ม็อบหยุดเอเปกบุกกงสุลสหรัฐฯ เรียกร้องขอให้สหรัฐฯ ยกเลิกข้อตกลงที่ทำกับ รบ.ไทย เพื่อร่วมรับผิดชอบสลายชุมนุม 18 พ.ย. ที่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชน พร้อมจี้ทางการไทยปฏิรูปการใช้หน่วยควบคุมฝูงชน

เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2565 มวลชนคณะก่อการล้านนา พันธมิตรกลุ่มเครือข่ายราษฎรหยุดเอเปก 2022 ประมาณ 20 คน รวมตัวถือป้าย “Bloody APEC ต้องมีคนรับผิดชอบ” พร้อมกับชูภาพถ่ายการสลายการชุมนุม ประท้วงริมฝั่งแม่น้ำปิง ด้านหน้าสถานกงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกาประจำจังหวัดเชียงใหม่ เรียกร้องให้สหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชียแปซิฟิก หรือ เอเปก มีส่วนร่วมในการรับผิดชอบต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นในการประชุมเอเปก 2022

จากนั้นกลุ่มมวลชนได้เคลื่อนตัวไปที่ด้านหน้าสถานกงสุลฯ อ่านแถลงการณ์ที่มีเนื้อหาสำคัญระบุถึงกรณีตำรวจควบคุมฝูงชนใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุกับผู้ชุมนุมเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา จนทำให้มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 31 คน และอีก 26 คนถูกจับกุมในที่เกิดเหตุ นอกจากนี้ยังมีความพยายามของรัฐบาลไทยในการเข้าถึงข้อมูลในเฟซบุ๊กส่วนตัวของนักกิจกรรมที่ถูกดำเนินคดีตามมาตรา 112 ที่ร่วมการเคลื่อนไหวการรวมตัวครั้งนี้

...

นายพชร คำชำนาญ ตัวแทนกลุ่มราษฎรหยุดเอเปก 2022 ได้ยื่นหนังสือกับตัวแทนสถานกงสุลฯ เรียกร้องให้สหรัฐอเมริกาที่เป็นส่วนหนึ่งของเอเปก มีส่วนร่วมในการรับผิดชอบต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นด้วยการกดดันรัฐบาลไทย ให้ทำตามข้อเรียกร้องของกลุ่มราษฎรหยุดเอเปก ต่อการสลายการชุมนุมด้วยความรุนแรง และขอให้อเมริกายกเลิกข้อตกลงร่วมกับประเทศไทยที่เกิดขึ้นระหว่างประชุมเอเปก โดยขอให้คำนึงถึงหลักการ Business and Human Rights จะต้องศึกษาผลกระทบของข้อตกลงต่างๆ ว่าส่งผลต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เพิ่มขึ้นโดยรัฐไทย รวมถึงการแย่งชิงทรัพยากรโดยรัฐ หรือกลุ่มทุนขนาดใหญ่จากประชาชนหรือไม่

นอกจากนี้ยังมีข้อเรียกร้องถึงรัฐบาลไทยในการสลายการชุมนุมด้วยความรุนแรง 4 ข้อ ประกอบด้วย

1. สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องออกมาแสดงการยอมรับผิดและออกมาขอโทษกับกรณีที่เกิดขึ้นในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2565
2.ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและส่วนที่เกี่ยวข้อง ออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น และ
ชดใช้ค่าเสียหายทั้งร่างกายและสิ่งของที่สูญเสียไป
3. สำนักงานตำรวจแห่งชาติและส่วนที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการหาตัวผู้สั่งการและผู้กระทำความผิดใน
การสลายการชุมนุมเกินกว่าเหตุ จากการสลายการชุมนุม เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2565 และมาลงโทษ ทั้งทางวินัยและทางอาญา
4. ปฏิรูปการควบคุมการชุมนุมให้สนับสนุนการใช้สิทธิและเสรีภาพในการชุมนุมแก่ประชาชน โดย
รับประกันว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ตำรวจใช้ความรุนแรงกับประชาชนอีก โดยอย่างน้อยต้องมีการเปิดเผยรายชื่อเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ควบคุมการชุมนุมทุกนาย ทุกครั้ง และ เจ้าหน้าที่ทุกคนทั้งในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบ ต้องถูกระบุตัวตนได้ ทั้งนี้เพื่อป้องกันการที่เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ เป็นผู้สร้างสถานการณ์ความรุนแรงเสียเอง และให้ยึดหลักการสิทธิมนุษยชนในการชุมนุมตามหลักสากลและปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบที่เอื้อต่อประชาชนในการใช้สิทธิเสรีภาพในการชุมนุม

กลุ่มราษฎรหยุดเอเปก 2022 ยืนยันว่าการชุมนุมที่เกิดขึ้นเป็นการชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธตามหลักสากล และ การชุมนุมรวมตัวกันก็เพื่อต้องการมีส่วนร่วมโดยการยื่นข้อเรียกร้องและความคิดเห็นเชิงนโยบายต่อผู้นำประเทศต่างๆ ในการประชุมเอเปก และ ข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เท่านั้นเพราะ "เราไม่ใช่แค่ผู้บริโภค แต่เราคือผู้ได้รับผลกระทบด้วย"

การรวมตัวยื่นหนังสือครั้งนี้ใช้เวลาราว 30 นาที ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ และ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ก่อนที่จะแยกย้ายสลายตัวโดยไม่มีเหตุรุนแรงบานปลายเกิดขึ้น.

...