"มันหนักเกินไปแล้ว... เกินจะแบก" คดีในพื้นที่มากมายมหาศาล การทำสำนวนส่งฟ้องอัยการก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ไหนจะขั้นตอนวิธีการดำเนินคดีจนกว่าจะแล้วเสร็จยืดยาวออกไปหลายปีดีดัก เหตุนี้เองทำให้พนักงานสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขาดแคลนซ้ำแล้วซ้ำเล่า เป็นปัญหาคาราคาซัง แก้เท่าไรก็แก้ไม่ได้ ปรากฏการณ์สมองไหลจึงปะทุหนักอีกครั้งในช่วงนี้ 

โดยเฉพาะกรณีที่ ตำแหน่งพนักงานสอบสวน ของสถานีตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง ได้ว่างลงหลายตำแหน่ง เนื่องจากพนักงานสอบสวนได้ยื่นใบลาออกเป็นจำนวนมาก ในขณะที่ พงส.ส่วนหนึ่งกำลังเตรียมการยื่นใบลาออก เนื่องจากมีปัญหาความเครียด และปัญหาด้านสุขภาพจากการปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากไม่มีเวลาพักผ่อน โดยในเบื้องต้นมีพนักงานสอบสวนได้ยื่นใบลาออก จำนวน 5 ราย ซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนในสังกัด สภ.เมืองพัทลุง 2 นาย สภ.ศรีนครินทร์ 1 นาย สภ.ปากพะยูน 2 นาย รวม 5 นาย

ซึ่งการลาออกของพนักงานสอบสวนในครั้งนี้ ทำให้โรงพักขาดอัตรากำลัง พงส. โดยเฉพาะ สภ.เมืองพัทลุง นั้น มีอัตราว่างถึง 3 อัตรา สภ.ปากพะยูน สภ.บางแก้ว และ สภ.โคกชะงาย โรงพักละ 1 อัตรา รวม 6 อัตรา ซึ่งยังไม่มีผู้ใดขอย้ายมาดำรงตำแหน่งว่างแต่อย่างใด

พล.ต.ต.ฐากูร เนตรพุกณะ
พล.ต.ต.ฐากูร เนตรพุกณะ

...

พล.ต.ต.ฐากูร เนตรพุกณะ ผบก.ภ.จว.พัทลุง ได้เร่งแก้ปัญหาโดยการให้ พงส.ที่ขอยื่นใบลาออกทั้ง 5 ราย มาปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวที่กองสอบสวน ภ.จว.พัทลุง เพื่อสะสางสำนวนคดีที่ค้าง รักษาสุขภาพตัวเอง ฯลฯ เมื่อทุกอย่างผ่อนคลายก็จะส่ง พงส.ลงไปประจำตามโรงพักของตน ส่วนสำนวนคดีมอบหมายให้ผู้บังคับบัญชาของโรงพักต่างๆ ร่วมกันรับผิดชอบ ในขณะที่ พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 ก็ได้ออกมายอมรับว่า ปัญหาการขาดแคลน พงส.ของจังหวัดต่างๆ เป็นเรื่องจริง ซึ่งขณะนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำลังเร่งแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน ตามข่าวที่เสนอมาแล้วนั้น

พล.ต.ต.ฐากูร เนตรพุกณะ ผบก.ภ.จว.พัทลุง เผยว่า ตนสามารถยับยั้งการลาออกของพนักงานสอบสวนได้ 3 ราย ส่วนอีก 2 ราย ไม่สามารถยับยั้งได้จากปัญหาสุขภาพที่ไม่สมบูรณ์ และอีก 1 ราย ได้เตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ สำหรับรองรับการยื่นใบลาออกจากพนักงานสอบสวนในครั้งนี้ไว้แล้ว ซึ่งจากนี้ไป ตน และ รอง ผบก.ภ.จว.พัทลุง จะได้ออกเยี่ยมเยียน ให้ขวัญและกำลังใจต่อการปฏิบัติหน้าที่ของ พงส.อย่างต่อเนื่อง

"หากมีปัญหาในด้านใด จะเร่งแก้ปัญหาโดยทันที ในขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็กำลังเร่งแก้ปัญหาการขาดแคลนพนักงานสอบสวนอยู่เช่นกัน ซึ่งนายตำรวจที่จบใหม่นั้น จะรีบบรรจุเป็นพนักงานสอบสวนตามโรงพักต่างๆ อย่างเร่งด่วนต่อไป"

พนักงานสอบสวนรายหนึ่ง เผยว่า ต้องขอขอบพระคุณ ผบก.ภ.จว.พัทลุง ที่เข้าใจ และเห็นใจในการปฏิบัติหน้าที่ที่ตรากตรำ เหน็ดเหนื่อย โดยไม่มีวันพักผ่อนของตนเอง พวกตนจึงขอเรียกร้องให้ทาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม และประการสำคัญ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ควรให้ความสำคัญแก่พวกตนเหมือนกับตำรวจสายงานอื่นๆ บ้าง อาทิ งานป้องกันปราบปราม งานสืบสวน งานจราจร

"ที่ผ่านมา ผู้บังคับบัญชาในระดับสูง มองพวกผมเหมือนลูกเมียน้อยมาโดยตลอด แต่งานที่มอบหมายให้รับผิดชอบ หนักกว่าตำรวจงานอื่นๆ หลายเท่าตัว แต่กลับให้บริการประชาชนเหมือนญาติ ในขณะที่ตนเองยังเอาตัวเองยังไม่รอด มิหนำซ้ำยังหวาดผวากับการปฏิบัติหน้าที่ของตนเองมาโดยตลอด ไม่ว่าจะโดนผู้บังคับบัญชาตำหนิ สั่งลงโทษ และถูกประชาชนฟ้องร้อง ฯลฯ"


ขณะที่ พนักงานสอบสวน พื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลรายหนึ่ง ให้ข้อมูลกับเราว่า เรื่องของตำแหน่งพนักงานสอบสวน ไม่ต้องไปถามความเห็นใครซ้ำหลายๆ คน เพราะถามคนเดียวก็ให้ข้อมูลไปในทิศทางเดียวกัน คือ เป็นตำแหน่งที่เหมือนถูกรังแก ไม่มีใครเห็นหัว เงินเดือนน้อย งานหนัก คุณภาพชีวิตแย่ สุขภาพจิตก็แย่ แทบไม่มีสักวันที่สมองจะได้พักผ่อนอย่างจริงจัง เพราต้องคิดเรื่องงานตลอด ซ้ำยังเป็นเหมือนหนูทดลองยา ถูกผู้ใหญ่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ปฏิรูปเท่าไรก็ไม่ดีขึ้น เรากลายเป็นหนูทดลองยาไปโดยปริยาย

"เอาความจริงมาพูดกัน ทุกวันนี้เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่า งานของตำรวจพนักงานสอบสวนแบกรับทุกอย่างไว้ จนไม่มีใครอยากจะทำงานในสายงานนี้ ใครมีพลังหน่อยก็วิ่งย้ายไปสายจราจร ปราบปราม หรือ สืบสวน ส่วนคนที่ยังนั่งอยู่ที่เดิมคือ พวกไม่มีเส้นสาย ต้องอดทนทำงานต่อไป แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งที่เริ่มทนไม่ไหว ก็ต้องขอลาออกเป็นธรรมดา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ควรจริงใจในการแก้ไขปัญหาสักที อย่ารอจนกว่าพนักงานสอบสวนจะชิงลาออกกันทั้งประเทศ แล้วไม่มีคนทำงาน" 

...