อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ความจนบีบบังคับยายวัย 66 ปี ให้คนในหมู่บ้านโพสต์เฟซบุ๊ก ประกาศขาย ตู้เย็น ทรัพย์สินที่มีราคาที่สุดในบ้าน 1,000 บาท เพื่อต้องการเอาเงินมาจ่ายค่าไฟ 95 บาท ค่าน้ำ 75 บาท ที่ถูกตัดไปแล้ว ล่าสุดมีคนเห็นโพสต์ตามไปช่วยทันที เผยยายต้องเลี้ยงหลาน 2 คนวัย 3 ขวบ กับ 4 ขวบ อดมื้อกินมื้อ ยอมรับเป็นห่วงหลาน หากตัวเองตายไป จะอยู่อย่างไร

เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ได้มีเฟซบุ๊กชื่อ “แสนแสบ” โพสต์ภาพตู้เย็น ประกาศขายในราคา 1,000 บาท แทนยายในหมู่บ้านที่ไม่มีโทรศัพท์ โดยระบุข้อความว่า “สงสารยาย” ที่ต้องการขายเพราะเอาไปจ่ายค่าไฟฟ้าที่ถูกตัดไปแล้วยอดบิล 95 บาทและค่าน้ำอีก 75 บาท ในเวลาต่อมาผู้โพสต์ได้ลบโพสต์ออกไป

ผู้สื่อข่าวตรวจสอบ พบว่าผู้ที่ประกาศขายตู้เย็น คือ นางแพง ยี้รัมย์ อายุ 66 ปี อยู่เลขที่ 14 ม.10 ต.ละหานทราย อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ และพบว่าได้ยกเลิกการขายตู้เย็นแล้ว หลังจากมีคนเห็นโพสต์มาช่วยเหลือด้วยการซื้อตู้เย็น แต่ไม่เอาของไป

และทราบต่อมาคนที่เข้าไปช่วยยาย คือ นางพรชิตา โคตรพัฒน์ อายุ 41 ปี อยู่เลขที่ 39/2 ม.10 ต.ละหานทราย อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ โดยนางพรชิตา เล่าว่า เห็นโพสต์โผล่ขึ้นทางเพจของ อ.ละหานทราย

...

รู้สึกเห็นใจและอยากเข้าไปช่วยทันที จึงเดินทางมาที่บ้านของยายและให้ผู้โพสต์ลบโพสต์ออกทันที จากที่มาเห็นแล้วเป็นครอบครัวที่น่าสงสารมาก เพราะยายต้องเลี้ยงหลานชายและหลานสาววัย 3 ขวบกับ 4 ขวบตามลำพัง เพราะพ่อเด็กติดคุก แม่เด็กไปทำงานต่างจังหวัด แต่ไม่ค่อยส่งเงินมาให้ทางบ้าน

เบื้องต้นได้เอาเงินมาซื้อตู้เย็น โดยการจ่ายให้ยายไปจำนวน 1,000 บาท แต่ไม่เอาตู้เย็น พร้อมกับซื้อข้าวสารอาหารแห้งมาให้บางส่วน แต่ยังมีความเป็นห่วงเพราะตนจะต้องไปอยู่กับสามีที่ต่างประเทศ จึงติดโซลาร์เซลล์ เพื่อเอาไว้ใช้ฉุกเฉินหากถูกตัดหม้อไฟอีก

นางแพง ยอมรับว่าใช้ชีวิตอยู่กับหลานด้วยความลำบาก ถูกตัดไฟแล้วหลายครั้ง แต่ละครั้งนานกว่า 1 สัปดาห์ จึงจะหาเงินไปจ่ายค่าไฟได้ หรือต้องรอเบี้ยคนชราออกจึงจะได้จ่าย

“ช่วงเวลานั้นจะต้องหาเก็บผักบุ้งหลังห้องน้ำมาผัดกับเตาฟืน ประทังให้หลานทั้งสองคนได้กิน”

นางแพง กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาเคยมี อสม.มาดูบ้าง มีชาวบ้านมาดูบ้าง แต่ยังไม่มีหน่วยงานราชการหน่วยงานใดมาช่วยเหลือ ตอนนี้เป็นห่วงแค่หลาน ว่าหากตนเสียชีวิตไปแล้ว เขาจะอยู่อย่างไร เพราะพ่ออยู่ในเรือนจำ แม่ก็ไปทำงาน.