คดีตำรวจบุรีรัมย์ จับชายขโมยลูกชิ้นยืนกินเจ้าดัง ป้อนแม่ป่วยติดเตียง ให้พ่อ-ลูกเมียอีก 9 ชีวิตได้กิน ตำรวจกัดฟันส่งสำนวน และฝากขังในเรือนจำ อัยการต้องสั่งคดีภายในวันศุกร์นี้ ขณะที่อดีตประธานศาลฎีกาชี้ การได้รับการปล่อยตัวเป็นสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ศาลจะต้องพิจารณาทันที ประชาชนเองก็ต้องรู้ด้วยว่าตนเองมีสิทธิอะไร
กรณีนายบุญเที่ยง ชายชาวบุรีรัมย์ ฐานะยากจน ถูกจับข้อหาขโมยลูกชิ้นยืนกินเจ้าดัง เอาไปป้อนให้แม่ที่ป่วยติดเตียงกิน กับเลี้ยงพ่อ เมีย และลูกเล็ก วัย 7 ขวบ กับ 5 ขวบ รวม 9 ชีวิต ปัจจุบันถูกขังในเรือนจำ ตำรวจจำใจจับไปสอบสวน สรุปสำนวนฟ้องข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืนและโดยใช้ยานพาหนะ ส่งอัยการจังหวัดบุรีรัมย์ไปแล้วนั้น
เรื่องนี้นายนาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เผยว่า ร.ต.อ.สุพจน์ ตึกกระโทก พนักงานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ นำสำนวนคดีรับสารภาพ ที่กล่าวหานายบุญเที่ยง พิทักษ์พันธุ์ 2 ข้อหา พร้อมความเห็นควรสั่งฟ้อง ส่งให้อัยการจังหวัดเรียบร้อยแล้ว ต่อไปจะเป็นอำนาจของอัยการตาม ป.วิอาญา มาตรา 143 ที่อัยการจะต้องดูอย่างละเอียดรอบด้าน ซึ่งตนได้โทรถามท่านอัยการจังหวัด ทราบว่าคดีนี้ต้องต้องมีคำสั่งฟ้องไม่ฟ้องในวันศุกร์ที่ 12 ก.ค.นี้แล้ว เพราะศาลท่านอนุญาตให้ฝากขังในเวลาจำกัดเพียง 4 ผัด หรือ 48 วันเท่านั้น
"ดังนั้น ในวันนี้อาจต้องมีคำสั่งแล้ว หรือหากข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพฤติการณ์ ฐานะ การศึกษา อาชีพ ครอบครัว สังคมแวดล้อม ประวัติการกระทำผิดอื่น (ถ้ามี) ยังไม่เพียงพอ อัยการจังหวัดอาจจะสั่งให้พนักงานสอบสวนไปสอบเพิ่มเติม หรือเรียกพยานมาให้อัยการซักถามให้กระจ่าง ต้องปล่อยให้อัยการดูสำนวนก่อน" นายนาเคนทร์ กล่าว
ด้านนายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา อดีตประธานศาลฎีกาที่มีนโยบายคุกไม่ได้มีไว้ขังคนจน และความยุติธรรมต้องไม่มีวันหยุด ให้ความเห็นว่า การที่ผู้ต้องหายังถูกขังอยู่ ทั้งที่เป็นความผิดเล็กน้อย และทำไปเพื่อประทังความหิว อาจเป็นไปได้ว่าเขาไม่รู้ถึงสิทธิในการยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราว ซึ่งปัจจุบันให้สาบานตัวแทนเอาหลักทรัพย์มาวางก็ได้ หรือขอใส่กำไลอีเอ็มแทน และหากข้อมูลเรื่องความยากจน ไม่มีเจตนากระทำผิดเป็นนิสัย ไปถึงผู้พิพากษา อาจใช้ดุลยพินิจไตร่ตรองให้ปล่อยตัวก็เป็นได้
...
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลักการเรื่องคำร้องขอปล่อยตัวต้องได้รับการพิจารณาได้เขียนในรัฐธรรมนูญแล้ว แต่ยังมีคนถูกขังโดยเกินความจำเป็น นายไสลเกษ กล่าวว่า มันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ที่โทษใครไม่ได้เลย อย่างคดีชายขโมยขนุนให้ลูกกิน ที่ต้องมาถูกขัง ตนเชื่อว่าผู้พิพากษาที่ตัดสินคงไม่สบายใจ ท่านจบถึงเนติฯ อังกฤษ แต่เป็นเพราะข้อมูลด้านพื้นเพเดิม ไม่มีไปถึงผู้พิพากษาเลย จึงขอถือโอกาสนี้ตอกย้ำให้ประชาชนทราบว่าการได้รับการปล่อยตัวเป็นสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ศาลจะต้องพิจารณาทันที ประชาชนเองต้องรู้ด้วยว่าตนเองมีสิทธิอะไร นายไสลเกษ กล่าว.