว่า จากสถานการณ์ที่น่ากังวล เทศบาลนครร่วมกับ ภาคเอกชน ประชาสังคม ร่วมจัดตั้งกองทุนวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 เพื่อชาวยะลา เป็น“กองทุนซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เพื่อชาวยะลา” ทุกฝ่าย เห็นพ้องกันว่า วัคซีน คือสิ่งจำเป็นที่จะสามารถหยุดยั้งการแพร่กระจายของโรคได้อย่างถูกวิธี และทำให้ทุกคนสามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติได้ จึงพร้อมใจระดมเงินมาร่วมกันจัดตั้ง กองทุนซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เพื่อชาวยะลา ดังนั้นภาคเอกชน ประชาชนชาวยะลาจึงร่วมกันบริจาคเงินจัดตั้งเป็นกองทุนฯ เพื่อซื้อวัคซีนและวัสดุทางการแพทย์ เสริมหน่วยงานภาครัฐต่อไป เชื่อว่าหากทุกฝ่ายร่วมมือกันทำให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ได้เร็วเท่าไร ก็จะช่วยเศรษฐกิจและรายได้ของประชาชนชาวยะลาเร็วขึ้นตามนั้น

ขณะที่ นพ.สงกรานต์ ไหมชุม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา กล่าวว่า สำหรับยะลาในวันนี้ทำสถิติสูงสุดติด 1 ใน 5 ของประเทศ ที่มีผู้ป่วยสูงสุด ซึ่งเป็นกลุ่มที่ออกไปสอบสวนโรค และมีความเสี่ยงสูง ส่วนใหญ่อยู่ในสถานที่กักตัวของแต่ละอำเภอ ภาพรวมผู้ป่วยสะสมแล้วประมาณ 1,300 คน มีเสียชีวิต 9 คน และมีรายงานเสียชีวิตเมื่อช่วงเช้าอีก 1 คน ที่จะรายงานไปยัง ศบค.วันพรุ่งนี้ (26 มิ.ย.) รวม 10 คน ซึ่งจะต้องขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนให้ช่วยกันปฏิบัติตามมาตรการด้วย ขณะนี้ ยังมีการรักษาอยู่ในโรงพยาบาลแล้วเกือบ 600 คน คนที่เข้ามาใหม่กับคนที่หายมันสวนทางกัน

นายแพทย์ สสจ.ยะลา กล่าวต่อว่า วันนี้ผู้ป่วยเข้ามาสองร้อยกว่า แต่รักษาหายสามสิบกว่าคน ก็จะทำให้มีปัญหาในเรื่องของการบริการ ซึ่งได้มีการปรับตัวในเรื่องของการบริการในโรงพยาบาล จะมีการปรับรูปแบบโรงพยาบาลที่รับผู้ป่วยสีเขียวก็จะมีโรงพยาบาลสนาม ซึ่งจะมีการเพิ่มอีก 2 อาคาร อาคารละ 140 เตียง ซึ่งขณะนี้มีจำนวนเตียงที่โรงพยาบาลสนาม พันกว่าเตียง ซึ่งในส่วนความพร้อมที่จะเพิ่มขึ้นอาทิตย์หน้าคงจะแล้วเสร็จ ซึ่งอาคารหลังที่ 3 ช้าที่สุดก็จะสามารถเปิดใช้ได้ในวันพรุ่งนี้

...

“ส่วนของกำลังคน ทางสาธารณสุขกำลังจะประกาศของความร่วมมือในส่วนที่อยู่นอกกระทรวงสาธารณสุขที่จะเป็นจิตอาสาที่จะมาร่วมดูแล ในช่วงวันหยุด กำลังจะประกาศขอความร่วมมือในเร็วๆ นี้ ที่จะมีงบประมาณสนับสนุนจากกระทรวงสาธารณสุข สำหรับการคาดการณ์สถานการณ์ในช่วงนี้ ยังเชื่อว่าจะมีตัวเลข 3 หลักไปอีก 2-3 วัน และในสัปดาห์หน้าก็จะลดลงเป็นตัวเลข 2 หลัก ซึ่งจะต้องเร่งเตรียมสถานที่และกำลังพล” นายแพทย์สงกรานต์ กล่าว

นายแพทย์ สสจ.ยะลา กล่าวด้วยว่า ถือว่าในช่วงนี้เป็นช่วงวิกฤติ จะต้องขอความร่วมมือให้พี่น้องประชาชนให้อยู่บ้าน ที่ผ่านมาพยายามต่อสู้กันมาตั้งแต่เดือน พ.ค. ซึ่งในช่วงแรกคาดว่าจะถึงจุดสูงสุดในช่วงต้นเดือนมิถุนายน แต่กลายเป็นว่าในช่วงนี้ตัวเลขไต่สูงขึ้นมาก และยังไม่เห็นว่าขึ้นถึงจุดสูงสุดหรือยัง.