อดีตสาวเอไอเอสลาออกกลับบ้านโคราชมาสานต่อธุรกิจของพ่อ ผันตัวมาเป็นช่างซ่อมผ้าเบรก เทคแคร์ช่วงล่าง ถ่ายน้ำมันเครื่อง ยิ่งเลอะยิ่งสวย เผยเพราะเป็นลูกคนโตเรียนจบแล้ว เลยอยากช่วยแบ่งเบาภาระพ่อ เผยไม่เคยกลัวเปื้อนถ้าได้เงิน...
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 22 พ.ค.2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ร้านสันติผ้าเบรก (ภาวิดาผ้าเบรก) กม.3 ริมถนนเพชรมาตุคลา ตำบลหัวทะเล อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา เจ้าของร้านผ้าเบรกดังกล่าวเป็นหญิงสาวสวย วัยเพียง 24 ปี ทราบชื่อว่า นางสาวภาวิดา ใยงูเหลือม หรือ น้องข้าวฟ่าง ซึ่งขณะกำลังถอดล้อรถเก๋งของลูกค้า เพื่อทำการเปลี่ยนผ้าเบรก และเจียจานเบรกอย่างขะมักเขม่น และทะมัดทะแมงไม่แพ้ช่างที่เป็นผู้ชาย ทั้งนี้แม้ตามแขนเปรอะเปื้อนน้ำมันเครื่องสีดำปี๋ แต่น้องข้าวฟ่างก็ไม่แคร์ความมอมแมมของตัวเอง
จากการสอบถามบอกว่า ทุกวันน้องข้าวฟ่างจะต้องทำหน้าที่ถ่ายน้ำมันเครื่องรถยนต์ ซ่อมเบรก เจียจานดิสเบรก รวมทั้งโช้คอัพ และซ่อมช่วงล่างรถยนต์ของลูกค้าที่เข้าไปใช้บริการที่ร้าน โดยเป็นที่น่าแปลกใจของลูกค้าที่ไปใช้บริการ เนื่องจากน้องข้าวฟ่างมีรูปร่างผอมบาง และมีหน้าตาสะสวย แต่กลับสามารถคลุกคลีกับอุปกรณ์เครื่องมือช่าง และน้ำมันเครื่องรถยนต์ จนเสื้อผ้าเนื้อตัวดำมอมแมม โดยไม่แสดงอาการรังเกียจแต่อย่างใด
...
จากการสอบถามน้องข้าวฟ่าง เล่าให้ฟังว่า ตนเองได้เรียนจบปริญญาตรี ด้านการตลาด จากมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา เมื่อปี 2557 และเมื่อจบใหม่ๆ ก็ได้ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ของบริษัท แอดวานซ์อินโฟร์เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ได้ประมาณ 1 ปี จากนั้นน้องข้าวฟ่างยังบอกด้วยว่า ก็ลาออกจากงานแล้วกลับไปทำธุรกิจร้านรับซ่อมผ้าเบรก และช่วงล่างรถยนต์ ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัวเมื่อประมาณ 1 ปีก่อน โดยน้องข้าวฟ่างรับช่วงธุรกิจต่อจากคุณพ่อ คือ นายสันติ ใยงูเหลือม อายุ 51 ปี
โดยครอบครัวของตน คุณพ่อคุณแม่มีลูกสาวทั้งหมด 3 คน ตนเป็นลูกสาวคนโต ตนเลยตัดสินใจกลับไปช่วยงานธุรกิจของครอบครัว เพราะตอนเด็กๆ ตนก็คลุกคลี ได้วิชาชีพติดตัว และเคยช่วยงานของคุณพ่อบ่อยๆ ทั้งนี้ตนไม่เคยกลัวเปื้อน เพราะถ้าหากเปื้อนแล้วได้เงินตนก็ทำได้ โดยตนตั้งใจจะทำงานแบบนี้ไปตลอด ซึ่งตนอยากช่วยแบ่งเบาภาระของคุณพ่อ เพราะคุณพ่อทำงานหนัก และเหนื่อยมานานแล้ว ต่อจากนี้ไปตนจะช่วยงานของที่บ้านเอง และอยากให้คุณพ่อได้พักผ่อนบ้าง.