เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่งวงที่บุรีรัมย์ เดือดร้อนอย่างหนัก หลังจากพ่อค้าคนกลางอ้างตลาดปิดไม่มารับซื้อไก่งวงที่เลี้ยงไว้ร่วม 2 ปีจากวิกฤติโควิด ทำให้ต้องแบกภาระค่าอาหารกว่า 1,000 ตัว วันละ 5 พันบาท วอนรัฐช่วยหาตลาด หรือ ร้านอาหาร และผู้สนใจมาซื้อได้

เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่งวง ที่ ต.สะแกซำ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ร้องสื่ออยากให้เป็นตัวกลางประสานพ่อค้ารับซื้อห่าน หรือประชาชนทั่วไปมาอุดหนุน หลังประสบปัญหาขาดทุนอย่างหนัก เพราะขายไม่ออกมานานร่วม 2 ปี

นางฉลวย จันทีประโคน อายุ 49 ปี เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงไก่งวง ในพื้นที่หมู่ 12 ต.สะแกซำ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เจ้าของฟาร์ม กล่าวว่า ตนมีสามีเป็นชาวต่างชาติ เริ่มเลี้ยงไก่งวงมาเมื่อหลายปีที่ผ่านมาเริ่มจากเล็กมาจนใหญ่เลี้ยงกว่า 2,000 ตัว จดตั้งเป็นบริษัท มีอุปกรณ์ทันสมัยครบชุด มีเครื่องฟักไข่เพื่อขยายพันธุ์อย่างดี ก่อนหน้านั้นได้มีพ่อค้ามารับซื้อถึงบ้านใน กก.ละ 150 บาทจนแทบผลิตไม่ทัน ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตลาดปิดพ่อค้ารับซื้อไม่มาซื้อ จึงเริ่มแบกภาระตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา จนกระทั่งโรคโควิด-19 ซาลง หวังว่าพ่อค้าจะมารับซื้ออีก ติดต่อไปได้รับคำตอบว่า "ตลาดปิด" จะรับซื้อไก่งวงตัวใหญ่น้ำหนักตั้งแต่ 6 กก.ขึ้นไป ขณะที่ไก่งวงเลี้ยงไว้น้ำหนักแค่ 3-5 กก.เท่านั้น เป็นแบบพันธุ์พื้นเมือง

...

นางฉลวย กล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้ยังพอสู้ไหว เอาเงินเก็บของสามีมาซื้ออาหารให้ไก่งวงเพราะเป็นเรื่องจำเป็น พยายามโพสต์ขายแต่ได้เพียงไม่กี่ตัวเพราะคนต่างจังหวัดไม่นิยมกินเนื้อไก่งวง แต่ยิ่งเวลาผ่านไปยิ่งเจ็บ เพราะไก่จะต้องกินอาหารทุกวันๆ ละ 3 เวลา จึงจำเป็นต้องลดการให้อาหารลงเหลือวันละ 2 เวลา ซึ่งจะต้องซื้ออาหารครั้งละ 15,000 บาท กินได้แค่ 3-4 วันเท่านั้น ขณะรายได้เข้ามาไม่มีเลย ตอนนี้ไม่เหลือเงินจะซื้ออาหารห่านแล้ว จึงประกาศขายรถบรรทุก 6 ล้อที่มีอยู่ เพื่อซื้ออาหารสัตว์

จึงอยากจะเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของตนในขณะนี้ หรือประชาชนทั่วไปสนใจจะซื้อไก่งวงไปรับประทาน มาอุดหนุนเพื่อให้ตนไปต่อได้จะขอบคุณเป็นอย่างมาก.

...