โรงเรียน 2 แห่ง ในเขตเทศบาลตำบลพิมาย อ.พิมาย ไม่มีงบค่าอาหารกลางวันจนเด็กต้องห่อข้าวมากิน ล่าสุด รองผู้ว่าฯ ลงมารับเรื่อง ยืนยัน ให้ ทต.พิมายส่งงบประมาณให้โรงเรียนไปดำเนินการเรื่องเงินอาหารกลางวันในวันนี้ และ ทั้ง 2 ร.ร.สามารถดำเนินการได้เลย


กรณีโรงเรียนกุลโน ต.ในเมือง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ไม่ได้รับจัดสรรเงินงบประมาณอาหารกลางวันจากเทศบาลตำบลพิมายจนทางโรงเรียนได้ออกหนังสือราชการแจ้งให้ผู้ปกครองห่อข้าวมาให้บุตรหลานในวันจันทร์ที่ 21 ส.ค. 66 เป็นต้นไปนั้น หลังจากมีข่าวออกไปแล้วนั้น ต่อมาเมื่อช่วงเย็นวันที่ 19 ส.ค. 66 ทางโรงเรียนกุลโนได้ออกหนังสือแจ้งผู้ปกครอง ไม่ต้องห่อข้าวมาให้บุตรหลานแล้ว เพราะทางเทศบาลตำบลพิมายจะได้จัดสรรงบประมาณอาหารกลางวันสำหรับนักเรียนมาให้ตามปกติ จึงดำเนินการประกอบอาหารกลางวันให้นักเรียนทุกคนได้รับประทานตามโปรแกรม Thai School Lunch ตามปกติ

ต่อมาเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2566 นายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้รับมอบหมายจากนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ให้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีมีข่าวปรากฏทางสื่อมวลชนว่า โรงเรียน 2 แห่ง ในเขตเทศบาลตำบลพิมาย อ.พิมาย ไม่มีงบประมาณค่าจัดซื้อจัดจ้างอาหารกลางวันสำหรับนักเรียนโดยนายสมเกียรติฯ ได้เดินทางมาที่ห้องประชุมหินทรายเทศบาลตำบลพิมาย อำเภอพิมายจังหวัดนครราชสีมา เพื่อรับฟังข้อชี้แจงจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกรณีเงินอุดหนุนอาหารกลางวันของโรงเรียนกุลโน และโรงเรียนอนุบาลสุริยาอุทัยพิมาย ที่กำลังเป็นปัญหากันอยู่ในขณะนี้

...

โดยมีนางสาวกรรนิการ์ พัฒนพีระเดช นายกเทศมนตรีตำบลพิมายและคณะเป็นผู้ชี้แจง และมีนายประกิจ พุ่มพฤกษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมาเขต 7, นายวุฒิชาติ มวยดี ผู้อำนวยการโรงเรียนกุลโน และนางสาวนิติยา นาคดิลก รองผู้อำนวยการ โรงเรียนอนุบาลสุริยาอุทัยซึ่งเป็นโรงเรียนที่อยู่ในเขตรับผิดชอบของเทศบาลตำบลพิมายเข้าร่วมรับฟังคำชี้แจงโดยเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลพิมายไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปสังเกตการณ์แต่อย่างใด

ก่อนหน้านี้ทางโรงเรียนกุลโนได้มีการออกหนังสือราชการขอความร่วมมือผู้ปกครองให้ห่ออาหารกลางวันมากินเนื่องจากทางโรงเรียนนั้นยังไม่ได้รับเงินสนับสนุนค่าอาหารกลางวันจากทางเทศบาลตำบลพิมายตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคม 2566 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน จนทำให้ทางโรงเรียนต้องแบ่งเงินจากงบประมาณส่วนอื่นมาเป็นค่าอาหารกลางวันให้เด็กนักเรียนกว่า 600 คน ภายในโรงเรียน ถึงแม้สถานการณ์ล่าสุดจากโรงเรียนกุลโนจะได้รับการประสานงานว่า เทศบาลตำบลพิมายจะจัดสรรเงินสนับสนุนค่าอาหารกลางวันมาให้แต่เนื่องจากเป็นประเด็นที่อยู่ในความสนใจของสังคมทางนายสยาม ศิริมงคล ผวจ.นครราชสีมา จึงได้มอบหมายให้นายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ลงพื้นที่ไปรับฟังคำชี้แจงจากทางเทศบาลตำบลพิมายถึงสาเหตุของความล่าช้าในการเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวันของเด็กนักเรียน


นายสมเกียรติ กล่าวว่า วันนี้ได้มารับฟังข้อเท็จจริงต่างๆ ของทุกๆ ฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นทางอำเภอ ทางเทศบาลตำบลพิมายและทางโรงเรียนต่างๆ ที่มีปัญหาที่ยังไม่ได้รับงบประมาณอาหารกลางวันมีโรงเรียนกุลโนและโรงเรียนอนุบาลสุริยาอุทัยพิมาย จริงๆ แล้วงบประมาณจากกรมการปกครองส่วนท้องถิ่นได้แจ้งมาตั้งแต่สิ้นเดือนกรกฎาคม 2566 แล้วว่าจะมีเงินโอนเข้ามา และวันที่ 8 สิงหาคม ทางจังหวัดได้มีหนังสือมาที่อำเภอและอำเภอก็แจ้งไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งในพื้นที่ และเงินก็ได้เข้าบัญชีของทางท้องถิ่นตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม 2566 และทางเทศบาลตำบลพิมายก็ไปเปิดระบบดูในวันที่ 7 สิงหาคม และในวันที่ 8 สิงหาคมก็ได้มีเอกสารออกมาแล้ว ระหว่างบันทึกข้อตกลงของโรงเรียนกับเทศบาล

...

รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวต่อว่า ตรงนี้เองอาจจะเป็นการดำเนินการในขั้นตอนที่ทำให้เกิดความล่าช้าซึ่งเป็นขั้นตอนที่บกพร่องของทางเทศบาลตำบลพิมายเอง ซึ่งในตอนนี้เราก็ยังไม่ทราบว่าไปติดขัดอยู่ตรงไหน จึงได้มอบหมายให้นายจิรัฏฐไชย จี่พิมาย นายอำเภอพิมาย ร่วมกับท้องถิ่นจังหวัดจะต้องตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง และนำสู่การตั้งกรรมการสอบวินัยต่อไป

นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า สำหรับอำเภอพิมายมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งหมด 13 แห่ง แต่มีเฉพาะเทศบาลตำบลพิมายแห่งเดียวเท่านั้นที่มีปัญหา และที่อำเภอต่างๆ ในจังหวัดนครราชสีมาก็ไม่มีที่ใดมีปัญหาทั้งนั้น และที่ประชุมในวันนี้ได้ให้ทางเทศบาลตำบลพิมายดำเนินการเรื่องเงินอาหารกลางวันของทั้ง 2 โรงเรียนคือโรงเรียนกุลโนและโรงเรียนอนุบาลสุริยาอุทัยพิมายให้แล้วเสร็จภายในวันนี้ พรุ่งนี้เงินจะต้องไปเข้า 2 โรงเรียนนี้เพื่อที่จะสามารถไปเบิกจ่ายและไปดำเนินการได้เลย

...

ส่วน น.ส.กรรณิการ์ พัฒนพีระเดช นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลพิมายไม่ได้ให้ข้อมูลใดๆ กับผู้สื่อข่าว บอกเพียงว่าตามที่ท่านรองผู้ว่าฯ ให้ข้อมูลไปแล้ว.