ภูมิปัญญาท้องถิ่นอีสาน คนโบราณมักจะนำผักพื้นบ้านมาโขลกกับข้าวเหนียวแช่น้ำ หรือข้าวเบือ มาปั้นเป็นก้อนแล้วนำไปตากแดดให้แห้ง เก็บไว้ใช้ผสมอาหารให้มีรสชาติน่ารับประทานมากขึ้น...คนรุ่นเก่าเรียกก้อนผักนี้ว่า แป้งนัว หรือนัว ในภาษาอีสาน แปลว่า “อร่อย+กลมกล่อม”

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสกลนคร ให้ความสนใจแป้งนัว ทำการศึกษาวิจัยพัฒนาก้อนแป้งนัวให้กลายมาเป็นผงนัวบรรจุซอง เพื่อใช้สะดวกรวดเร็ว และเก็บรักษาไว้ได้นานเป็นปี ขยายผลสู่ชุมชน โดยมี กลุ่มแม่บ้านบ้านยางโล้น ต.โคกภู อ.ภูพาน จ.สกลนคร เป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่เข้าร่วมรับการฝึกอบรม จนสามารถนำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ออกจำหน่ายสร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ โดยได้รับการสนับสนุนอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือจาก สำนักปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร (สปก.) 

...

“ผงนัวของเราใช้แทนผงชูรสได้เลย ไม่ต้องกลัวเป็นพิษต่อร่างกาย แถมยังดีต่อสุขภาพเพราะทำมาจากพืชผักธรรมชาติ” นวลมณี นุชศิริ ประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านทำผงนัวบ้านยางโล้น คุยถึงคุณสมบัติของผงนัว สูตรที่ตัวเองทำขึ้นมา ประกอบไปด้วยสารพัดผัก...มีตั้งแต่ ใบผักหวาน, ใบมะรุม, ใบหม่อน, ใบกระเทียม, ใบหอม, ใบมะขาม, ใบกระเจี๊ยบ, ผักโขมทั้งต้น, ใบส้มป่อย, ใบน้อยหน่า, ใบชะมวง, ใบกุยช่าย ฯลฯ

เนื่องจากเป็นผักที่มีรสและกลิ่นช่วยชูรสอาหารได้เป็นอย่างดี

โดยเลือกใบที่ไม่แก่ไม่อ่อนจนเกินไปมาทำการตากแห้ง แล้วนำมาหั่นบดผสมให้เข้ากัน ในอัตราส่วนที่แตกต่างกันไป ผักบางอย่างใส่มาก บางอย่างใส่น้อยแต่ผักที่ใส่ในอัตราส่วนมาก คือ ผักหวาน กับ ใบหม่อน เนื่องจากเป็นผักที่มีสารเพิ่มรสชาติอาหารมากที่สุด รองลงมาเป็นใบมะรุม...และที่ใส่น้อยสุด คือ ใบน้อยหน่า เนื่องจากมีพิษมีฤทธิ์ฆ่าเหา อะไรก็แล้วแต่ถ้ามีพิษ และมีรสขม หากใส่แต่น้อย ถือว่าเป็นยา

...

จากนั้นนำข้าวเหนียวหรือข้าวกล้องแช่น้ำ นึ่งให้สุกเติมเกลือไอโอดีนลงไปนำไปอบแห้ง แล้วไปบดผสมกับผักที่ป่นไว้เรียบร้อยแล้ว ให้ข้าวและผักผสมเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นบรรจุซอง

ทุกอย่างฟังดูเหมือนง่าย นวลมณี บอกว่า กว่าจะทำได้แต่ละครั้ง ต้องจะใช้เวลาเกือบปีในการสะสมผักต่างๆ เนื่องจากผักแต่ละชนิดที่นำมาทำผงนัวให้ผลผลิตออกมาไม่ตรงกัน... ผักหวานมักจะมีมากในฤดูฝน ใบกระเทียมมีมากในฤดูหนาว สมาชิกจึงต้องช่วยกันเก็บวัตถุดิบมาตากแห้งไว้ให้มากๆ เมื่อได้ปริมาณตามที่ต้องการถึงจะลงมือทำได้

การผลิตผงนัวในช่วงแรกๆ ทำออกมา 2 สูตร รสมันหวาน ใช้สำหรับ ต้ม ผัด หมักแกง และย่าง ส่วนอีกสูตร รสเปรี้ยว เหมาะใช้กับต้มยำ, ยำ, ลาบ, อ่อม และแจ่ว

แต่ปัจจุบันทางกลุ่มฯบ้านยางโล้นได้ทำออกมากว่า 10 สูตร และยังรับทำสูตรตามสั่งอีกต่างหาก...สนใจเพิ่มรสชาติอาหารสไตล์ไทยแท้แต่โบราณ สอบถามได้ที่ 08-1051-9521, Fb : ผงนัวยางโล้น หรือไอดีไลน์ 123yangloan

ไชยรัตน์ ส้มฉุน