หนุ่มพิการเจอพิษโควิด 2 ปี บ้านและรถถูกยึด ขอจิตอาสาช่วยขนของเพราะเงินไม่พอจะจ้างรถขน บอกน้ำตาจะไหล บ้านหลังแรกซื้อจากน้ำพักน้ำแรง แต่สุดท้ายไปต่อไม่ไหว ขอกลับไปตั้งหลักที่บ้านเมียที่อุดรฯ ไม่นยอมแพ้ขอฮึดสู้อีกครั้ง

วันที่ 30 ก.ค. 65 เพจบ้านดุงอัพเดท โดยนายวีระพล รักเสมอวงศ์ รองประธานสภาเทศบาลเมืองบ้านดุงและแอดมินเพจ ได้ช่วยเหลือขนของออกจากบ้านลูกเพจที่ทักเข้ามาขอความช่วยเหลือ ว่าบ้านจะถูกยึด เพราะค้างจ่ายติดต่อมาหลายเดือนจนมีหมายศาลมาติดไว้หน้าบ้าน จึงได้เดินทางไปที่บ้านเอื้ออาทรสูงเนิน อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา พบกับเจ้าของบ้านคือ นายปอ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี ชาวบ้านกดดู่ ต.นาไหม อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี และเป็นคนพิการขาขวา

นายปอ บอกว่า ได้ขอความช่วยเหลือจากเพจฯ เพื่อขนของภายในบ้าน ทั้งตู้เสื้อผ้า สิ่งของภายในบ้านหลายอย่าง กลับบ้านภรรยาที่ อ.บ้านดุง เพื่อจะไปตั้งหลักฮึดสู้อีกครั้ง หลังจากบ้านจะถูกยึด และขอขอบคุณน้ำใจคนไทยที่ไม่ทิ้งกัน โดยบ้านหลังนี้เก็บเงินมาทั้งชีวิต ซื้อบ้านมื่อหลายปีก่อนเป็นบ้านเอื้ออาทร ตอนนั้นดีใจมากที่ได้มีบ้าน ผ่อนเดือนละ 5,000 บาท โดยตนทำงานโรงงานและหารายได้พิเศษด้วยการขายดอกไม้สด แต่เจอวิกฤติโควิดเมื่อ 2 ปีก่อน ทำให้สถานการณ์ทางการเงินย่ำแย่ลงเรื่อยๆ ทั้งบ้านและรถยนต์ถูกธนาคาร ไฟแนนซ์ทวงถามมาตลอด สุดท้ายส่งต่อไปไม่ไหวเขาจึงติดตามยึด ล่าสุดมีเอกสารของศาลฯ มาติดหน้าบ้าน ทำให้รู้ว่าบ้านถูกยึดแน่แล้ว จึงต้องปล่อยวาง และหลังจากนี้จะลาออกจากพนักงานของโรงงานเพื่อกลับไปอยู่บ้านกับลูกและภรรยา ที่ผ่านมาทุกอย่างเหมือนทางตัน หาเงินไม่ทัน วันนี้บ้านถูกยึดแล้วไม่มีที่จะอยู่ จึงขอความช่วยเหลือจากทางเพจ เพราะไม่มีเงินเหมารถขนของกลับบ้าน เขาจะเอา 8,000 บาท แต่หยิบยืมมาได้ 3,000 บาทเท่านั้น

...

“ผมกับภรรยาทำงานเก็บเงินมาทั้งชีวิตซื้อบ้านหลังนี้ ดีใจที่มีบ้านเป็นของตัวเอง แต่ไม่คิดว่าวิกฤติโควิดจะหนักหนาสาหัสถึงเพียงนี้ แต่ก็ยังดีมีภรรยาและลูก 2 คนให้กำลังใจตลอด แม้บ้านและรถยนต์จะถูกยึดแต่ผมจะไม่ท้อ ผมจะเดินทางกลับบ้านที่ จ.อุดรธานี ฮึดสู้ไปค้าขายอีกครั้ง” นายปอพูดไปน้ำตาคลอเบ้าไป

ขณะที่ นายวีระพล รักเสมอวงศ์ รองประธานสภาเทศบาลเมืองบ้านดุง กล่าวว่า เข้าใจความรู้สึกและความลำบาก จึงมาช่วยด้วยใจและให้เก็บเงิน 3,000 บาทเอาไว้ให้ครอบครัวลูกเมียไปตั้งหลักที่บ้าน.