ครอบครัวชาวนาที่ยโสธรฝากเงินไว้กับธนาคารแห่งหนึ่ง ผ่านไป 15 ปีธนาคารเดิมมีควบรวมและเปลี่ยนชื่อ ถือบัญชีจะไปถอน พนักงานแจ้งว่าบัญชีถูกระงับ ไม่พบฐานข้อมูลบัญชีในระบบ และจะขอเจาะสมุดบัญชี

วันที่ 31 ตุลาคม 2565 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปที่บ้านของ นางสำราญ ศักดิ์ศรี อายุ 59 ปี ชาวบ้านคำเม๊ก ตำบลทุ่งแต้ อ.เมืองยโสธร หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนว่า ได้นำสมุดบัญชีเงินฝากของธนาคารนครหลวงไทย สาขายโสธร ที่มีเงินคงเหลือในบัญชีประมาณหนึ่งหมื่นบาท และไม่ได้เคลื่อนไหวบัญชีนานถึง 15 ปี เข้าไปสอบถามกับทางธนาคาร แต่ได้รับการตอบกลับว่าบัญชีดังกล่าวถูกระงับ และไม่พบฐานข้อมูลในระบบ

นางสำราญ กล่าวว่า ตนมีอาชีพทำนาและรับจ้างทั่วไป โดยเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2550 ได้ไปเปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์กับธนาคารนครหลวงไทย สาขายโสธร เลขบัญชี 591-2-08527-5 โดยไม่ได้ทำบัตร ATM ซึ่งฝากเงินจำนวน 12,000 บาท และฝากเงินเพิ่มเติมจนมียอด 25,545.37 บาท กระทั่งช่วงวันที่ 17 ธันวาคม 2550 ได้ไปถอนเงินจำนวน 1 หมื่นบาท คงเหลือในบัญชี 10,606.73 บาท หลังจากนั้นก็ไม่ได้มีการเคลื่อนไหวบัญชีอีกเลย

กระทั่งเมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ตนกับสามีจะเข้าไปเปิดบัญชีที่ธนาคารออมสินในตัวเมืองยโสธร และค้นกระเป๋าเอกสารพบสมุดบัญชีของธนาคารนครหลวงไทย มียอดเหลือประมาณ 1 หมื่นบาท จึงได้ชวนสามีเข้าไปถอนเงินออกมาใช้จ่าย เมื่อไปถึงธนาคารซึ่งเป็นที่ตั้งของธนาคารนครหลวง ก็พบว่าได้เปลี่ยนชื่อธนาคารธนชาต จึงสอบถามเจ้าหน้าที่ รปภ. จึงทราบว่าเป็นธนาคารเดียวกัน จึงขึ้นไปขอเบิกเงินในสมุดบัญชี โดยมีเจ้าหน้าที่ของธนาคารสอบถามกันไปมาสักพักใหญ่จนได้คำตอบว่าบัญชีดังกล่าวถูกระงับ และไม่มีฐานข้อมูลในระบบ พร้อมทั้งขอเจาะสมุดบัญชีของตน ด้วยความมึนงง ตนดินออกจากธนาคารโดยไม่ได้สอบถามอะไรเพิ่มเติม จนลูกชายทราบเรื่องจึงไม่ยอม และมาร้องสื่อมวลชนให้ช่วยเหลือในการตรวจสอบครั้งนี้ด้วย พร้อมยืนยันว่าไม่เคยไปถอนเงินจากสมุดบัญชีเป็นเวลา 15 ปีแล้ว และไม่เคยได้รับหนังสือแจ้งเตือนใดๆ ของธนาคารติดต่อมาเลย 

...

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวจะได้ติดต่อเพื่อสอบถามข้อมูลกับทางธนาคารฯ ว่ามีข้อผิดพลาด หรือมีหลักฐานว่าฝ่ายผู้ร้องได้ทำธุรกรรมใดๆ ก่อนหน้านี้แล้วหลงลืมไปหรือไม่.