‘ศรีสุวรรณ’ บี้กําหนดโทษ! ส.ต.ต.เก็บตัวปิดปากสนิท

คลิปเพื่อนโชค” เริ่มบานปลาย ผู้การเมืองคอนสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ให้เสร็จสิ้นภายใน 7วัน ส่วน “หมู่แท็ค” ส.ต.ต.เอกพล เก็บตัวเงียบอยู่ในบ้าน ญาติแห่ให้กำลังใจ นายสั่งห้ามพูด หวั่นขยายความจนเรื่องไม่จบสิ้น ขณะที่ “ศรีสุวรรณ” เร่งให้คณะตุลาการตรวจสอบข้อเท็จจริง หากผลประจักษ์ชัด ต้องมีบทลงโทษอย่างชัดเจน

เรื่องราวเริ่มบานปลาย จากคลิปฉาวขณะส.ต.ต.เอกพล จุ้ยส่องแก้ว ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ตั้งด่านในพื้นที่ อ.ทุ่งใหญ่ ขอตรวจใบขับขี่นายไกรรัตน์ วีรพัฒนาสุวรรณ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 ขณะขับรถเก๋งฮอนด้า แอคคอร์ด ผ่านจุดตรวจเมื่อค่ำวันที่ 2 พ.ค. แต่นายไกรรัตน์ไม่ให้ใบขับขี่กับเจ้าหน้าที่ แล้วอ้างเป็นเพื่อน “ผกก.โชค” พ.ต.อ.โชคดี รักษ์วัฒนพงษ์ ผกก.สภ.ทุ่งใหญ่ เกิดการถกเถียงกัน หลังเกิดเหตุคลิปออกเผยแพร่ในโซเชียล เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง กระทั่งมีคำพูดล้อเลียน “กูเพื่อนโชค” ประชดประชัน และนำมาแต่งเพลงออกมาหลากหลาย ขณะที่นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เซ็นหนังสือถึงนายไกรรัตน์ให้ชี้แจงข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว

ความคืบหน้าเมื่อเช้าวันที่ 12 พ.ค. พล.ต.ต.ฐากูร เนตรพุกกณะ ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช มีคำสั่งแต่งตั้งให้ พ.ต.อ.สุขเกษม นครวิลัย รอง ผบก.ภ.จ.พังงา ช่วยราชการ ภ.จ.นครศรีธรรมราช เป็นประธานคณะกรรมการสอบสวน ดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน 7 วัน ด้าน พ.ต.อ.สุขเกษมกล่าวว่า เพิ่งรับทราบคำสั่ง อยู่ระหว่างเตรียมตัวเดินทางลงพื้นที่ สภ.ทุ่งใหญ่ เพื่อพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง พร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

...

ขณะที่ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา เนื่องจากเป็นวันหยุด มีเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเข้าเวรปฏิบัติหน้าที่เท่านั้น เมื่อไปสอบถามถึงรายละเอียดกับเรื่องดังกล่าว ตำรวจทุกนายต่างปิดปากเงียบ ไม่ยอมพูดหรือให้สัมภาษณ์ อ้างถูกผู้บังคับบัญชาระดับสูงสั่งห้ามไว้ เนื่องจากเกรงเรื่องจะบานปลาย

สำหรับ ส.ต.ต.เอกพล หรือหมู่แท็ค จุ้ยส่องแก้ว เป็นเวรหยุดพักผ่อนอยู่ที่บ้านใกล้ สภ.ทุ่งใหญ่ บรรดาญาติและเพื่อนต่างมาให้กำลังใจตลอดเวลา พร้อมเปิดเผยว่า ไม่พูดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ไม่ขอต่อความยาวสาวความยืดอะไรอีก ขออยู่เงียบๆ เพราะผู้บังคับบัญชาระดับสูงสั่งห้ามไว้ เนื่องจากเกรงจะนำไปขยายความจนไม่จบสิ้นทุกฝ่ายต่างเข้าใจดี ขอตั้งใจทำงานดีกว่า

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวถึงกรณีการเผยแพร่คลิปในโซเชียลมีเดีย มีบุคคลอ้างตัวเป็นอธิบดีศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 พูดคุยโต้ตอบเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อถูกเรียกขอตรวจดูใบขับขี่ โดยกล่าวอ้างรู้จักเป็นเพื่อนกับนายตำรวจระดับ ผกก.ในพื้นที่ เพื่อเลี่ยงไม่ให้ตรวจดูใบขับขี่ที่ สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ว่า หากเป็นจริงนับว่าเป็นกรณีไม่เหมาะสมต่อสถานะของความเป็นตุลาการเป็นอย่างยิ่ง อาจเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ใช้อำนาจบารมีเส้นสายไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย โดยเฉพาะผู้มีสถานะเป็นที่เชื่อถือศรัทธาของสังคม

นายศรีสุวรรณกล่าวอีกว่า ถือเป็นหน้าที่ประธานศาลฎีกา และคณะกรรมการตุลาการ (ก.ต.) จะต้องดำเนินการตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง สอบจริยธรรมเป็นการเร่งด่วน ไม่ใช่ทำเพียงแค่สั่งให้ชี้แจง เพราะจะกำหนดบทลงโทษตามประมวลจริยธรรมข้าราชการตุลาการอย่างเฉียบขาด มีบัญญัติชัดแจ้งในข้อ 35 ว่า “ผู้พิพากษาจักต้องเคารพ และปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดอยู่ในกรอบศีลธรรม และพึงมีความสันโดษครองตนอย่างเรียบง่าย สุภาพ สํารวม กิริยามารยาท มีอัธยาศัย ถือจริยธรรม และประเพณีอันงดงามของตุลาการ ทั้งพึงวางตนให้เป็นที่เชื่อถือ ศรัทธาของบุคคลทั่วไป” ดังนั้น หากผลการตรวจสอบเป็นประจักษ์ชัดแล้ว ก.ต.ต้องมีบทลงโทษตามครรลองอย่างรวดเร็ว เพราะจะเป็นสนิมกัดกร่อนระบบตุลาการทั้งหมดให้เสียหาย