คืบหน้ากรณี รักษาการ ผอ.โรงเรียนบ้านท่าสำราญ อ.โพนทอง จัดอาหารกลางวันนักเรียนด้อยคุณภาพ และไม่แจกนมโรงเรียนให้นักเรียน ผอ.สพป.ร้อยเอ็ด เขต 3 แจง ขณะนี้ให้ยุติปฏิบัติหน้าที่ และต้องตั้ง กก.สอบข้อเท็จจริงก่อน จึงจะลงมติสั่งย้ายได้ ขณะที่เจ้าตัวปฏิเสธที่จะชี้แจง

กรณีกลุ่มผู้ปกครองของนักเรียน 56 คน ของโรงเรียนบ้านท่าสำราญ ต.สว่าง อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ร้องสื่อว่า เดือดร้อนจากโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียน หลังจากที่ นางปวีณา เพิ่มผล รักษาการ ผอ.โรงเรียนบ้านท่าสำราญ แทน ผอ.คนเก่าย้ายและเข้าทำหน้าที่ เมื่อ 13 ธ.ค. 65 ก็เริ่มเกิดปัญหาอาหารกลางวันไม่ได้มาตรฐานและไม่ได้บริโภคอาหารที่ถูกสุขลักษณะ และนมก็เก็บไว้แจกนักเรียน ด้วยการเก็บเข้าห้องล็อกกุญแจและเก็บไว้จนบูด จึงค่อยนำออกมาแจกนักเรียน จนผู้ปกครองทนไม่ไหวจนเกิดเหตุขึ้น และเป็นข่าวฉาวโฉ่ในการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และหลังจากการเปิดเทอม 16 พ.ค. 2566 เป็นต้นมา ก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้น โดยงบอาหารวันละ 1,323 บาท ยิ่งได้อาหารน้อยลงและยิ่งไม่มีคุณภาพ ประเมินว่าใช้เงินน่าจะสูงสุดเพียงไม่เกินวันละ 700 บาท และบอกว่าใช้เงินไปเต็มงบที่กำหนดแล้ว

...

บางวันซื้ออาหารถุงที่บูด ทั้งไข่พะโล้และผัดวุ้นเส้น ลูกชิ้นทอด ไก่ปิ้ง ซึ่งไม่พอเพียงแล้ว ยังนำอาหารบูดเน่าเหม็นมาให้นักเรียนกิน แม้แต่นมโรงเรียนที่มีโควตามาให้ทุกวัน แต่ก็ไม่แจก นร. ซึ่งนอกจากจะแจกหลังอาหารแล้ว ยังต้องมอบให้ นร.ก็ไม่แจก แถมเก็บไว้ในห้องล็อกประตูเก็บกุญแจไว้กับตัวเอง พอมีการทักท้วงจึงยอมเอามาแจก นร. แต่ปรากฏว่านมที่แจกยังเอานมเก่าที่บูดหรือเน่าแล้วมาแจก แต่ไม่ทราบว่านมใหม่ที่ได้มาหายไปไหน และอีกพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมคือเมื่อผู้ปกครองชั้นเด็กเล็กทักท้วงเรื่องนมก็ไม่พอใจ จนผู้ปกครองทนไม่ไหวต้องแจ้ง ตร.มาช่วยเหลือ ซึ่งหลังจาก ตร.มาระงับเหตุก็เกิดอุปทาน อ้างว่าผู้ปกครองและเด็กจะทำร้ายจึงปิดประตูขังไว้ ซึ่งไม่เป็นความจริงอะไรเลย

จากเหตุที่เกิดขึ้นยืนยันว่าต้องการให้ ผอ.เขต ย้าย ผอ.รักษาการออกไปจากโรงเรียน และยังมีการติดป้ายไม่ต้อนรับ และไล่ให้ออกไปจากโรงเรียน โดยมีการติดป้ายต่อต้านไว้ที่หน้าโรงเรียน และได้เร่งลงมือทำอาหารที่ถูกต้องตามหลักโภชนาการมาเลี้ยงนักเรียนในวันเปิดเรียน ด้วยเงินงบอาหารกลางวันที่บริจาคจากนายก อบต.สว่าง เพื่อทำอาหาร ของหวาน ผลไม้ มาเลี้ยงเป็นมื้อกลางวันให้แก่บุตรหลานที่เป็นนักเรียนเอง ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น 

...

ล่าสุดวันนี้ (30 ส.ค. 2566) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายปัญจพล แสงคำไพ ผู้อำนวยการ สพป.ร้อยเอ็ด เขต 3 ได้เรียกตัว นางปวีณา เพิ่มผล รักษาการ ผอ.โรงเรียนบ้านท่าสำราญ เข้าพบ เพื่อตรวจสอบและตั้งกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยได้พยายามเปิดโอกาสให้รักษาการ ผอ.โรงเรียนฯ ตอบข้อกล่าวหา แต่เจ้าตัวปฏิเสธและหลบหน้า ไม่ยอมพูดถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ตามที่มีการร้องเรียนจากผู้ปกครอง โดยเจ้าตัวปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ถึงข้อเท็จจริง โดยตอบสั้นๆ ว่า ทุกอย่างไว้เจอกันที่ศาลเท่านั้น แล้วเดินหนีไป 

เมื่อถามว่า เหตุที่เกิดขึ้นจะมีการออกคำสั่งลงโทษตามความผิด และย้ายออกจากตำแหน่งรักษาการ และสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อเอาผิดกับรักษาการ ผอ.ที่ถูกชาวบ้านร้องเรียน กรณีความไม่ชอบมาพากลหรือไม่ ผอ.สพป.ร้อยเอ็ด เขต 3 กล่าวว่า การที่ผู้ปกครองต้องการให้ย้าย ผอ.รักษาการออกจากโรงเรียนนั้น อำนาจไม่ได้อยู่ที่ตนคนเดียวที่จะสั่งย้ายได้โดยพลการ ซึ่งทุกอย่างกำลังมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงที่ชัดเจนว่าผิดจริง จึงสามารถย้ายออกจากการรักษาการได้ เพราะตำแหน่งรักษาการก็ตั้งขึ้น อกคส. หรือคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาประจำเขตพื้นที่การศึกษาเขต 3 เป็นผู้ดำเนินให้เป็นไปโดยถูกต้องตามระเบียบจึงจะย้ายได้

...

นายปัญจพล กล่าวด้วยว่า หลังจากนี้ทำได้เพียงให้ยุติตำแหน่งรักษาการไว้ และให้คนอื่นทำหน้าที่แทนไปก่อน จนกว่าจะได้ข้อสรุปผลการสอบสวนข้อเท็จจริงจาก อกคส. หรือคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาประจำเขตพื้นที่การศึกษาเขต 3 สอบสวนให้เกิดความชัดเจนก่อน จึงจะดำเนินการใช้มติที่ประชุม ย้ายไปที่อื่นได้ต่อไป.