บุกบ้าน2ส.ส. ปชป.-พปชร. หาเสียงคุยโว ตอนนี้แค่30

ม็อบสวนยางใต้เอาจริง นัดชุมนุมสี่แยกควนหนองหงส์ เมืองคอน เรียกร้องรัฐบาลและ รมว.เกษตรฯ แก้ไขปัญหายาง พาราตกต่ำพร้อมทวงสัญญาจากพรรคพลังประชารัฐและพรรคประชาธิปัตย์ หลังเคยวาดฝันนโยบายสวยหรูช่วงหาเสียงเลือกตั้ง หากเป็นรัฐบาลจะทำให้ราคายางสูงขึ้นทันทีถึง กก.ละ 60-65 บาท ก่อนขึ้นรถกระบะดาวกระจายไปตามบ้าน ส.ส.ของทั้ง 2 พรรค หวั่นอาจยืดเยื้อเป็น “ควนหนองหงส์ โมเดล ภาค 2” ด้านเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางเตรียมผลักดันออกกฎหมายใช้ยางพาราภายในประเทศ เพื่อเพิ่มมูลค่าราคายางอย่างยั่งยืน

ความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวสวนยาง หลังราคายางพาราตกต่ำอย่างหนัก แต่กลับไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมจากภาครัฐ กำลังก่อตัวเป็นอีกวิกฤติที่อาจมีผลสั่นคลอนเสถียรภาพของรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สี่แยกควนหนองหงส์ ริมถนนสายเอเชีย 41 ต.ควนหนองหงส์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 ม.ค. แกนนำชาวสวนยางได้ตั้งเวที กางเต็นท์ และวางเก้าอี้ เพื่อให้เกษตรกรชาวสวนยางพาราจากหลายจังหวัดภาคใต้ อาทิ พัทลุง นครศรีธรรมราช สตูล กระบี่ สุราษฎร์ จำนวนประมาณ 500 คน ทยอยเดินทางมาสมทบปักหลักชุมนุม หลังนายมนัส บุญพัฒน์ นายกสมาคมคนกรีดยางและชาวสวนยางรายย่อย (ส.ค.ย.) และบรรดาแกนนำในกลุ่ม เชิญชวนเกษตรกรชาวสวนยางหลายพื้นที่ นัดหมายรวมตัวชุมนุมประท้วง มีแกนนำผลัดเปลี่ยนกันขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีรัฐบาล และเรียกร้องให้เร่งแก้ไขปัญหายางราคาตกเหลือ กก.ละ 30-35 บาทเท่านั้น

นายสมพร รักษ์ศรีแก้ว 1 ในแกนนำผู้ชุมนุม กล่าวว่า การชุมนุมครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาล โดยเฉพาะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ที่รับผิดชอบ พ.ร.บ.การยางแห่งประเทศไทย ให้เร่งแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการยางพารา ส่วนการชุมนุมจะยืดเยื้อหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางและผู้มีอำนาจว่า มีมากน้อยแค่ไหน สำหรับในวันนี้แกนนำได้นัดหมายการชุมนุมกันอย่างเป็นระเบียบ ยื่นขออนุญาตจากตำรวจและฝ่ายปกครองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย การชุมนุมจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ แต่มีแผนในการเคลื่อนไหวทวงสัญญาและทวงนโยบายที่พรรครัฐบาล โดยเฉพาะพรรคพลังประชารัฐ และพรรคประชาธิปัตย์เคยให้สัญญาไว้ในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ว่าจะผลักดันราคายางพาราให้สูงขึ้น ในราคา กก.ละ 60-65 บาท

...

ต่อมาเวลา 11.00 น. ตัวแทนเกษตรกรชาวสวนยางจำนวนหนึ่ง นำโดยนายมนัส บุญพัฒน์ นายสมพร รักษ์ศรีแก้ว และนายกมล ขาวทอง รวมทั้งแกนนำอีกหลายคนได้นำเกษตรกรชาวสวนยางประมาณ 200 คน ขึ้นรถกระบะกว่า 10 คัน ข้างรถมีป้ายข้อความ “ทุกย่างก้าวของสมาคมคนกรีดยางและชาวสวนยางคือผลประโยชน์ของชาวสวนยาง (แก้ไม่ได้อย่ากอดเก้าอี้)” “พวกเราจะตายอยู่แล้ว ไม่ทน ไม่ถอย ปัญหาหมักหมมมานาน เล่นละครน้ำเน่าหลอกประชาชน” เพื่อดาวกระจายเดินทางไปยังบ้านของนายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ เลขที่ 156 ริมถนนสายนครฯ-ทุ่งสง หมู่ 1 ต.ช้างซ้าย อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช เพื่อทวงสัญญาเมื่อตอนหาเสียงว่าจะทำให้ราคายางพาราสูงขึ้นให้ได้ กก.ละ 65 บาท แต่พอได้เป็น ส.ส.ราคายางยังไม่ดีขึ้นเลย

เมื่อแกนนำและกลุ่มเกษตรกรเกือบ 200 คน เดินทางไปถึงหน้าบ้านนายเทพไทได้รับแจ้งว่านายเทพไทไม่อยู่บ้าน แกนนำได้รวมตัวกันถ่ายภาพหน้าบ้าน ที่มีป้ายไวนิลรูปนายเทพไท และภาพนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และภาพนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา จากนั้นแกนนำม็อบชาวสวนยางได้ร่วมกันยกนิ้วหัวแม่มือคว่ำลง เพื่อแสดงสัญลักษณ์ความไม่พอใจ พร้อมป้ายข้อความว่า “ถึง รมว.เกษตรและสหกรณ์ ความเดือดร้อนของพี่น้องชาวสวนยางทุกข์หนักเพราะ กยท.คือเสือนอนกิน ทอดทิ้งชาวสวนยาง ขาดความจริงใจแบบยั่งยืน”

ต่อมาขบวนม็อบชาวสวนยางได้เคลื่อนขบวนไปยังบ้านของนายรงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ ที่บ้านเลขที่ 9 หมู่ 1 ต.มะม่วงสองต้น อ.เมืองนครศรีธรรมราช เมื่อไปถึงหน้าบ้าน นายรงค์ได้เดินทางกลับมาพอดี และเข้าพูดคุยเจรจากับแกนนำม็อบ โดยนายรงค์รับปากว่าจะรีบนำวาระความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวสวนยางภาคใต้ ที่ต้องแบกรับปัญหาราคายางตกต่ำ เข้าปรึกษาหารือกับประธานรัฐสภาและ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เพื่อเร่งช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางโดยด่วนต่อไป

นายกมล ขาวทอง 1 ในแกนนำม็อบสวนยาง กล่าวว่า จะรอดูการแก้ปัญหาของรัฐบาลว่าจะจริงใจมากน้อยแค่ไหน เพราะตอนหาเสียงคุยโม้เอาไว้ว่า จะทำให้ราคายางสูงขึ้นให้ได้ กก.ละ 65 บาท แต่จนถึงวันนี้ราคายางตกต่ำมาตลอด ล่าสุด เหลือแค่ 30 บาทเท่านั้น ชาวสวนยางเดือดร้อนมานานแล้ว จากนี้จะกลับไปปักหลักชุมนุมประท้วงยืดเยื้อต่อไปที่บริเวณสี่แยกควนหนองหงส์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช แต่จะเป็นการชุมนุมอย่างสงบ และจะไม่เลิกชุมนุม หากรัฐบาลยังไม่สามารถแก้ปัญหาราคายางตกต่ำให้กับชาวสวนยางได้สำเร็จ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จุดชุมนุมบริเวณสี่แยกควนหนองหงส์ ริมถนนเอเชีย 41 ต.ควนหนองหงส์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ในอดีตสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ช่วงปี พ.ศ.2556 กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางเคยมาปักหลักชุมนุมปิดถนนเอเชียติดต่อกันหลายวัน และเคยเป็นสมรภูมิเดือดมาครั้งหนึ่งแล้ว จนเกิดเหตุรุนแรงมีผู้เสียชีวิต และกลายเป็นรูปแบบการชุมนุมประท้วงของชาวสวนยางรู้จักกันในชื่อ “ควนหนอง–หงส์ โมเดล” กระทั่งวันนี้ เกษตรกรชาวสวนยางภาคใต้ได้นัดหมายมาชุมนุมประท้วงอีกครั้ง เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาราคายางตกต่ำโดยเร็วตามที่เคยหาเสียงเอาไว้ ทำให้หลายฝ่ายเริ่มมีความวิตกกังวลว่า หากการชุมนุมยืดเยื้อและรุนแรงอาจกลาย “ควนหนองหงส์ โมเดล ภาค 2” ได้

จ.พัทลุง วันเดียวกัน นายไพรัช เจ้ยชุม ประชาสัมพันธ์คณะกรรมการเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง การยางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของชาวสวนยางที่ จ.นครศรีธรรมราช เป็นการออกมาทวงถามต่อพรรคการเมืองบางพรรคที่ได้เคยหาเสียงไว้กับชาวสวนยางว่า หากได้เป็นรัฐบาลจะผลักดันให้ยางพาราขยับขึ้นมาทันทีที่ราคา 60-65 บาท/กก. แต่เมื่อเป็นพรรคร่วมรัฐบาลแล้วไม่สามารถดำเนินการได้ตามที่สัญญาไว้ วันนี้ราคาน้ำยางสดซื้อขายกันเพียง 37 บาท/กก.เท่านั้น ส่วนสหกรณ์ชาวสวนยางบางพื้นที่ใน จ.พัทลุง รับซื้อที่ 39 บาท/กก. ยางรมควัน ราคา 42 บาท/กก.เท่านั้น ทั้งที่ก่อนหน้าเทศกาลตรุษจีน ยางรมควันอยู่ที่ 44 บาท/กก. น้ำยางสด 40 บาท/กก.

...

“ปัญหาราคายางพาราตกต่ำในขณะนี้ไม่ได้เกิดจากกลไกตลาดโลก แต่เป็นกลไกทางกลุ่มการค้า ทางเครือข่ายฯมีมติในการแก้ปัญหาดังกล่าวด้วยการนำเสนอออกกฎหมายใช้ยางพาราภายในประเทศ เพื่อให้นำยางพาราไปแปรรูปใช้ในกิจกรรมต่างๆ เช่น ถนนผสมยางพารา เพื่อเพิ่มมูลค่ายางพาราอย่างยั่งยืน หากไม่มีการบังคับใช้กฎหมาย การแก้ปัญหาราคายางพาราจะเดินไปไม่ได้ ถึงแม้จะมี พ.ร.บ.ควบคุมยาง พ.ศ.2542 อยู่แล้วก็ตาม สำหรับกฎหมายการใช้ยางพาราภายในประเทศ กำลังดำเนินการร่างโดยนักวิชาการยางพารา ผู้เชี่ยวชาญยางพารา นักกฎหมาย เข้ามาร่วมด้วยช่วยกันยกร่าง และดำเนินการแล้วเสร็จ จะนำเสนอนายธีระชัย แสนแก้ว ประธานคณะกรรมการเครือข่ายสถาบันฯ เพื่อนำเสนอต่อทุกพรรคการเมืองต่อไป” นายไพรัชกล่าว