ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ส่งสำนวนคดี "สมรักษ์ คำสิงห์" กับเด็กสาววัย 17 ปี คู่กรณีชาวกาฬสินธุ์ที่เจอในผับแล้วพามาที่ห้องโรงแรม ให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้อง โดยพนักงานสอบสวนมีความเห็นควรสั่งฟ้อง ข้อหาร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปีไปเสียจากบิดามารดา หรือผู้ปกครองฯ และอื่นๆ
จากกรณี น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ชาว จ.กาฬสินธุ์ เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายสมรักษ์ คำสิงห์ อดีตนักมวยเหรียญทองโอลิมปิก และอดีตผู้สมัคร สส.ขอนแก่น พรรคพลังประชารัฐ ฐานล่วงละเมิดทางเพศและกระทำอนาจาร เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ได้ออกหมายเรียกนายสมรักษ์เข้ารับทราบข้อกล่าวหา 4 ข้อหา คือ ร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปีไปเสียจากบิดามารดา หรือผู้ปกครอง ตาม ป.อาญา มาตรา 318, ร่วมกันพาบุคคลอายุเกิน 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปีไปเพื่อการอนาจาร ตาม ป.อาญา มาตรา 283, กระทำอนาจารแก่คนอายุเกิน 15 ปี โดยใช้กำลังประทุษร้าย ตาม ป.อาญา มาตรา 278 และพยายามข่มขืนผู้อื่น ใช้กำลังประทุษร้าย ตาม ป.อาญา มาตรา 76 และมาตรา 80 โดยนายสมรักษ์ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน และส่งคำให้การโดยปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้เอาผิดชายที่ทำหน้าที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่พานายสมรักษ์กับ น.ส.เอ จากสถานบริการไปที่โรงแรม คือ นายพิเชษฐ์ ชิเนหันทา หรือแป๊กโก้ คนสนิทของสมรักษ์ คำสิงห์ รวม 2 ข้อหา คือ ข้อหา ร่วมกันพรากผู้เยาว์ และร่วมกันพาบุคคลอื่นไปทำอนาจาร ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 30 เม.ย. 2567 ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง พ.ต.ท.ศุภฤกษ์ สุวรรณราช รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองขอนแก่น ถึงคดีของสมรักษ์ ทราบว่าในชั้นพนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนคดีส่งให้กับทางอัยการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณาสำนวนคดีดังกล่าวของอัยการที่จะสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง ซึ่งในชั้นพนักงานสอบสวนนั้นได้มีการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องและสำคัญกับคดีหลักๆ ประมาณ 10 ปาก โดยมีความเห็นควรสั่งฟ้อง ในข้อหาร่วมกันพรากผู้เยาว์ฯ และอื่นๆ
...
"มั่นใจว่าพยานหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวกับสำนวนคดีไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ทุกอย่างว่ากันตามกระบวนการตามกฎหมายจากพยานหลักฐานที่ปรากฏในสำนวน โดยในส่วนขั้นตอนหลังจากนี้จะเป็นในส่วนของทางอัยการ หากมีความเห็นสั่งฟ้องก็จะเข้าสู่กระบวนการในชั้นศาลทันที แต่หากมีประเด็นค้านก็จะมีการส่งเรื่องกลับมายังสำนักงานกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ให้สอบสวนเพิ่ม แต่ ณ เวลานี้ยังไม่มีความเห็นให้สอบสวนเพิ่มเติมแต่อย่างใด"