พนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต เตรียมดำเนินคดีกับรุ่นพี่นักศึกษาราชภัฏ 4 ราย สั่งลงโทษ “น้องมิ้นท์” รุ่นน้องให้วิ่งจนช็อกตายอนาถ หลังสอบปากคำพยานผู้ที่เกี่ยวข้องไปแล้วกว่า 10 ปาก เตรียมหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา ขณะที่ญาติเรียกร้องให้รุ่นพี่และเพื่อนร่วมชั้นเรียน รวมทั้งผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ ออกมาให้ความจริง เพื่อจะได้ทราบสาเหตุที่แน่ชัด หากยังไม่มีความกระจ่าง ทางครอบครัวยังไม่ขอรับศพจากโรงพยาบาล

ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีสะเทือนใจผู้ปกครอง กรณี น.ส.พรพิพัฒน์ หรือมิ้นท์ เอียดดำ อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 เอกภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ถูกรุ่นพี่สั่งทำโทษให้วิ่ง 8 รอบ เพราะเดินทางมาร่วมซ้อมเชียร์ลีดเดอร์สายจนช็อกตาย ญาติติดใจสาเหตุการตายเข้าแจ้งความให้ตำรวจสอบสวนหาคนรับผิด ขณะที่ผู้บริหารมหาวิทยาลัยสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงนั้น

ความคืบหน้า สายวันที่ 22 ส.ค. พ.ต.ท.ชนะ สุทธิมาศ รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.เมืองภูเก็ต เร่งสอบปากคำพยานรุ่นพี่ที่อยู่ในเหตุการณ์หรือทราบเรื่องที่เกิดขึ้นไปแล้วเกือบทั้งหมด คดีอยู่ระหว่างการรวบรวมคำให้การต่างๆ เพื่อประกอบสำนวนคดี พร้อมรอผลการชันสูตรศพจากแพทย์ รพ.วชิระภูเก็ต เพื่อนำมาประกอบสำนวนถึงสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกครั้ง ขณะนี้ยังไม่ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ใด

...

ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวว่า ได้รับรายงานเพิ่มเติมจาก สภ.เมืองภูเก็ต ว่า พนักงานสอบสวนเร่งรวบรวมพยานหลักฐานต่อเนื่อง โดยได้สอบสวนปากคำพยานผู้ที่เกี่ยวข้องไปแล้วกว่า 10 ปาก ตอนนี้อยู่ระหว่างรอผลชันสูตรพลิกศพจากแพทย์ เบื้องต้นพบว่ามีผู้กระทำความผิด เป็นนักศึกษารุ่นพี่จำนวน 4 ราย ขั้นตอนต่อไปพนักงานสอบสวนจะมีหมายเรียกไปยังผู้กระทำความผิดมารับทราบข้อกล่าวหา หากการสอบสวนพบว่ามีผู้กระทำความผิดเพิ่มเติมจะมีการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย “คดีดังกล่าวในชั้นนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อหากับผู้หนึ่งผู้ใด พนักงานสอบสวนยังคงรอผลการตรวจพิสูจน์ที่เกี่ยวข้อง ยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เจ้าหน้าที่จะเร่งคลี่คลายข้อสงสัยให้สิ้นกระแสความในทุกประเด็นตามกรอบระยะเวลาของกฎหมาย โดยอาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และพยานที่เชื่อมโยงทางคดีเป็นสำคัญ”

ด้าน น.ส.วิลาวรรณ เอียดดำ ญาติลูกพี่ลูกน้องกับน้องมิ้นท์ กล่าวว่า ขอขอบคุณ ผวจ.ภูเก็ต ที่มาให้กำลังใจและมาให้คำปรึกษาแนะนำ รวมไปถึงหน่วย-งานต่างๆ ผู้ใหญ่บ้าน และเพื่อนที่มาให้กำลังใจ ทั้งในหน้าเพจและสื่อต่างๆ อย่างน้อยทำให้มีกำลังใจตรงส่วนนี้เป็นแรงให้ต่อสู้ “หลังน้องมิ้นท์เสียชีวิต ยังไม่มีเพื่อนคนไหนที่ติดต่อกลับมา และยังไม่มีคนให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเสียชีวิต รวมไปถึงในวันที่เกิดเหตุว่าการซ้อมลีดเดอร์เป็นอย่างไร แต่ก็มีเพื่อนบางกลุ่มและรุ่นพี่ที่ไปเยี่ยมน้องมิ้นท์ที่โรงพยาบาล จากที่ได้สอบถามเพื่อนและรุ่นพี่ให้คำตอบเหมือนกันหมดว่าน้องเป็นลมทั้งที่น้องมิ้นท์ เป็นคนที่สุขภาพแข็งแรง ต้องรอผลการชันสูตรจากแพทย์ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร ทางครอบครัวจึงยังไม่ขอรับศพน้องมิ้นท์จาก รพ.จนกว่าผลการชันสูตรจะออกมาก่อน”

น.ส.วิลาวรรณกล่าวอีกว่า น้องมิ้นท์ไม่ได้เป็นโรคหอบหรือโรคหัวใจ ไม่มีประวัติการเข้ารักษาที่โรงพยาบาล อยากจะฝากถึงรุ่นพี่ที่อยู่ในเหตุการณ์และเพื่อนร่วมชั้นเรียนออกมาให้ข้อมูลกับตำรวจ ตรงส่วนนี้ไม่มีการเปิดเผยชื่อหรือตัวตนแน่นอน เพราะต้องการข้อมูลที่แท้จริง และอยากจะทราบถึงสาเหตุเกิดจากอะไร เพราะบางกลุ่มบอกว่าน้องวิ่งที่ลานจอดรถ บางกลุ่มบอกว่าวิ่งข้างสระน้ำ บางกลุ่มบอกว่าวิ่งรอบสระน้ำ ทางครอบครัวพิจารณาไตร่ตรองว่ามีความเป็นไปได้กี่เปอร์เซ็นต์ และอันไหนเป็นเรื่องจริง จะพูดไปเลยไม่ได้ ต้องรอข้อมูลจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐานที่ชัดเจนถึงจะพูดได้ว่าน้องวิ่งตรงไหน ที่ออกมาแค่อยากรู้ความจริง และให้ความเป็นธรรมกับผู้ตาย ไม่ต้องการให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสียหายหรือเสื่อมเสียชื่อเสียง