ตร. ยืนยันแจ้งข้อหา "แก๊งเจ้าหนี้" บุกโรงเรียนทวงเงินครูแล้ว แม้จะมีการคืนเงินจบกันด้วยดี ด้าน ผอ. เตรียมเพิ่มมาตรการป้องกัน-ให้ครูลาออก
จากกรณีเหตุการณ์ แก๊งเงินกู้ควงปืนบุกทวงหนี้ในโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในยามวิกาล ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจับกุมตัว 2 เจ้าหนี้ดังกล่าว พร้อมอาวุธของกลาง นำส่ง ร.ต.ท.กิตติพงศ์ ปัญญามูล พงส.สภ.เมืองน่าน โดยแจ้งข้อกล่าวหา มีและพกอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และข่มขู่ให้ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจ โดยการขู่เข็ญ ดังที่นำเสนอข่าวไปแล้ว (จับแล้วแก๊งเงินกู้ควงปืนบุกทวงหนี้ครูถึงในโรงเรียน คิดค่าเสียเวลาชั่วโมงละ 300)
ล่าสุดวันที่ 30 ม.ค. 68 พล.ต.ต.ดเรศ กัลยา ผบก.ภ.จว.น่าน พร้อมด้วยลูกหนี้ผู้เสียหาย และนางกานต์รวี แก้ววี ผู้อำนวยการโรงเรียนเอกชน ได้ร่วมกันแถลงข่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่าเรื่องจบด้วยดี เป็นเรื่องเข้าใจผิดไม่ใช่แก๊งเงินกู้ เป็นการยืมเงินกันเท่านั้น
โดยครูแป๋ม ผู้เป็นลูกหนี้ ชี้แจงว่า ขณะนี้ได้คืนเงินที่เป็นหนี้ทั้งหมดกับเจ้าหนี้เรียบร้อยแล้ว และได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ในส่วนของวันเกิดเหตุด้วยความตกใจ จึงได้ส่งข้อความไปขอความช่วยเหลือ แต่ที่จริงแล้วก็รู้จัก 2 คนนั้นเป็นอย่างดี เพราะทำงานอยู่ร้านล้างรถหน้าโรงเรียน และเป็นการยืมเงินกันเท่านั้น ส่วนรถจักรยานยนต์ที่เจ้าหนี้ยึดไปวันนั้น ก็เป็นข้อตกลงกันตั้งแต่ที่ไปยืม ที่ผ่านมาเจ้าหนี้ก็ไม่เคยมาข่มขู่ทวงหนี้ในลักษณะนี้เลย อาจด้วยดื่มมา มึนเมาเลยมีอารมณ์โมโหก่อเหตุดังกล่าว
ด้านนางกานต์รวี แก้ววี ผู้อำนวยการโรงเรียนเอกชน ยอมรับว่าบุคคล 2 คนที่เข้ามาทวงหนี้ครูในโรงเรียน เป็นลูกน้องของตน ที่ทำงานอยู่ร้านคาร์แคร์ ซึ่งตนเองเป็นเจ้าของ แต่ไม่ทราบว่ามีการยืมเงิน คิดดอกเบี้ยกันอย่างไร และที่ผ่านมาครู เจ้าหน้าที่โรงเรียนก็ใช้บริการ เรียกทั้งคู่มารับรถไปล้าง จึงเป็นที่รู้จักเพราะเข้าออกโรงเรียนอยู่เป็นประจำ
...
ทั้งนี้ ยอมรับในความผิดพลาดที่หละหลวมของโรงเรียน ไม่มี รปภ. เพราะเพิ่งไล่ออกไป เนื่องจากมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม อีกทั้งที่ผ่านมาโรงเรียนก็ไม่เคยปิดประตูโรงเรียนเลยตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งหลังจากนี้ทางโรงเรียนจะได้มีมาตรการเข้มขึ้น ทั้งการติดกล้องวงจรปิด การคัดบุคคลเข้าออกโรงเรียน ส่วนของครูแป๋ม ลูกหนี้เหตุการณ์นี้ เบื้องต้นได้ให้ออกจากการเป็นครูของโรงเรียน เนื่องจากผู้ปกครองเป็นกังวลว่าหากยังอยู่ในโรงเรียน จะมีเหตุการณ์ลักษณะนี้ได้อีก
ขณะที่ พล.ต.ต.ดเรศ กัลยา ผบก.ภ.จว.น่าน กล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ตาม ถึงจะจบกันด้วยดี แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แจ้งความเพิ่มกับ 2 เจ้าหนี้ ตาม พ.ร.บ. ห้ามเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตรา และการทวงเงินในยามวิกาล และในส่วนประเด็นเรื่องเบอร์โทรศัพท์ของผู้แจ้งเหตุหลุดจนเป็นเหตุให้เกิดการคุกคามนั้น ขอยืนยันแน่นอนว่าไม่ได้เกิดจากศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 แน่นอน แต่พร้อมให้ความมั่นใจเรื่องความปลอดภัยหากถูกคุกคามข่มขู่
ทั้งนี้ ประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือมีการทวงหนี้ผิดกฎหมาย หรือมีการปล่อยเงินกู้นอกระบบที่เกินอัตราที่กำหนดไว้ สามารถมาแจ้งความเพื่อดำเนินคดี ซึ่งที่ผ่านมาหลายรายใช้วิธีไกล่เกลี่ยไม่ประสงค์ดำเนินคดี ก็สามารถทำได้ ซึ่งหลังจากนี้จะมีการหารือกับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดน่าน เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาเรื่องหนี้นอกระบบ