"ร้านทอง" ที่ขอนแก่น ออกมาเตือนภัย หลังถูกแม่บ้านขโมยทอง รวมประมาณ 47 ครั้ง น้ำหนัก 700 บาท มูลค่ากว่า 20 ล้าน

วันที่ 7 พ.ย. 67 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากร้านทองแห่งหนึ่ง ใน อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น หลังได้รับแจ้งจาก น.ส.นิด (นามสมมติ) เจ้าของร้านทอง ว่า แม่บ้านที่ทางร้านจ้างมาทำงานที่ร้านทอง ลงมือขโมยทองรูปพรรณไป รวมกว่า 700 บาท มูลค่าประมาณ 20 ล้านบาท โดยมีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดภายในร้านบันทึกภาพขณะแม่บ้านรายนี้ก่อเหตุเอาไว้ได้ ซึ่งไม่ได้ลงมือครั้งเดียว แต่ก่อเหตุเรื่อยมาตั้งแต่ปี 2564 รวม 47 ครั้ง

โดย น.ส.นิด เล่าว่า พบความผิดปกติครั้งแรก เมื่อวันที่ 9 ก.ย. 67 ขณะแม่บ้านที่ทำงานอยู่ในร้านทอง ทำทองรูปพรรณหล่นจากเสื้อกันเปื้อน บริเวณห้องครัวหลังร้าน เมื่อสอบถามว่าเอาทองมาจากไหน ก็อ้างว่า น่าจะหล่นจากตู้โชว์ใส่ผ้ากันเปื้อนตอนที่ทำความสะอาด จากนั้นจึงได้ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด กระทั่งพบว่าแม่บ้านคนดังกล่าว ได้หยิบทองจากตู้โชว์ภายในร้านใส่ผ้ากันเปื้อน ทางร้านทองจึงได้ตรวจสอบย้อนหลัง พบหลักฐานเพิ่มอีกว่าแม่บ้านคนดังกล่าว ได้ขโมยทองรูปพรรณภายในร้านไปกว่า 47 ครั้ง น้ำหนักกว่า 700 บาท รวมมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท

ซึ่งในวันที่จับได้ แม่บ้านยอมรับสารภาพ แต่พอขึ้นศาลแม่บ้านจ้างทนายสู้และปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาตัดสินแม่บ้านคนดังกล่าว 235 ปี โดยไม่รอลงอาญา และชดใช้หนี้ที่เหลือพร้อมดอกเบี้ยอีก 18 ล้านบาท แต่แม่บ้านขอยื่นอุทธรณ์ต่อ และฟ้องกลับทางร้านทอง

...

เจ้าของร้าน บอกด้วยว่า ที่จริงอยากให้โอกาสคน คิดว่าคนเราอาจทำผิดพลาดลงไป เพราะความโลภครอบงำ แต่เมื่อรู้ว่าตัวเองทำผิดแล้วก็ควรจะมีจิตสำนึกกลับตัวกลับใจ ไม่คิดว่าแม่บ้านคนดังกล่าวจะถลำลึก ถ้ารู้ว่าเป็นคนแบบนี้ วันนั้นคงไม่ให้โอกาส ตอนนี้ก็รู้สึกเสียใจ เพราะแม่บ้านคนดังกล่าวได้จ้างทนายฟ้องว่า ทางร้านบังคับข่มขู่ และหมิ่นประมาท

ทั้งนี้ ที่นำเรื่องนี้ออกมาเปิดเผย เพราะอยากเตือนภัยสำหรับร้านทอง อยากให้ตรวจสอบในการจ้างงานของลูกน้อง รวมถึงเช็กสต๊อกให้ดีกว่านี้ ซึ่งก็ยอมรับว่า ที่ผ่านมาเราเช็กสต๊อกได้หละหลวม แต่ในปัจจุบันเช็กสต๊อกทุกวัน

ด้าน พ.ต.อ.ปรัชญามาศ ไชยสุระ ผกก. สภ.บ้านไผ่ เปิดเผยถึงกรณีที่เจ้าของร้านทองแจ้งความดำเนินคดีกับแม่บ้านประจำร้านทอง แอบขโมยทองไปกว่า 700 บาท มูลค่ากว่า 20 ล้าน ว่า ตำรวจรับแจ้งความว่า ในห้วงปี 2564-2566 ต่อเนื่องกัน แต่ต่างคนต่างวาระ โดยตรวจสอบพบว่า แม่บ้านลักทรัพย์เป็นทองรูปพรรณ ประมาณ 700 บาท มูลค่าประมาณ 25,000,000 บาท รายละเอียดในพฤติกรรมของแม่บ้านนั้น สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 3 ต.ค.2566 ห้างทองได้มาแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับแม่บ้านในข้อหาลักทรัพย์นายจ้าง ซึ่งแม่บ้านรายนี้เข้าทำงานในร้านทองตั้งแต่ปี 2553 และในปี 2564 แม่บ้านได้อาสาทำหน้าที่เป็นพนักงานขายทองอีกหน้าที่หนึ่ง

ในปี 2564-2566 แม่บ้านรายนี้ได้แอบขโมยทองอย่างต่อเนื่อง ทางผู้เสียหายตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในร้าน พบว่าแอบลักทองไปจริง มูลค่าความเสียหายน้ำหนักทองประมาณ 700 บาท คิดเป็นเงินประมาณ 25 ล้านบาท เมื่อทางร้านรู้ มีการสอบถามกับแม่บ้าน ก็รับว่าเป็นผู้เอาทองไปจริง โดยมีการคืนให้แก่ผู้เสียหายบางส่วนคือ ทองรูปพรรณ 215 บาท และเงินสด จำนวน 1,100,000 บาท

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านไผ่ ได้เข้าตรวจค้นพร้อมยึดของกลางเป็นทองรูปพรรณอีก 50 บาท ในขณะที่ศาลจังหวัดพลได้มีคำพิพากษาว่า แม่บ้านรายนี้ได้กระทำความผิดจริง ลงโทษฐานลักทรัพย์นายจ้าง จำนวน 47 กรรม ลงโทษ 235 ปี ในส่วนทรัพย์ที่เจ้าพนักงานตำรวจตรวจยึด ได้ให้คืนเจ้าของกรรมสิทธิ์เรียบร้อยแล้ว