ครอบครัวเหยื่อลิขสิทธิ์กระทงผวา หวั่นไม่ปลอดภัยที่บ้านมีแต่ผู้หญิงและเด็ก ยังเร่งหารายได้ทำกระทงขาย เข็ดไม่มีรูปการ์ตูนแล้ว ผู้การฯโคราชเผยสรุปคดีสัปดาห์หน้า จ่อหมายจับหัวโจก ส่วนสภาทนายออกมาป้องเหยื่อลิขสิทธิ์ ขณะที่สาวลาวแจ้งความถูกตัวแทนลิขสิทธิ์รีดเงิน 3 หมื่นบาท ล่อสั่งของทางเฟซบุ๊ก เป็นกลุ่มเดียวกับเหยื่อกระทง

จากคดีละเมิดลิขสิทธิ์กระทงพ่นพิษ หลังนายประจักษ์ โพธิผล พร้อมพวกล่อซื้อจับกระทงละเมิดลิขสิทธิ์ติดรูปการ์ตูนริลัคคุมะและแมวการ์ฟิลด์จาก น.ส.เอ อายุ 15 ปี คุมตัวไปที่ สภ.เมืองนครราชสีมา พร้อมเรียกเงินค่าปรับ 50,000-400,000 บาท แต่แม่ น.ส.เอขอเจรจาต่อรองกันจนเหลือ 5,000 บาท ตัวแทนลิขสิทธิ์ยอมถอนแจ้งความ ต่อมาเรื่องเริ่มบานปลาย กระแสโซเชียลมีเดียเริ่มวิจารณ์พฤติกรรมกลุ่มตัวแทนลิขสิทธิ์ ผู้บริหารบริษัท ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) ตัวแทนลิขสิทธิ์จำหน่ายสินค้าบริษัท ซานเอ็กซ์ จำกัด ประเทศญี่ปุ่น เข้าพบตำรวจยืนยันรูปการ์ตูนดังกล่าวไม่เข้าข่ายละเมิดลิขสิทธิ์ อีกทั้งบริษัท เวอริเช็ค จำกัด ที่นายประจักษ์อ้างเป็นตัวแทนลิขสิทธิ์ถูกยกเลิกไปแล้ว ขณะที่ตำรวจจ่อหมายเรียกนายประจักษ์ หัวหน้าทีมมาสอบสวน ส่วนฝ่ายกฎหมายบริษัทเวอริเช็ค หอบเอกสารพบตำรวจยันการยกเลิกสัญญาเกิดหลังจับกุมแล้ว

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 10 พ.ย. พล.ต.ต.สุจินต์ นิจพานิชย์ ผบก.ภ.จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับตัวแทนลิขสิทธิ์ 40 ราย พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด และรอเอกสารการยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรจากบริษัทลิขสิทธิ์ตัวการ์ตูนที่เกี่ยวข้อง มั่นใจว่าภายในสัปดาห์หน้าจะรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้อง

ส่วนพ่อ น.ส.เอเปิดเผยว่า คดีของน้องเอให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนไปหมดแล้ว อยากให้ตำรวจดำเนินคดีกับตัวแทนลิขสิทธิ์ให้ถึงที่สุด และให้คดีจบโดยเร็ว ช่วงนี้ครอบครัวยังห่วงเรื่องความปลอดภัย เพราะที่บ้านมีแต่ผู้หญิงและเด็ก ส่วนจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับตัวแทนลิขสิทธิ์หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับแนวทางการสอบสวน และว่ากันไปตามพยานหลักฐานข้อเท็จจริง ช่วงนี้ครอบครัวเร่งทำกระทงขนมปังกรวยไอศกรีมหลากหลายสีสัน เพื่อนำไปขายในงานลอยกระทงที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา คาดจะทำกระทงได้ประมาณ 100 ชิ้น ขายในราคาชิ้นละ 30-50 บาท กระทงที่ทำขึ้นจะไม่มีลาดลายการ์ตูนใดๆ ที่อาจเข้าข่ายเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์อีก

...

ด้านนายบัญชา ปรมีศณาภรณ์ ทนายความและอนุกรรมาธิการประจำคณะกรรมาธิการการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริตและประพฤติมิชอบวุฒิสภา กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า เรื่องนี้ถือเป็นภัยสังคมที่ร้ายแรงที่จะต้องป้องกันและปราบปรามนำกลุ่มมิจฉาชีพ และผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับโทษตามกฎหมาย เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างทำความเดือดร้อนให้ผู้ประกอบอาชีพโดยสุจริต สำนักงานตำรวจแห่งชาติน่าจะพิจารณาคดีเกี่ยวกับละเมิดลิขสิทธิ์ คดีเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หากมีบุคคลใดกล่าวอ้างจับกุมผู้กระทำผิดประจำสถานีตำรวจ เจ้าพนักงานตำรวจจะต้องแจ้งให้ทนายความอาสาให้บริการคำปรึกษาด้านกฎหมาย

ว่าที่ ร.ต.ถวัลย์ รุยาพร นายกสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วยนายพรศักดิ์ สังข์สังวาลย์ กรรมการสภาทนายความภาค 5 คณะกรรมการเดินทางมาตรวจเยี่ยม โครงการทนายอาสาช่วยเหลือประชาชนที่ สภ.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ เป็นโครงการนำร่องช่วยเหลือทางกฎหมายฟรีให้กับพี่น้องประชาชน 150 สถานีตำรวจทั่วประเทศ ว่าที่ ร.ต.ถวัลย์เปิดเผยว่า ขอความร่วมมือไปยังสภาทนายความในภาคต่างๆทั่วประเทศให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อของบุคคลที่แอบอ้างเป็นบริษัทลิขสิทธิ์ เข้าไปล่อซื้อจับกุม และเรียกรับเงิน ขณะนี้มีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อแล้วในหลายจังหวัด ผู้เสียหายสามารถเข้าไปขอรับคำปรึกษาและขอความช่วยเหลือทางกฎหมายจากสภาทนายความโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

ขณะที่ น.ส.พรมหอม หลวงทิลาด อายุ 31 ปี ชาวลาว พนักงานบริษัทรับเหมาติดตั้งจานดาวเทียม เข้าพบ ร.ต.อ.พีรพงษ์ โพธิ์ศรี รอง สว. (สอบสวน) สน.พญาไท เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีข่มขู่กรรโชกทรัพย์ กับนายภูมิภากร ถินสุวรรณ์ หรือนายนัน กิ่งเพชร เป็นคนเดียวกันที่จับกุมลิขสิทธิ์กระทง น.ส.เอ อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ปราบปรามทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัทนิว สตาร์ มีเดีย จำกัด ก่อนถูกจับส่งพนักงานสอบสวน สน.พญาไท ดำเนินคดีในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่น จากนั้นถูกข่มขู่กรรโชกทรัพย์เรียกเงิน 30,000 บาท เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 ส.ค.61

น.ส.พรมหอมเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 12 ส.ค.61 ตนโพสต์ภาพแก้วเก็บความเย็นลายการ์ตูนวันพีซ เพื่อนรุ่นพี่มอบให้เป็นของขวัญวันเกิด จากนั้นมีข้อความจากผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ใช้รูปโปรไฟล์ขายเครื่อง สำอางติดต่อขอซื้อแก้วระบุว่า ต้องการแก้วลายการ์ตูนวันพีซ 10 ชุด ตกลงกันในราคาชุดละ 390 บาทรวม 3,900 บาท ช่วงนั้นไม่มีของ ผู้ที่ติดต่อขอซื้อยืนยันว่าจะรอพร้อมโอนเงินมัดจำมาให้ 500 บาท แต่ตนหาสินค้าให้ไม่ได้ เพราะไม่ได้ขายของเป็นอาชีพ ที่รับเพื่อเป็นรายได้เสริม ติดต่อกลับไปว่าจะขอโอนเงินคืน แต่ผู้สั่งของต้องการสินค้ามาก ญาติพยายามช่วยหาจนพบลายการ์ตูนวันพีซเป็นตัวละคร “ลูฟี่” แต่เป็นคนละรูปกับที่โพสต์ไว้ นัดส่งของเช้าวันที่ 15 ส.ค.61 ที่สถานีรถไฟฟ้าพญาไท นายนันอ้างเป็นตัวแทนลิขสิทธิ์คุมตัวมาที่ สน.พญาไท

น.ส.พรมหอมเปิดเผยอีกว่า นายนันนำเอกสารมาให้อ่าน พร้อมอ้างตัวเป็นตัวแทนบริษัทลิขสิทธิ์เรียกเงิน 60,000 บาท กระทั่งเจรจาต่อรองตกลงจ่าย 30,000 บาทต่อหน้าพนักงานสอบสวน ขั้นตอนการเจรจาค่าลิขสิทธิ์ ตำรวจไม่ได้เกี่ยวข้อง ต่อมาเห็นข่าว น.ส.เอ.ถูกกลุ่มตัวแทนลิขสิทธิ์ล่อซื้อกระทง ตนจำได้ว่านายนันเป็นบุคคลที่เคยเรียกเงินกับตน รีบเดินทางแจ้งความดำเนินคดีในข้อหากรรโชกทรัพย์ และข่มขู่ให้หวาดกลัว

ด้าน ร.ต.อ.พีรพงษ์กล่าวว่า เบื้องต้นสอบปากคำผู้เสียหาย และรับคดีเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาในข้อหากรรโชกทรัพย์ ส่วนข้อหาข่มขู่ต้องดูว่าจะเข้าข่ายข่มขู่หรือไม่ จะนัดผู้เสียหายมาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง หากพบว่าเข้าข่ายกระทำผิดในข้อใด จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป