สาวหน้าตาดีถูกเพื่อนบ้าน ติดกล้องหันเข้าบ้าน ส่องห้องนอน ดูพฤติกรรม ไม่พอมีโพสต์หน้าเฟซฯ พร้อมรูปโดรนบินเข้าไปในบ้านเธอ เขียนแคปชั่น “ระวังผมจะไปบ้านคุณ” สร้างความหวาดกลัวและรำคาญ กลางคืนมีแสงไฟสีเหลืองส่องรบกวน บางวันกล้องยังส่งเสียงประหลาดๆ ออกมาด้วย
วันที่ 19 พ.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านป่าเหมือด ซอย 2 หมู่ 8 ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย พบบริเวณบ้านมีอยู่ 3 หลัง ด้านหน้าเป็นตึก และด้านหลังมีบ้านชั้นเดียว 2 หลัง ด้านหลังติดกับโกดัง ได้พบกับ น.ส.เพ็ญนภา (ยุ้ย) เจ้าของบ้าน เผยว่า ตนอยู่กับแม่คนละหลัง ด้านหน้าแม่อยู่ ส่วนบ้านด้านหลังที่ติดกับโกดังเป็นบ้านที่ตนอยู่
จากนั้น ยุ้ย ได้พาผู้สื่อข่าวดูกล้องวงจรปิด ที่ส่องดูพฤติกรรมของเธอตลอดเวลา ไม่ว่าจะออกบ้านเข้าบ้าน หรืออยู่ในห้องนอน สร้างความหวาดกลัว และรำคาญให้กับเธอ พบว่า กล้องดังกล่าวเป็นกล้องอัตโนมัติหมุดได้รอบทิศ สามารถสั่งหมุนได้ หรือให้ติดตามสิ่งที่เคลื่อนไหว โดยมีกล้องติดตั้งส่องเข้ามาในบ้าน น.ส.ยุ้ย 2 ตัว เหมือนตั้งใจส่องเข้ามาดูความเคลื่อนไหวคนในบ้าน ซึ่งตามหลักแล้วหากจะติดตั้งส่องขโมย ต้องตั้งกล้องมุมเฉียงมุมรั้วส่องยาวรั้วบ้านของตนเอง แต่กลับส่องตรงๆ เข้าในบ้านเพื่อนบ้าน ขณะที่ น.ส.ยุ้ย ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว กล้องเหมือนจะส่องเห็นผู้สื่อข่าว จึงได้รีบบิดหันกล้องไปทางอื่น พร้อมกับตะโกนมา แก้ไขให้แล้วนะ
น.ส.ยุ้ย ยังได้พาผู้สื่อข่าวไปดูในห้องนอน ที่แสงไฟของกล้องอัตโนมัติ ส่องแสงทะลุกระจกเข้ามาในห้องนอน น.ส.ยุ้ย บอกว่ากลางคืนจะเห็นได้ชัดแสงไฟจะหมุนส่องแสงเข้ามาในห้องนอนเป็นระยะ เหมือนถูกบังคับให้ส่องมาที่ห้องนอน (กล้องอาจสามารถดูกลางคืนได้) ทำให้ น.ส.ยุ้ย ต้องไปซื้อผ้าม่านกันแสงส่องเข้ามาห้องนอน 100% เอากระดาษกาวปิดข้างผ้าม่าน ทุกวันกล้องจะมีเสียงดังติ๊ดๆ หรือเสียงไซเรน เสียงผี ทั้งแสงไฟกล่องและเสียงทำให้นอนไม่หลับ เป็นปัญหามาแรมปี เคยไปแจ้งในเทศบาลมาดูแล้ว แก้ไขแบบขอไปที ไม่นานกลับมาเหมือนเดิน แจ้งตำรวจไปเตือน พักเดียวกลับมาอีก เคยมีเพื่อนบ้านข้างบ้าน เป็นบ้านเช่าเปลี่ยนคนเช่ามา 5 ครอบครัวแล้ว ทนไม่ไหวกับพฤติกรรมเพื่อนบ้านที่ส่องกล้องอัตโนมัติ มีแสงไฟมีเสียง กลางคืนรบกวนตลอดเวลาเหมือนชีวิตไม่เป็นส่วนตัว
...
ด้านแม่ น.ส.ยุ้ย ยังเล่าอีกว่า พฤติกรรมเพื่อนข้างบ้านเป็นชายหนุ่ม เจ้าของกล้องอัตโนมัติ ชอบขับรถมาเร่งเครื่องที่หน้าบ้านตนเองหลายครั้ง หน้าบ้านอื่นก็ไม่ทำจงใจบ้านตนเองเท่านั้น ซึ่งก็ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือด้วย