ผอ. โรงเรียนแจงดราม่า ครูบังคับเรียกเก็บเงินผู้ปกครองสร้างโดม เป็นการสื่อสารที่เข้าใจผิดกัน ยืนยันสามารถเลือกบริจาคได้ตามกำลังศรัทธา
จากกรณีที่โลกออนไลน์ได้มีการแชร์เรื่องราวที่เกิดขึ้นใน จ.ขอนแก่น แม่ช้ำใจ โพสต์ระบายความอัดอั้น หลังพาลูกชายย้ายเข้าโรงเรียน แต่เจอครูบังคับบริจาคเงินสร้างโดม ซึ่งต่อมาได้เปิดเผยว่า ได้คุยกับผอ. แล้ว แต่ตัดสินใจพาลูกไปเรียนที่อื่น ดังที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น (แม่เปิดใจ เล่าปมพาลูกชายย้ายโรงเรียน แต่เจอครูบังคับบริจาคเงินสร้างโดม)
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 6 พ.ย. 67 นายบุญธรรม โบราญกูล ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาลวัดกลาง ชี้แจงเรื่องดังกล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นนั้น เริ่มจากเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ผู้ปกครองได้เดินทางมาติดต่อเพื่อขอสมัครเข้าเรียนกลางเทอม เนื่องจากลูกชายเคยเรียนเมื่อชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มาก่อน แต่ต้องย้ายไปที่จังหวัดชลบุรี เพราะทางผู้ปกครองอยากนำไปอยู่ใกล้ชิด ตนเองได้ตอบรับที่จะให้เข้าเรียน แต่จะต้องมีเอกสารรับรองผลการเรียนฉบับจริง จึงจะสามารถรับเข้าศึกษาต่อได้
...
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 4 พ.ย. 67 ที่ผ่านมา ผู้ปกครองได้เดินทางมาที่โรงเรียน แต่ตนเองไม่อยู่ เพราะไปพบแพทย์ตามที่แพทย์นัด ผู้ปกครองจึงได้พูดคุยกับครูของโรงเรียน โดยทางโรงเรียนได้แจ้งว่า จะต้องชำระค่าธรรมเนียมตามประกาศโรงเรียน ซึ่งเป็นค่าอุปกรณ์การเรียนการสอนเป็นเงินจำนวน 1,700 บาท แต่ทางผู้ปกครองบอกว่าเงินไม่พอ จะขอมาชำระในวันที่ 15 พ.ย. 67
โดยครูได้ชวนผู้ปกครองบริจาคเงินในการสร้างโดมที่อยู่หน้าโรงเรียน หรือบริจาคเข้าโรงเรียน เพื่อนำไปใช้ในการเป็นทุนการศึกษา แต่ทางผู้ปกครองไม่มีเงิน จะขอบริจาคจำนวน 300 บาท ทางครูก็ไม่ว่าอะไร จนกระทั่งผู้ปกครองได้ออกจากโรงเรียน ก่อนที่จะมีการโพสต์ข้อความในโซเชียล ว่าทางโรงเรียนมีการเรียกรับเงินบริจาค
ซึ่งในวันดังกล่าวหากตนเองไม่ได้ไปพบแพทย์ ตนเองก็สามารถที่จะเซ็นยกเลิกค่าธรรมเนียมของโรงเรียนได้ทันที วันต่อมาได้มีการเรียกผู้ปกครองมาพูดคุย ซึ่งทางโรงเรียนก็พร้อมที่จะรับเข้าเรียน แต่ทางผู้ปกครองได้ตัดสินใจให้ลูกไปเข้าเรียนที่โรงเรียนอื่นแทน ตนเองก็บอกไปอีกว่า หากต้องการเรียนที่โรงเรียนใดในสังกัดเทศบาลนครขอนแก่น ตนเองก็พร้อมจะช่วยเต็มที่
โดยครูที่สัมภาษณ์เด็ก พูดกับผู้ปกครองเรื่องขอชวนบริจาคเงินสร้างโดมพร้อมตนเอง ก็ได้ยกมือไหว้ขอโทษกับทางผู้ปกครองถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หากต้องการจะเรียนที่โรงเรียนนี้ ตนเองก็พร้อมที่จะรับเข้าเรียน จากนั้นผู้ปกครองก็บอกว่าขอกลับไปปรึกษาก่อน ต่อมาจึงได้สมัครเรียนที่โรงเรียนอื่น
ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาลวัดกลาง กล่าวอีกว่า ส่วนโดมที่สร้างเป็นเงินงบประมาณของโรงเรียนที่ได้รับ คิดเป็นร้อยละ 90 ที่นำมาก่อสร้าง โดยใช้ในการใช้จ่ายค่าออกแบบ ค่าวัสดุก่อสร้าง อีก 10 เปอร์เซ็นต์ จะใช้เงินรายได้อื่นของโรงเรียนมาเป็นค่าจ้างแรงงานก่อสร้าง เพื่อใช้หลบแดดหลบฝน และทำกิจกรรมของนักเรียน
ส่วนผู้ปกครองต้องการจะบริจาคหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับศรัทธาจะบริจาคหรือไม่บริจาคก็ได้ หรือจะบริจาคเป็นทุนการศึกษาก็ได้ เพราะในแต่ละปีคนที่บริจาคเงินเพื่อเป็นทุนการศึกษา ทางโรงเรียนจะเชิญมาร่วมในพิธีมอบทุนการศึกษา ทุกๆ วันที่ 12 ส.ค. ของทุกปี ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากการที่สื่อสารเข้าใจผิดกัน.