เทศาลตำบลจอหอ โคราช เรียกเงินเบี้ยผู้สูงอายุคืนจากคุณยายวัย 73 ปี หลังจ่ายต่อเนื่องมากว่า 11 ปี เกือบ 8 หมื่นบาท ลูกชายโวย เจรจาแล้ว แต่เงินที่เรียกเก็บเป็นเงินก้อนใหญ่ จ่ายไม่ไหว ขอพึ่งศาลช่วยไกล่เกลี่ย


วันที่ 26 ม.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นายมฤคินทร์ เขียนจอหอ อายุ 42 ปี ลูกชายของ นางประจวบ ผะดาวัลย์ อายุ 73 ปี ผู้สูงอายุชราภาพ ซึ่งเป็นชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 3 ตำบลจอหอ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ว่า ได้รับหนังสือขอเรียกคืนเงินสงเคราะห์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่จ่ายให้กับนางประจวบ ผู้เป็นแม่ ย้อนหลังตั้งแต่เดือนเมษายน 2552 ถึงเดือนพฤศจิกายน 2563 เป็นระยะเวลากว่า 11 ปี เป็นจำนวนเงิน 76,400 บาท และรวมดอกเบี้ยเป็นยอดจำนวน 77,737 บาท

นายมฤคินทร์ เขียนจอหอ ลูกชายของนางประจวบ ผะดาวัลย์ ผู้ถูกเรียกคืนเงินสงเคราะห์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้บิดาของตน คือ ร้อยตำรวจตรี สัมพันธ์ ผะดาวัลย์ รับราชการเป็นตำรวจตระเวนชายแดน และได้เสียชีวิตลงจากการต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ในพื้นที่อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม เมื่อปี 2515 ทำให้นางประจวบ แม่ของตนได้รับเงินบำนาญพิเศษตั้งแต่นั้นมา

...

จนกระทั่งเมื่อช่วงปลายปี 2562 ที่ผ่านมา ได้มีหนังสือจากเทศบาลตำบลจอหอ อ.เมืองนครราชสีมา ขอเรียกคืนเงินสงเคราะห์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจากแม่ของตน ซึ่งปัจจุบันแม่ของตนต้องรักษาอาการป่วยที่ขาขวาเดินไม่สะดวก ต้องใช้ไม้เท้าค้ำยันเวลาเดินตลอดเวลา และแม่มีรายได้จากเงินบำนาญพิเศษเพียงทางเดียว ไม่มีรายได้อย่างอื่น โดยก่อนหน้านี้ตนเองได้เข้าไปสอบถามกับทางเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลจอหอแล้ว แต่ทางเทศบาลขอเรียกเก็บเงินคืนในอัตราที่สูง โดยขอเรียกเก็บเงินคืน 3 เดือนแรก ในอัตราเดือนละ 18,000 บาท จากนั้นเดือนที่ 4 เรียกเก็บเงินในอัตราเดือนละ 1,100 บาท ซึ่งตนได้เจรจาขอผ่อนจ่ายเงินก้อนที่ต้องจ่ายคืน 3 เดือนแรก เพราะเป็นอัตราที่สูงเกินไป ครอบครัวของตนจ่ายคืนไม่ไหว แต่ทางเทศบาลไม่ยอม และได้ส่งเรื่องไปฟ้องศาลแขวงนครราชสีมา

ล่าสุดศาลแขวงนครราชสีมาได้มีหมายเรียกนางประจวบ ผะดาวัลย์ แม่ของตน ในฐานะจำเลย ไปพบที่ศาลเพื่อไกล่เกลี่ย ให้การแก้ข้อหาแห่งคดี และสืบพยาน ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งตน และแม่ พร้อมที่จะเดินทางไปศาล ให้ศาลเป็นที่พึ่ง ช่วยพูดคุยเจรจาไกล่เกลี่ยให้ความเป็นธรรมให้กับครอบครัวของตน