(ภาพจาก : เฟซบุ๊ก ท่าอากาศยานขอนแก่น)
สนามบินขอนแก่น ขอความร่วมมือ อปท.แจ้งกำหนดจัดงานบั้งไฟ ก่อนวันงาน 7 วัน หวั่นกระทบเส้นทางการบิน หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมายอาญา...
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 18 พ.ค.60 ว่าที่ ร.ต.อัธยา ลาภมาก ผู้อำนวยการท่าอากาศยาน จ.ขอนแก่น ให้สัมภาษณ์ว่า ในขณะนี้หลายพื้นที่เริ่มดำเนินกิจกรรมงานบุญประเพณีบั้งไฟ ประจำปี 2560 โดยเฉพาะในเส้นทางการบินมายัง จ.ขอนแก่น และในเส้นทางการบินไปในเส้นทางต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่จะต้องใช้ระบบการจัดการจราจรทางอากาศผ่าน จ.ขอนแก่น ขณะเดียวกันยังคงมีรายงานจากนักบิน ว่ามีการจุดบั้งไฟแล้วในหลายพื้นที่ทั้งในพื้นที่ จ.ขอนแก่น และพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง ซึ่งเสี่ยงเป็นอุปสรรคต่อการทำการบินอย่างมาก โดยเฉพาะในรัศมีของการทำการบินขึ้นและลงที่ท่าอากาศยาน จ.ขอนแก่น ตั้งแต่ความสูงระดับ 5,000-10,000 ฟิต ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อการเดินอากาศ และเป็นอุปสรรคต่อการบินขึ้นและลงของอากาศยานได้
"จะยังคงขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ จ.ขอนแก่น และจังหวัดใกล้เคียง ที่มีการจุดบั้งไฟ กรุณาแจ้งท่าอากาศยานได้รับทราบด้วย โดยจะต้องทำเรื่องเสนอผ่านนายอำเภอ ตามประกาศของจังหวัด ซึ่งหากทางอำเภอได้อนุญาตให้มีการจัดกิจกรรมได้ ให้มีการนำหนังสือฉบับดังกล่าวแจ้งมายังสนามบิน เพื่อที่จะทำการจดบันทึกข้อมูลในรายละเอียดต่างๆ และทำการออกประกาศแจ้งเตือนไปยังนักบิน และสายการบิน ทั้งสายการบินพาณิชย์ สายการบินที่ทำการรับส่งสินค้าและเครื่องบินฝนหลวง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่ใช้การจราจรทางอากาศผ่านพื้นที่ขอนแก่น เนื่องจากในแต่ละวันจะมีเที่ยวบินที่จะต้องทำการบินผ่านพาดเส้นทางผ่านขอนแก่น ในระดับความสูงต่างๆ และการขอจัดการจราจรผ่านขอนแก่นเป็นจำนวนมาก โดยขอให้ชุมชนหมู่บ้าน รวมไปถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่กำหนดจัดงานบุญบั้งไฟ ได้แจ้งมายังสนามบินได้รับทราบ และจะต้องแจ้งรายละเอียดที่ต้องระบุถึง สถานที่ วัน เวลา ชนิดของบั้งไฟ ความสูง ชื่อ และหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ประสานงาน" ผอ.การท่าอากาศยานขอนแก่นกล่าว
...
ว่าที่ ร.ต.อัธยา กล่าวด้วยว่า ทังนี้ตั้งแต่เดือน เม.ย.ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน มี หน่วยงานต่างๆ ส่งเรื่องเพื่อขอจัดงานบุญประเพณีบั้งไฟ แล้วรวมกว่า 40 เรื่อง โดยใหญ่อยู่ในพื้นที่จังหวัดรอบสนามบินทั้ง จ.ขอนแก่น มหาสารคามและชัยภูมิ ที่ผ่านมามีการส่งเรื่องกลับให้ดำเนินการใหม่หลายครั้งเนื่องจากข้อมูลไม่ครบ ขณะที่บางหมู่บ้านส่งเรื่องมายังสนามบินก่อนการจัดกิจกรรมเพียง 1 วัน ซึ่งสนามบินก็ไม่สามารถที่จะอนุญาต ในขณะที่พื้นที่ใดมีการจุดบั้งไฟเลยเวลาที่ขอรับการอนุญาตก็ให้มีการประสานงานมายังหอบังคับการบินเพื่อแจ้งเตือนไปยังนักบินได้รับทราบด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามพื้นที่ความปลอดภัยการคมนาคมของสนามบิน จะอยู่ในรัศมี 20 กม. และระดับต่อไปคือเข้าเขตอันตรายขีดสีแดงโดยรอบสนามบิน รัศมี 10 กม.ที่จะต้องเป็นเขตปลอดภัยสูงสุดเพื่อให้เครื่องบินทุกประเภทเทียบเครื่องลงจอด แต่จุดดังกล่าวพบว่าเป็นจุดอันตรายทุกครั้ง นักบินจะพบบั้งไฟถูกยิงขึ้นสู่ท้องฟ้า ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
"ผู้ที่ทำการจุดบั้งไฟ โดยไม่ได้รับอนุญาต จนทำให้เกิดอันตรายต่ออากาศยาน จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ.2499 มาตรา 232(1) ผู้ใดกระทำด้วยประการใดๆ ให้อากาศยานอยู่ในลักษณะอันน่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคล ต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่ 6 เดือนถึง 7 ปี และปรับตั้งแต่ 1,000-14,000 บาท รวมทั้งความผิด ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ.2558 มาตรา 18 ผู้ใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด ฐานทำลายอากาศยานในระหว่างบริการ ทำให้อากาศยานในระหว่างบริการเสียหายจนเป็นเหตุให้อากาศยานไม่สามารถทำการบินได้ หรือเป็นเหตุ หรือน่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายต่อความปลอดภัยของอากาศยานในระหว่างการบิน ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ 5-20 ปี และปรับตั้งแต่ 600,000-800,000 บาท ขณะเดียวกัน ยังคงมีคำสั่งใน ม.44 ในการห้ามจุด พลุ ประทัด ตะไล และบั้งไฟ เว้นแต่จะได้รัยบอนุญาตจากทางจังหวัด จึงขอให้ผู้ที่รับผิดชอบในการจัดกิจกรรมงานบุญประเพณีได้ดำเนินการตามคำสั่งอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันการเกิดอันตรายในการจราจรทางอากาศที่อาจจะเกิดขึ้นได้" ว่าที่ ร.ต.อัธยา กล่าว.