ตำรวจไซเบอร์ถือหมายศาลบุกค้นบ้านสาวยโสธร นายหน้าซื้อขายซิมม้า ผงะเจอซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือลงทะเบียนเปิดเบอร์พร้อมใช้งานอื้อ เจ้าตัวยอมรับขายซิมการ์ดในชื่อบุคคลอื่นจริง เปิดเพจจำหน่ายไปได้กว่า 2 พันเบอร์ เร่งตรวจสอบกับผู้ให้บริการเครือข่าย หลังพบซิมส่วนใหญ่ถูกส่งไปแถวตะเข็บชายแดนไทย-กัมพูชา คาดแก๊งคอลเซ็นเตอร์นำไปใช้ต้มตุ๋นหลอกลวงเหยื่อ

บุกตะครุบสาวยโสธรขายซิมม้า พบส่งไปขายพื้นที่ตะเข็บชายแดนกว่า 2,000 ซิม คาดนำไปให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ก่อคดีตุ๋นชาวบ้าน เมื่อวันที่ 18 พ.ค. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 สั่งการให้ พ.ต.อ.มรกต แสงสระคู ผกก.2 บก.สอท.3 พ.ต.ต.ธเนตร กาละกุล สว.กก.2 บก.สอท.3 นำหมายศาลไปจับกุม น.ส.วรภาชา บุญเล่ห์ อายุ 35 ปี ชาว จ.ยโสธร ในความผิดฐาน “เป็นธุระจัดหาฯเพื่อให้มีการซื้อหรือขายเลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนามของบุคคลใดบุคคลหนึ่งแล้ว แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้” พร้อมยึดบัญชีธนาคาร, โทรศัพท์มือถือ, ซิมการ์ดพร้อมเบอร์โทรศัพท์ 26 ซิม กล่องพัสดุบรรจุหีบห่อเตรียมจัดส่งสินค้าให้ลูกค้า ภายในกล่องพบซิมการ์ดโทรศัพท์อีก 6 ซิม

คดีนี้สืบเนื่องจาก บช.สอท. ตรวจสอบการกระทำความผิดตามสื่อออนไลน์ ระดมกวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะขบวนการซื้อขายซิมผีบัญชีม้า สร้างความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชน บก.สอท.3 เร่งสืบสวนหาข่าวในช่องทางออนไลน์อย่างต่อเนื่อง พบกลุ่มเฟซบุ๊กชื่อ “ซิม sim” ประกาศซื้อขายซิมการ์ดโทรศัพท์ที่ลงทะเบียนแล้วโดยบุคคลอื่น มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “คุณนุ่น เบอร์มงคล” โพสต์ข้อความระบุว่า “ดีแทคลงทะเบียนไม่เปิดเบอร์มี 300 เบอร์” เจ้าหน้าที่ได้ออกอุบายติดต่อซื้อซิมโทรศัพท์ดังกล่าว ผู้ต้องหาแจ้งให้ชำระเงินเข้าบัญชีธนาคาร ชื่อบัญชี น.ส.วรภาชา บุญเล่ห์ ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้รับการจัดส่งพัสดุ ตรวจสอบพบว่าเป็นซิมการ์ดที่ถูกลงทะเบียนด้วยบุคคลอื่นที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ ถูกส่งมาจากบ้านแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.สงยาง อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร ขออนุมัติหมายศาล จังหวัดยโสธร เข้าตรวจค้นพบของกลางทั้งหมดอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว

...

จากการสอบปากคำ น.ส.วรภาชาให้การรับสารภาพในเรื่องขายซิมการ์ดจริง แต่ยังคงให้การปฏิเสธในเรื่องของการได้มาของซิมโทรศัพท์และถูกนำไปใช้กับขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จากการตรวจสอบซิมการ์ดทั้งหมดพบว่าซิมโทรศัพท์ได้ลงทะเบียนเป็นชื่อบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ชื่อ น.ส.วรภาชา ผู้ต้องหา และจากแนวทางสืบสวนพบว่าขบวนการดังกล่าวจะตระเวนกว้านซื้อซิมที่ลงทะเบียนไว้เพื่อรวบรวมขายให้กับเหล่ามิจฉาชีพ ในรายของ น.ส. วรภาชาพบจำหน่ายซิมที่ลงทะเบียนแล้วไปมากกว่า 2,000 เลขหมาย และถูกส่งไปยังจังหวัดแถบตะเข็บชายแดนไทย-กัมพูชาด้วย ชุดสืบสวนจะขยายผลหาความเชื่อมโยงของเครือข่ายดังกล่าว พร้อมวางมาตรการร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่ายต่อไป