เตือนภัย แก๊งต้มตุ๋นหลอกชาวบ้านนำไปขอหวยอาละวาดหนัก สูญเงินและทองนับแสนบาท วอนเจ้าหน้าที่เร่งจับกุม หวั่นมีคนตกเป็นเหยื่อเพิ่ม

วันที่ 11 กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีชาวบ้านบ้านท่าชวน หมู่ 6 ต.ท่ากูบ อ.ซับใหญ่ จ.ชัยภูมิ ตกเป็นเหยื่อแก๊งมิจฉาชีพตีเนียนทำทีมาหาซื้อไม้ยูคาลิปตัส จากนั้นก็อ้างว่าตนเองถูกหวยได้เงินหลายแสน โดยมีพระดีช่วยทำพิธีขอหวยได้แม่นมาก หลอกชาวบ้านหาเหรียญตราครุฑไปทำ จนเสียเงินและทองไปมากกว่า 100,000 บาท

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 6 ต.ท่ากูบ อ.ซับใหญ่ จ.ชัยภูมิ ได้พบนายสามารถ อายุ 54 ปี ชาวหมู่ 6 ต.ท่ากูบ อ.ซับใหญ่ จ.ชัยภูมิ และนางดรุณี อายุ 50 ปี สองสามีภรรยา และนายสนิท อายุ 70 ปี พร้อมนายอุดม อายุ 64 ปี ผู้เสียหายที่ถูกแก๊งตุ๋นขอหวยหลอกในครั้งนี้

โดยผู้เสียหายเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2567 เวลาประมาณ 12.00 น. มีหญิงวัยกลางคนจำนวน 2 คน คนหนึ่งรูปร่างผอมสูง ผิวขาว อีกคนรูปร่างท้วม ผิวดำแดง ทำทีเข้าไปติดต่อสอบถามหาซื้อไม้ยูคาลิปตัส และพูดชักชวนให้ทำพิธีกรรมเพื่อขอหวย และนัดหมายกันไปพบโดยเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2567 พวกตนได้ขี่รถยนต์กระบะไปทำพิธีกรรมในเขตอำเภอหนองบัวระเหวตามนัดหมาย

...

เมื่อขับรถไปถึงบริเวณหน้าโรงเรียนบ้านละหานค่าย หมู่ 2 ต.โคกสะอาด อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ ได้พบกับชายไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 50 ปี จอดรถยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร รออยู่ และขับนำไปพบกับชายอีกคน (ไม่ทราบชื่อ) อายุประมาณ 60 ปี ที่อ้างตัวเป็นมัคทายกวัดละหานค่ายที่หน้าวัดบ้านละหานค่าย แล้วพาไปที่ป่าด้านทิศตะวันตกข้างวัดละหานค่าย เมื่อไปถึง มีการจัดเตรียมลานเพื่อทำพิธีกรรมไว้ โดยมีชายอายุประมาณ 50 ปี แต่งกายคล้ายพระสงฆ์ จำนวน 1 คน และหญิง 2 คน ที่ไปติดต่อชักชวนตนที่บ้านมาทำพิธีกรรม

โดยชายที่แต่งกายคล้ายพระสงฆ์ ได้บอกให้ผู้ที่ไปร่วมพิธีใส่ซองคนละ 200 บาท วางลงบนพาน แล้วสวดมนต์คาถา ดูดวงชะตาให้กับทุกคน แล้วให้พากันกลับไป และนัดให้ไปพบกันใหม่ในวันรุ่งขึ้น โดยให้ออกจากบ้านเวลา 09.09 น. ของวันที่ 9 กันยายน 2567 จากนั้นพวกตนก็ได้กลับไปยังที่เดิม และพบกับบุคคลกลุ่มเดิมนั่งรออยู่ และผู้ที่แต่งกายคล้ายพระสงฆ์ ได้ให้พวกตนนำเงินสดที่จะใช้ซื้อหวยออกมาใส่ซองเพื่อทำพิธี และหากมีของมีค่าให้นำออกมาใส่ไว้ด้วย โดยนางดรุณีได้นำเงินสดจำนวน 17,000 บาท นายสนิทนำเงินสดจำนวน 1,110 บาท และนายอุดมนำเงินสดจำนวน 4,000 บาท รวมเป็นเงิน 22,110 บาท ใส่ในซอง วางลงในห่อผ้าจีวรสีเหลืองที่ตัดเป็นสี่เหลี่ยม และนางดรุณีได้นำสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท จำนวน 1 เส้น สร้อยคอทองคำหนัก 50 สตางค์ จำนวน 1 เส้น แหวนทองคำหนักวงละ 1 สลึง จำนวน 2 วง ใส่ลงไปด้วย

หลังจากนั้นชายที่แต่งกายคล้ายพระสงฆ์ ใช้ด้ายสายสิญจน์มัดห่อผ้า แล้วเริ่มทำพิธีสวด เมื่อสวดเสร็จ ได้จุดธูปให้คนละดอก แล้วให้นั่งหันหลังพนมมือ แล้วเริ่มสวดอีกครั้ง นานประมาณ 2-3 นาที เมื่อสวดเสร็จ จึงให้ปักธูปลงต่อหน้า แล้วหันหลังกลับมา ให้นำห่อผ้าใส่ในกระเป๋านำกลับไปบ้าน เมื่อกลับถึงบ้านได้แก้ห่อผ้าออก ปรากฏว่าเงินและทองคำรูปพรรณได้หายไป พวกตนจึงรู้ว่าถูกล่อลวงให้สูญเสียไปซึ่งทรัพย์สิน

จากนั้นจึงพากันเข้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.หนองบัวระเหว เพื่อให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วก่อนที่แก๊งเหล่านี้จะไปก่อเหตุซ้ำที่อื่นอีก เบื้องต้นพฤติกรรมดังกล่าวเคยเกิดขึ้นในพื้นที่ สภ.เมืองชัยภูมิ มาแล้วเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา คาดว่าคนร้ายรอให้เรื่องเงียบแล้วออกก่อเหตุซ้ำ โดยเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่เพื่อหาข้อมูลเร่งติดตามแก๊งดังกล่าวมาดำเนินคดีเป็นการด่วน และหากผู้ใดพบเจอกลุ่มคนที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ให้รีบแจ้ง 191 ทันที.