ปิดตำนาน “ป๋าลอ-ชลอ เกิดเทศ” มือปราบพระกาฬ ชื่อชั้นลำดับต้นๆของวงการตำรวจไทย ในวัย 85 ปี หลัง ผอ.รพ.มหาราชนครราชสีมา ออกมายืนยันการเสียชีวิตด้วยภาวะไตวาย ติดเชื้อในกระแสเลือดและระบบทำงานของหัวใจล้มเหลว หลังเข้ารับการรักษาตัวอย่างเงียบๆตั้งแต่กลางเดือน ก.ย. เผยชีวิตสุดโลดโผน ขึ้น-ลง ตลอดอายุราชการ ก่อนจะถูกถอดยศ พล.ต.ท.ในคดีอุ้มฆ่าแม่-ลูก “ศรีธนะขัณฑ์” ภาคต่อจากคดี “เพชรซาอุฯ” อันโด่งดัง

ปิดตำนาน “ป๋าลอ” เปิดเผยเมื่อวันที่ 24 พ.ย. นายแพทย์ ประวีร ตัณฑประภา ผอ.รพ.มหาราชนครราชสีมา เปิดเผยยืนยันว่าป๋าลอ-นายชลอ เกิดเทศ หรืออดีต พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ มือปราบคนดัง เสียชีวิตแล้วอย่างสงบที่ห้องไอซียู ชั้น 2 ตึกการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค รพ.มหาราชนครราชสีมา ด้วยภาวะไตวาย ติดเชื้อในกระแสเลือดและระบบทำงานของหัวใจล้มเหลว ทั้งนี้ นายชลอมีอาการป่วยจากอาการเส้นเลือดในสมองตีบติดเชื้อในกระแสเลือด เบาหวาน ความดัน และโรคไต เข้ารับการรักษาที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา ตั้งแต่กลางเดือน ก.ย. ด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือด มีไข้ขึ้นสูง ถูกหามส่งโรงพยาบาลโดยมีลูกสาวที่ลาออกจากงานมาดูแลอย่างใกล้ชิด

ขณะที่คณะกรรมการวัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม ต.วังหมี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ออกแถลงการณ์เมื่อเวลา 17.00 น. ระบุนายชลอ เกิดเทศ เสียชีวิตด้วยอาการหัวใจล้มเหลวในวัย 85 ปี เมื่อเวลา 16.54 น. ที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา ส่วนกำหนดการพิธีอาบน้ำศพและงานสวดอภิธรรมศพจะแจ้งให้ทราบภายหลัง

...

มีรายงานว่า ก่อนหน้าที่ “ป๋าลอ” จะเสียชีวิตนั้น เมื่อวันที่ 23 พ.ย. มีกระแสข่าวลือตลอดทั้งวันถึงการเสียชีวิตของเจ้าตัวจากสื่อออนไลน์ต่างๆ กระทั่งลูกสาวของ “ป๋าลอ” ออกมายืนยันว่าบิดายังไม่เสียชีวิต ทำให้สื่อออนไลน์ทั้งหลายถึงกับรีบถอดข่าวกันแทบไม่ทัน ก่อน “ป๋าลอ” จะเสียชีวิตลงในวันถัดมา จนผู้ที่คุ้นเคยถึงกับบ่น “ป๋าลอ” สับขาหลอก แม้กระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิตมือปราบที่มีชื่อชั้นลำดับต้นๆของกรมตำรวจ

นายชลอ เกิดเทศ หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ “ป๋าลอ” เป็นบุตรของพันโท แช่ม เกิดเทศ และนางทองคำ เกิดเทศ จบการศึกษาชั้นมัธยมจาก ร.ร.อำนวยศิลป์ เกิดเมื่อวันที่ 28 ส.ค.2481 ที่กรุงเทพ มหานคร หรือจังหวัดพระนครในขณะนั้น ก่อนจะจบจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน รุ่น 15 เข้ารับราชการครั้งแรกที่ สน.นางเลิ้ง ต่อมาย้ายไปดำรงตำแหน่งที่ จ.หนองคาย จ.พระนครศรีอยุธยา จ.สระบุรี จ.ลพบุรี ขึ้นดำรงตำแหน่งรองผู้บังคับการปราบปราม ผู้บังคับการตำรวจภูธร 8 พิษณุโลกเป็นช่วงที่ได้รับฉายา “สิงห์เหนือ เจ้าพ่อแห่งคุ้มพระลอ” ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจภูธร 3 ลำปาง ผู้ช่วยผู้บัญชาการศึกษา รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กระทั่งติดยศ พล.ต.ท.รับตำแหน่งผู้บัญชาการประจำกรมตำรวจ เป็นตำแหน่งสุดท้ายในอาชีพรับราชการตำรวจ ส่วนชีวิตครอบครัวสมรสกับนางสุรางค์ พลทรัพย์ ภายหลังได้หย่ากัน มีบุตรด้วยกัน 3 คนคือนายชอบรบ เกิดเทศ นายชนม์ยืน เกิดเทศ และ น.ส.กุมาริกา เกิดเทศ

“ป๋าลอ” กลายเป็นผู้ต้องหาในคดีอุ้มฆ่าแม่ลูก “ศรีธนะขัณฑ์” คดีดังกล่าวทำให้เจ้าตัวถูกถอดยศ พล.ต.ท. และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทั้งหมด เมื่อวันที่ 5 พ.ย.53 กระทั่งได้พระราชทานอภัยโทษในปี 53 เหลือโทษจำคุกตลอดชีวิต จากนั้นในปี 54 ได้รับการลดโทษเหลือโทษจำคุก 50 ปี และในปี 56 ได้รับการพักโทษและปล่อยตัวออกจากเรือนจำกลางบางขวาง เนื่องจากเข้าหลักเกณฑ์เป็นผู้สูงอายุ

ต่อมาในปี 60 “ป๋าลอ” ในวัย 79 ปี เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดแพร่ธรรมาราม อ.เด่นชัย จ.แพร่ โดยพระอาจารย์กัณหา สุขกาโม เจ้าอาวาส เป็นผู้เทศนาธรรม ทำพิธีปลงผมให้เพื่อเข้าพิธีอุปสมบทหมู่ร่วมกับนาคอื่นๆอีก 30 คน โดยได้นามฉายาว่า “อิสสโร” แปลว่า “ผู้มีอิสระ” และกลับมาจำพรรษาที่วัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ได้ 1 เดือนกับ 10 วัน ก่อนจะลาสิกขาบทและปฏิบัติธรรมอยู่ที่วัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา กระทั่งป่วยเข้ารักษาตัวที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา กระทั่งเสียชีวิตดังกล่าว

นอกจากนี้ “ป๋าลอ” ยังเคยเป็นนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติไทยในช่วงปี 31-38 และโบกมือลาจากตำแหน่งเมื่อตกเป็นผู้ต้องหา คดีสำคัญ

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่